คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 558 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยประเด็นนอกข้อหาอุทธรณ์: ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นที่ไม่ได้รับการอุทธรณ์จากโจทก์ ถือเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา
โจทก์อุทธรณ์ว่า พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ถูกรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2490 ยกเลิกไปสิ้นเชิงแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาที่ว่าห้องพิพาทเป็นเคหะตามความหมายของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ หรือไม่ ดังนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ตรงตามข้อหาในคำฟ้องอุทธรณ์ โดยวินิจฉัยในปัญหาที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ อันเป็นการมิชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142,242,243,246

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเบื้องต้น แม้จำเลยมิได้ยกประเด็นในคำให้การ
โจทก์จะมีอำนาจฟ้องเพียงใดหรือไม่นั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ แม้จำเลยจะไม่ได้กล่าวความข้อนั้นไว้ในคำให้การก็ตาม
โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่ากรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มีอำนาจฟ้องคดี หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้อง: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเบื้องต้น แม้จำเลยมิได้ยกข้อกล่าวอ้างเรื่องอำนาจฟ้อง
โจทก์จะมีอำนาจฟ้องเพียงใดหรือไม่นั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ แม้จำเลยจะไม่ได้กล่าวความข้อนั้นไว้ในคำให้การก็ตาม
โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่า กรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ มีอำนาจฟ้องคดีหรือไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องบังคับทางสาธารณะต้องแสดงการกระทำที่เป็นละเมิด มิเช่นนั้นขาดประเด็นให้วินิจฉัย
ฟ้องขอให้บังคับจำเลยเปิดลำรางและทางสาธารณะ แต่คำฟ้องไม่ปรากฏว่า จำเลยได้ปิดทางหรือกระทำการใดๆ แก่ทางอันเป็นความเสียหายแก่โจทก์ ดังนี้ ถือว่า ไม่ได้ตั้งใจพิพาทเกี่ยวกับทางมาในคำฟ้อง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดในข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 609/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกาวินิจฉัยกลับข้อเท็จจริงเรื่องการครอบครองและกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้วจึงตาย จำเลยที่ 1 เป็นทายาทของผู้ตาย ได้ขอโอนรับมรดกที่พิพาท และโอนขายให้จำเลยที่ 2 โดยไม่สุจริต จึงขอให้ศาลแสดงว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาท และถอนชื่อจำเลยที่ 2 ออกจากโฉนด
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามพยานโจทก์ พิพากษาให้โจทก์ชนะคดีเต็มตามฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้ชี้ข้อเท็จจริงว่า โจทก์ครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์หรือไม่แต่ชี้ในข้อที่ว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ซื้อไปโดยไม่สุจริตพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาในข้อที่ว่าสัญญาซื้อขายไม่สุจริตข้อเดียว
ศาลฎีกามีอำนาจชี้ขาดข้อเท็จจริงว่า โจทก์ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์โดยครอบครองปรปักษ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดแย้งกันระหว่างคดีก่อนและคดีหลัง ศาลต้องสืบพยานเพิ่มเติมเพื่อหาความจริง
พยานโจทก์เบิกความถึงวันเกิดเหตุตรงตามฟ้อง แต่ว่าต่างกับวันฟ้องในคดีก่อนไปวันหนึ่งนั้น ดังนี้จะถือว่าวันเกิดเหตุจริงคือวันในฟ้องคดีก่อนยังไม่ได้ ถ้าฟ้องจริงและคดีมีหลักฐานพอแล้วต้องมีผิด.
+ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง+ว่า พยานโจทก์เบิกความต่างกันไม่น่าเชื่อนั้น ถือว่าศาลวินิจฉัยขาดข้อเท็จจริงแห่งคดี ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้ศาล+เป็นการสืบพยานแล้วพิพากษา+ ถ้าศาลอุทธรณ์ประสงค์จะฟังพยานต่อไปจนสิ้นกระแสร์ความเสียก่อน ก็ควรให้ศาลชั้นต้นสืบพยานให้ส่งสำนวนคืนให้ศาลอุทธรณ์พิพากษา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับเรียกค่าไถ่และการขู่กรรโชกทรัพย์ ศาลฎีกาวินิจฉัยความผิดฐานปล้นทรัพย์ไม่เข้าข่าย
จำเลยกับพวกจับตัวผู้เสียหายไปควบคุมตัวไว้แล้วบังคับเอาเงินจากพ่อตาและภรรยาเพื่อสินไถ่และเรียกผู้เสียหายคนอื่นอีก 6 คนมาหาว่าลักควาย บังคับให้หาเงินมาให้จำเลยดังนี้ การกระทำในตอนแรกเป็นเรื่องจับตัวไปบังคับเรียกเอาค่าสินไถ่โดยตรง การกระทำในตอนหลัง ก็ไม่มีกริยาเป็นโจรชิงทรัพย์ตามความหมายของ ก.ม. จึงไม่ใช่ความผิดฐานชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามกฏหมายอาญามาตรา 301 - 270 แต่ให้รวมกะทงลงโทษตาม ม.270 ซึ่งเป็นบทหนักแต่บทเดียว โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านประการใด ดังนี้
เมื่อศาลฎีกาคงเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 270 ซึ่งเป็นบทหนักอยู่แล้ว แม้จะเห็นว่าจำเลยไม่ผิดตามม.301ด้วย ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยมีผิดฐานใดอีก เพราะลงโทษบทหนักอยู่แล้ว
อัยยการโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญามาตรา 301-270 กับขอให้จำเลยคืนหรือใช้ทรัพย์ ถ้าศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 301 แล้ว อัยยการก็ไม่มีอำนาจเรียกเงินคืนแทนผู้เสียหาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุพยานในคดีอาญา: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยแม้ไม่มีผู้ระบุอ้างเป็นพยาน
ในคดีหาว่า จำเลยมีและจำหน่ายธนบัตรปลอม ธนบัตรปลอมของกลางที่โจทก์ขอให้ศาลริบและนำส่งเป็นของกลาง และจำเลยได้ตรวจดูแล้วไม่คัดค้านอย่างใด ธนบัตรของกลางจึงเป็นวัตถุของกลางซึ่งเป็นตัวพิพาทในคดี เป็นหน้าที่ของศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดอยู่แล้วว่าเป็นของดีหรือปลอม ถึงจะไม่มีใครระบุอ้างเป็นพยาน ศาลก็ยกขึ้นวินิจฉัยเป็นหลักฐานพยานในคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปรับโทษคดีฝิ่น: ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ปรับโทษเรียงรายตัวตามกฎหมาย
พ.ร.บ.ฝิ่น 2476 มาตรา 9 ให้ปรับผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่นเรียงรายตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 84/2489

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการฎีกา: ประเด็นที่เคยวินิจฉัยแล้ว และประเด็นใหม่ที่มิได้ยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์
ปัญหาข้อใดที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วจะฎีกาคัดค้านอีกไม่ได้
ปัญหาใดที่คู่ความมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ จะฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.วิแพ่ง ม.249
of 56