คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องแย้ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 754 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2399/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความค่าจ้างว่าความ และการฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม
เมื่อมีข้อตกลงกันว่า ถ้า โจทก์ฟ้องคดีให้จำเลยได้เงินจำนวน10 ล้านบาท จำเลยจะต้อง จ่ายเงินค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์จำนวน1 ล้านบาท ภายหลังที่คดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว สิทธิเรียกร้องในค่าว่าจ้างว่าความของโจทก์ก็ย่อมเริ่มนับแต่วันที่จำเลยได้รับเงินจำนวนดังกล่าวเป็นต้นไป เมื่อนับถึง วันยื่นฟ้องเลยระยะเวลา2 ปี คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความ แม้ก่อนหน้านั้นจำเลยได้ ชำระค่าจ้างว่าความให้โจทก์เป็นเช็ค ซึ่ง เป็นการรับสภาพหนี้ อายุความย่อมสะดุดหยุดลงและเริ่มต้นนับกันใหม่นับแต่วันที่ระบุในเช็คอันเป็นวันที่โจทก์สามารถบังคับตาม สิทธิเรียกร้องได้ เป็นต้นไปแต่ เมื่อนับถึง วันฟ้องก็ล่วงเลยระยะเวลา 2 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ฟ้องเดิมของโจทก์เป็นเรื่องที่ขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระค่าจ้างว่าความที่ค้าง เมื่อจำเลยให้การปฏิเสธ คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า จำเลยยังคงค้างชำระค่าจ้างว่าความอยู่จริงหรือไม่ การที่จำเลยฟ้องแย้งขอเรียกทรัพย์คืนโดย อ้างเหตุเนรคุณเป็นคนละเรื่องคนละประเด็น แตกต่าง ไปจากฟ้องเดิมของโจทก์ที่ขอบังคับตาม สัญญาจ้างว่าความ หาได้ เกี่ยวข้องกับสิทธิและหน้าที่ตาม สัญญาที่โจทก์อ้างความผูกพันอันจำเลยจะต้อง รับผิดไม่ หากจำเลยเห็นว่าเงินที่มอบให้โจทก์ไปนั้นความจริงเป็นการให้โดย เสน่หา และการกระทำของโจทก์เป็นการประพฤติเนรคุณ อันเป็นต้นเหตุให้จำเลยมีสิทธิถอนคืนการให้ได้ แล้ว ก็ชอบที่จำเลยจะไปว่ากล่าวเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหากฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่อาจรับไว้พิจารณารวมกับฟ้องเดิมได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย และสิทธิในการฟ้องแย้งของบุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยที่ 1 ทำหนังสือสัญญายกที่ดินมีโฉนดให้โจทก์ และรับรองว่าจะจัดการแบ่งแยกให้ในภายหน้า หากไม่แบ่งให้ตามสัญญา ยอมให้โจทก์ฟ้องบังคับตามสัญญา ข้อสัญญาดังกล่าวแสดงว่าจำเลยที่ 1ประสงค์จะยกที่ดินให้โจทก์โดยการทำนิติกรรม และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หาใช่เป็นกรณีสละการครอบครองไม่ เมื่อการให้รายนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ นิติกรรมให้ก็ย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย การที่โจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทจึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิของจำเลยที่ 1 อันเป็นการยึดถือที่พิพาทแทนจำเลยที่ 1มิใช่เป็นการยึดถือในฐานะเป็นเจ้าของ แม้โจทก์ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาเกินสิบปี โจทก์ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1562 ที่ห้ามฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาเป็นบทกฎหมายที่จำกัดสิทธิ ต้องตีความโดยเคร่งครัด จึงห้ามเฉพาะบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายฟ้องบุพการีของตนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2163/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาซื้อขาย และการเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลส่งผลให้ศาลไม่รับวินิจฉัยฟ้องแย้ง
ในชั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้จำเลยเสียค่าขึ้นศาลในส่วนที่ขอให้บังคับตามฟ้องแย้ง จำเลยเพิกเฉย ศาลอุทธรณ์จึงให้จำหน่ายฟ้องแย้งของจำเลยเสีย ฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่า จำเลยมีสิทธิเรียกเงินค่าประกันพร้อมดอกเบี้ยคืนจากโจทก์ และโจทก์ต้องคืนอุปกรณ์การเจาะหรือชดใช้ราคาตามท้องตลาดปัจจุบันให้แก่จำเลยตามฟ้องแย้งของจำเลยหรือไม่ จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับค่าเสียหายว่า เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว โจทก์ได้จัดซื้ออุปกรณ์การเจาะอย่างเดียวกับที่เคยทำสัญญาซื้อขายกับจำเลยใหม่ โดยซื้อจากบริษัท ท. ในราคา 392,975 บาท ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 10 เป็นเหตุให้โจทก์ต้องใช้ราคาสูงเพิ่มขึ้นจากสัญญาซื้อขายที่ทำกับจำเลยเป็นเงิน 208,785 บาท เป็นการแสดงถึงความเสียหายของโจทก์จากการที่จำเลยผิดสัญญาไว้อย่างชัดแจ้ง ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ต้องซื้อสินค้าซึ่งจำเลยไม่ส่งมอบตามสัญญาแพงขึ้นและเรียกเบี้ยปรับตามสัญญา เป็นกรณีที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ ต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 สิทธิเรียกร้องดังกล่าวจึงมีอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องแย้งในคดีแรงงานและการวินิจฉัยความรับผิดจากหน้าที่การงาน ศาลฎีกาพิพากษากลับ
ฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดต่อสัญญาจ้างแรงงาน การที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้โจทก์รับผิดชดใช้ค่าซ่อมรถยนต์ของลูกค้าให้แก่โจทก์โดยอ้างว่าโจทก์ปฏิบัติผิดต่อหน้าที่นั้น ย่อมเป็นกรณีที่จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิดต่อสัญญาจ้างแรงงานเช่นเดียวกัน ถือว่าฟ้องแย้งของจำเลยเกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์จำเลยมีอำนาจฟ้องแย้งได้
การที่ศาลชั้นต้นยกเอาข้อเท็จจริงในส่วนที่ว่าจำเลยไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ให้ลูกค้าในสภาพเรียบร้อยเพราะโจทก์ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยมิได้ระมัดระวังเป็นเหตุให้ผูใต้บังคับบัญชาของโจทก์นำรถยนต์ไปใช้ส่วนตัวจนเกิดอุบัติเหตุเสียหายขึ้นวินิจฉัยนั้นปรากฏว่าจำเลยหาได้ถือเหตุดังกล่าวเรียกร้องให้โจทก์รับผิดชดใช้ค่าเสียหายไม่ จึงเป็นการวินิจฉัยไม่ชอบเพราะไม่เกี่ยวกับประเด็นแห่งคดี.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับพิจารณาได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตามสัญญายืม จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กู้และฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระเงินที่จำเลยมอบให้โจทก์เป็นค่าติดต่อส่งคนไปทำงานต่างประเทศคืน โดยขอนำเงินดังกล่าวหักออกจากสัญญากู้ยืม ดังนี้ ฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน และไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมอันศาลจะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวพันกับมูลหนี้เดิม ศาลไม่รับพิจารณา ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
ฟ้องเดิมโจทก์เรียกหนี้เงินกู้ตามสัญญายืม ส่วนฟ้องแย้งของจำเลยเรียกเงินค่าป่วยการที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ตามสัญญาต่างตอบแทนคืน ดังนี้ เป็นคนละเรื่องคนละประเด็นไม่เกี่ยวพันกับมูลหนี้เดิมตามฟ้องโจทก์ ศาลไม่รับฟ้องแย้ง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม: เหตุผลที่ไม่รับฟ้องแย้งในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตามสัญญากู้ยืม จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กู้และฟ้องแย้งขอให้โจทก์ชำระเงินที่จำเลยมอบให้โจทก์เป็นค่าติดต่อส่งคนไปทำงานต่างประเทศคืน โดยขอนำเงินดังกล่าวหักออกจากสัญญากู้ยืม ดังนี้ ฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน และไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลรับพิจารณาเฉพาะฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยตาม สัญญายืม จำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้กู้และฟ้องแย้ง ขอให้โจทก์ชำระเงินที่จำเลยมอบให้โจทก์เป็นค่าติดต่อ ส่งคนไปทำงานต่างประเทศคืน โดย ขอนำเงินดังกล่าวหักออกจากสัญญากู้ยืม ดังนี้ ฟ้องแย้งจึงเป็นคนละเรื่องคนละประเด็นกัน และไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมอันศาลจะรับไว้พิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งมีเงื่อนไข – อุทธรณ์ไม่ชัดแจ้ง – ศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย โดยวินิจฉัยว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นฟ้องที่มีเงื่อนไขและยังไม่มีข้อโต้แย้งตามกฎหมายจำเลยอุทธรณ์ว่า ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบอย่างไรหรือเพราะเหตุใด จึงเป็นอุทธรณ์ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ชอบที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ไม่ชัดแจ้ง: ฟ้องแย้งต้องโต้แย้งคำสั่งเดิม
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย โดย วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งของจำเลยเป็นฟ้องที่มีเงื่อนไขและยังไม่มีข้อโต้แย้งตาม กฎหมาย จำเลยอุทธรณ์ว่าฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องเกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ มิได้โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นว่าไม่ชอบอย่างไรหรือเพราะเหตุใด จึงเป็นอุทธรณ์ไม่ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ชอบที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย.
of 76