คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยึดทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 784 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ยึดทรัพย์และข่มขืนใจเรียกรับเงิน ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148
จำเลยเป็นผู้บังคับกองสถานีตำรวจเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ยึดแร่ดีบุกกับหนังสือกำกับแร่เคลื่อนที่ของบริษัทเหมืองแร่ฯ แล้วข่มขืนใจให้ผู้จัดการเหมืองมอบเงินให้จำเลย เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 เท่านั้น จำเลยไม่มีหน้าที่จับแร่ที่เขาขนมาโดยชอบ การที่จำเลยจับแร่ที่ขนมาจึงไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ หากแต่เป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบที่จำเลยมีอยู่ในการจับ กรณีจึงไม่ต้องด้วยองค์ประกอบอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการยึดทรัพย์เพื่อชำระหนี้: การกระทำโดยไม่มีเจตนาร้ายจึงไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
น. ค้างชำระค่าเช่านาจำเลยอยู่ 29,400 บาท จำเลยเคยทวง น. ก็ยังไม่ชำระให้ จำเลยเคยขอให้ผู้ใหญ่บ้านไปยึดทรัพย์ของ น. ให้ ผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ยอมไปวันเกิดเหตุจำเลยกับพวกไปถามหา น. ที่บ้าน คนเฝ้าบ้านของ น. บอกว่าไม่อยู่ จำเลยเข้าตรวจค้นในเรือนไม่พบ จำเลยกับพวกจึงแก้เอากระบือของ น. กับเกวียนของม. ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นของ น. ไป รวมราคา 7,500 บาท ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของ น. และม. ไปเพื่อหักใช้หนี้กัน และทรัพย์นั้นก็ไม่เกินกว่าจำนวนหนี้ ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ยึดทรัพย์แล้วยังขอเฉลี่ยได้ หากทรัพย์ยึดไม่พอชำระหนี้และลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอื่น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นแม้จะได้ยึดทรัพย์อื่นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แล้ว แต่ถ้าเจ้าหนี้นั้นแสดงได้ว่าทรัพย์ที่ยึดไว้นั้นไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ของตนได้สิ้นเชิง และลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินอื่นพอชำระหนี้ ก็ย่อมร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 897/2510)
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยวันใด กำหนดระยะเวลายื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องเริ่มนับหนึ่งในวันรุ่งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 เมื่อครบกำหนดสิบสี่วันในวันหยุดราชการ ผู้ร้องย่อมยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ในวันรุ่งขึ้นซึ่งศาลเริ่มทำงานใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 161 กรณีไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นตาม มาตรา 158 ตอนท้าย เพราะเมื่อขายทอดตลาดแล้ว การขายก็เป็นอันเสร็จสิ้นไปไม่มีลักษณะหรือสภาพเป็นงานที่ต้องทำต่อ ๆ ไปอีก อันจะเป็นเหตุให้ถือว่าได้เริ่มการตั้งแต่วันขายทอดตลาดเป็นต้นไป (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1809/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการบังคับคดีหลังคำพิพากษาถึงที่สุด แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน โจทก์ไม่อาจยึดทรัพย์ได้ หากกระทบสิทธิผู้รับโอน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส. 3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้รับโอนที่ดินตามคำพิพากษาเหนือกว่าเจ้าหนี้ที่ยึดทรัพย์ แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส.3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 836/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการยึดทรัพย์: สิทธิในที่ดินสูญเสียเมื่อไม่ฟ้องแย่งการครอบครองภายใน 1 ปี
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 จะต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครองไม่ใช่นับแต่วันรู้ว่าถูกแย่งการครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการยึดทรัพย์สินและการขอถอนอายัดที่ดินที่ถูกยึดก่อนหน้านี้
ผู้ร้องเป็นโจทก์และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 209/2511 และผู้ร้องได้ยึดที่ดินพิพาทในคดีนี้ไว้ในคดีที่กล่าวแล้วผู้ร้องชอบที่จะมีคำขอให้ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแต่ในคดีนั้นจะประกาศขายทอดตลาดได้หรือไม่ ต้องว่ากล่าวกันไปในคดีที่ผู้ร้องเป็นคู่ความผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งถอนอายัดในคดีที่ผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความด้วยและกรณีไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้ยึดซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 672/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในการยึดทรัพย์ และการถอนอายัดที่ดินพิพาทที่ถูกยึดก่อน
ผู้ร้องเป็นโจทก์และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 209/2511 และผู้ร้องได้ยึดที่ดินพิพาทในคดีนี้ไว้ในคดีที่กล่าวแล้ว ผู้ร้องชอบที่จะมีคำขอให้ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทแต่ในคดีนั้นจะประกาศขายทอดตลาดได้หรือไม่ ต้องว่ากล่าวกันไปในคดีที่ผู้ร้องเป็นคู่ความ ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งถอนอายัดในคดีที่ผู้ร้องมิได้เป็นคู่ความด้วยและกรณีไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้ยึดซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องของบุคคลภายนอกตามคำพิพากษา: ไม่ต้องยึดทรัพย์ลูกหนี้ก่อน
คดีที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกำหนดให้ชำระเงินจำนวนหนึ่งนั้นวิธีอายัดเงินที่บุคคลภายนอกจะต้องชำระให้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาในภายหลังก็ตกอยู่ภายใต้การบังคับคดีเช่นเดียวกับการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้โดยตรง โดยไม่จำต้องกระทำก่อนหลังตามลำดับเลขหมายที่ระบุไว้ในมาตรา 282ประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งนั้น
มาตรา 310 ที่บัญญัติว่า "เมื่อได้มีการยึดทรัพย์แล้ว สิทธิเรียกร้องของลูกหนี้อันมีต่อบุคคลภายนอกนั้น ให้จัดการดังต่อไปนี้ ฯลฯ" นั้น มีความหมายว่า เมื่อศาลได้ออกหมายบังคับคดีแล้ว ซึ่งในลักษณะ 2 ว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และ หมวด 2 บัญญัติวิธีการยึดทรัพย์ไว้ก่อนการอายัดอันเป็นบทมาตราที่เรียงต่อกันมาเท่านั้นมิได้มีความหมายจำกัดว่าจะต้องทำการยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาก่อนแล้วจึงจะอายัดสิทธิเรียกร้องได้
ศาลชั้นต้นได้ออกหมายบังคับคดีระบุให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการอายัดเงินค่าหุ้นจาก พ. มิใช่คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีหากแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการไปตามคำสั่งของศาลเท่านั้น
ข้อที่ผู้ร้องฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้ส่งคำสั่งอายัดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบ คำสั่งอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีถึงผู้ร้องไม่มีข้อห้ามชำระเงินแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือว่าห้ามลูกหนี้งดเว้นการจำหน่ายสิทธิเรียกร้อง ผู้ร้องไม่ได้ว่ามาแต่ศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดสิทธิเรียกร้องเงินจากกรมทางหลวงไม่ใช่การยึดทรัพย์ ผู้ร้องไม่มีสิทธิขอเฉลี่ย
เงินค่าก่อสร้างที่จำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเบิกตามงวดจากกรมทางหลวงแผ่นดิน เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะขอให้อายัดไว้ ฉะนั้น เจ้าหนี้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องยื่นคำขอภายในบังคับตามมาตรา 290 วรรคสี่ มิใช่กรณียึดเงินซึ่งเจ้าหนี้จะอ้างว่ายังอยู่ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 290 วรรคห้า โดยนับแต่วันที่กรมทางหลวงส่งเงินมาให้กองบังคับคดีแพ่งดังที่อ้าง
of 79