คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับของโจร

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 644 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุมและการรับของโจร แม้ผู้ลักทรัพย์ไม่ถูกลงโทษ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยลักแชลก (ครั่งเม็ด) และรับของโจรแล้วมีความในวงเล็บว่าครั่งเม็ด แต่นำสืบว่าครั่งเม็ดหาย จำเลยเป็นผู้ลักและรับของโจรดังนี้ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะโจทก์ใช้ถ้อยคำในฟ้องให้เข้าใจโดยมีความในวงเล็บว่า ครั่งเม็ดไม่มีทางจะรับฟังไปได้ว่าครั่งเม็ดของกลางไม่ใช่แชลกตามฟ้องของโจทก์
ฟ้องว่าลักทรัพย์ รับของโจรเมื่อได้ความว่าทรัพย์รายนั้นได้ถูกลักไป แม้ว่าจะไม่ได้ตัวผู้ลักทรัพย์มาลงโทษตามกฎหมาย ก็ลงโทษผู้รับของโจรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาลในคดีรับของโจร: สถานที่จับกุม vs. สถานที่เกิดเหตุ
ในความผิดฐานรับของโจรโคของกลางจับได้ที่จังหวัดสงขลาแต่โคนี้ถูกคนร้ายลักจากจังหวัดพัทลุงความผิดได้เริ่มเกิดในเขตอำนาจศาลจังหวัดพัทลุงๆ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจร - พยานหลักฐานไม่เพียงพอ - คำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายใช้ไม่ได้
คดีรับของโจร คำของจำเลยที่ 1 บอกตำรวจว่าซื้อของกลางจากจำเลยที่ 2 เป็นคำบอกเล่าและคำซัดทอดระหว่างผู้ร้ายฟังยันจำเลยที่ 2 มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ซื้อต้องรู้ว่าเป็นของโจรจึงผิดฐานรับของโจร
การที่จะเอาผิดแก่ผู้ซื้อฐานรับของโจรนั้น โจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่า ผู้ซื้อรับซื้อไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นของร้ายที่ได้มาจากการกระทำผิดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 904/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องอาญาเคลือบคลุม: การระบุข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรที่ไม่ชัดเจน ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ จับจำเลยได้พร้อมด้วยของกลางซึ่งจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าได้มาจากการกระทำผิด เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีลักทรัพย์-รับของโจร การระบุวันเวลาทำผิดชัดเจนเพียงพอต่อการดำเนินคดี
ฟ้องบรรยายว่า เมื่อเวลาค่ำคืนระหว่างวันที่ 6 - 7 พฤศจิกายน 2494 คนร้ายได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป ต่อมาวัน
ที่ 7 เดือนเดียวกัน เวลากลางวัน จับของกลางได้ที่ลิ้นชักตู้ของจำเลยทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์นั้นมาร หรือมิฉะนั้นจำเลยก็รับเอาทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ไว้จากโจรโดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา 293, 294, 321 คงถือได้ว่า ฟ้องดังกล่าวได้มีวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยทำ
ผิดไว้แล้ว เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158(5) แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุวันเวลาการกระทำผิดและการรับของโจร
ฟ้องบรรยายว่า เมื่อเวลาค่ำคืนระหว่างวันที่ 6-7พฤศจิกายน2494 คนร้ายได้ลักทรัพย์ของผู้เสียหายไปต่อมาวันที่ 7 เดือนเดียวกัน เวลากลางวัน จับของกลางได้ที่ลิ้นชักตู้ของจำเลยทั้งนี้โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์นั้นมา หรือมิฉะนั้นจำเลยก็รับเอาทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ไว้จากโจรโดยรู้ว่าเป็นของร้ายได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 293,294,321คงถือได้ว่า ฟ้องดังกล่าวได้มีวันเดือนปีที่หาว่าจำเลยทำผิดไว้แล้วเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรเกี่ยวกับทรัพย์สาธารณะประโยชน์ ต้องลงโทษตามกฎหมายพิเศษ แม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ. 2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพะยานต่อไปได้ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 176 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดฐานลักทรัพย์แม้จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลต้องลงโทษตามความผิดที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์ หรือรับของโจรทรัพย์สิ่งของที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในภาวะคับขัน พ.ศ.2486 มาตรา 3 กำหนดโทษอย่างสูงไว้ถึงจำคุก 10 ปีขึ้นไป ดังนี้ แม้จำเลยรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานรับของโจรแล้ว โจทก์ก็นำพยานมาสืบให้ศาลฟังพยานต่อไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 76 ได้ และเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ อันเป็นความผิดที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลก็ต้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามความผิดที่ได้กระทำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานลักทรัพย์และการสมคบกันรับของโจร: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากจำเลยเข้าใจข้อกล่าวหา
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าคนร้ายลักไม้ของเจ้าทรัพย์ไป ต่อมาจับไม้ที่หายบางส่วนได้จากจำเลยที่ 2,3,4 โจทก์กล่าวยืนยันเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 ได้สมคบกันจำเลยที่ 2,3,4 ลักไม้หรือสมคบกันรับไม้ของกลางไว้จากคนร้าย ฯลฯ นั้นมีข้อความชัดพอให้จำเลยที่ 1 เข้าใจได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
of 65