คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาค้ำประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 629/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ค้ำประกัน ย่อมไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
สำเนาสัญญาค้ำประกันที่โจทก์ส่งพร้อมฟ้อง มีลายมือชื่อผู้ค้ำประกัน ผู้ให้กู้ และลายมือชื่อ ผู้เขียนสัญญาและพยานตามต้นสัญญาค้ำประกันที่โจทก์อ้างและส่งศาลมีลายพิมพ์นิ้วมือและเขียนบอกชื่อผู้ค้ำประกันกับมีพยานลงชื่อไว้ 3 คนซึ่งโจทก์ไม่ได้อ้างพยานเหล่านั้นเป็นพยานแต่กลับนำพยานอื่นมาสืบว่าผู้ค้ำประกันลงลายพิมพ์นิ้วมือไว้โดยมีพยาน 3 คนลงชื่อไว้ กับมีพยานอีกคนหนึ่งลงลายมือชื่อไว้ในฐานะผู้เขียนสัญญาแต่อย่างเดียว หาได้มีฐานะเป็นพยานด้วยไม่ส่วนลายมือชื่อผู้ให้กู้ไม่มีดังนี้ ถือว่าโจทก์นำสืบขัดแย้งกับฟ้องของตนเพราะสำเนาสัญญาค้ำประกันเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องและต้องฟังว่าสัญญาค้ำประกันอันเป็นหลักฐานฟ้องผู้ค้ำประกันไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้ค้ำประกันตามบทบัญญัติมาตรา 9 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มีผลเท่ากับผู้ค้ำประกันมิได้ลงลายมือชื่อไว้ไม่เป็นหลักฐานที่โจทก์จะนำมาฟ้องได้ตาม มาตรา 680 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน: ความรับผิดของผู้ค้ำประกันต่อความเสียหายจากการกระทำของลูกหนี้ และข้อยกเว้น
หญิงมีสามีเข้าค้ำประกันหนี้ ในชั้นนี้ยังไม่ปรากฏว่าจะผูกพันสินบริคณห์หรือไม่ หญิงมีสามีจึงทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาตของสามี
ลูกหนี้ยอมให้เจ้าหนี้หักเงินเดือนผ่อนใช้หนี้ละเมิดไม่เป็นการผ่อนเวลาอันจะทำให้ผู้ค้ำประกันพ้นความรับผิดเพราะไม่มีกำหนดแน่นอนว่าต้องชำระหนี้เมื่อใด
ลูกจ้างผู้มีหน้าที่ขับรถยนต์ ยอมให้ลูกจ้างอีกคนหนึ่งซึ่งไม่มีหน้าที่และไม่มีใบอนุญาตขับรถจนชนกำแพงเสียหายขึ้น นายจ้างต้องออกเงินใช้ค่าซ่อมแซมไปแทนลูกจ้าง ดังนี้ เป็นผลจากการกระทำของลูกจ้างผู้มีหน้าที่ขับรถ ผู้ค้ำประกันของลูกจ้างนั้นต่อนายจ้างต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่เป็นโมฆะ แม้มีการดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมจากเจตนาร้องทุกข์เดิม และสิทธิการบังคับคดีกับลูกหนี้
โจทก์เจตนาแจ้งข้อหาในเรื่องฉ้อโกงเงินของโจทก์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง แจ้งความเท็จ และทำผิดกฎหมายหุ้นส่วนด้วย จำเลยเข้ามาทำสัญญากับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แล้ว จำเลยยอมค้ำประกันจำนวนเงินรายนี้ ครั้นโจทก์ถอนคำร้องทุกข์ แม้คดีคงระงับเฉพาะข้อหาฉ้อโกงเป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้น เพราะการที่ข้อหาในคดีอาญาแผ่นดินยังดำเนินกันอยู่นั้น ไม่เกี่ยวแก่โจทก์ สัญญาค้ำประกันเช่นว่านี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ในสัญญาค้ำประกันมีว่า จำเลยผู้ค้ำประกันยอมสละไม่ยกข้อต่อสู้ที่จะให้โจทก์บังคับเอาจากทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ก่อน ฉะนั้นเมื่อบริษัทลูกหนี้ล้มละลาย แม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้ชำระหนี้ทีค้ำประกันไว้ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่าใด จำเลยผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องชำระในจำนวนนั้นอีก หาใช่โจทก์จะมีสิทธิได้รับจำนวนเงิน เป็น 2 ซ้ำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่เป็นโมฆะ แม้มีการดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมจากเจตนาร้องทุกข์เดิม ผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญา
โจทก์เจตนาแจ้งข้อหาในเรื่องฉ้อโกงเงินของโจทก์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง แจ้งความเท็จ และทำผิดกฎหมายหุ้นส่วนด้วย จำเลยเข้ามาทำสัญญากับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แล้ว จำเลยยอมค้ำประกันจำนวนเงินรายนี้ ครั้นโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แม้คดีคงระงับเฉพาะข้อหาฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้นเพราะการที่ข้อหาในคดีอาญาแผ่นดินยังดำเนินกันอยู่นั้น ไม่เกี่ยวแก่โจทก์ สัญญาค้ำประกันเช่นว่านี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ในสัญญาค้ำประกันมีว่า จำเลยผู้ค้ำประกันยอมสละไม่ยกข้อต่อสู้ที่จะให้โจทก์บังคับเอาจากทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ก่อน ฉะนั้นเมื่อบริษัทลูกหนี้ล้มละลาย แม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้ชำระหนี้ที่ค้ำประกันไว้ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่าใด จำเลยผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องชำระในจำนวนนั้นอีก หาใช่โจทก์จะมีสิทธิได้รับจำนวนเงินเป็น 2 ซ้ำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของกระทรวงการคลังเมื่อโรงงานยาสูบไม่ได้เป็นนิติบุคคล และการรับผิดในสัญญาค้ำประกัน
โรงงานยาสูบ ซึ่งขึ้นอยู่ในกระทรวงการคลัง ไม่ใช่เป็นนิติบุคคลเมื่อกระทรวงการคลังได้มอบอำนาจการบริหารกิจการงานต่างๆ ให้ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบแล้วกระทรวงการคลังก็ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อชัดเจน การมอบโฉนดหรือยอมรับหนี้ในฟ้องไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่จะให้จำเลยรับผิดฐานเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้ได้ จะต้องปรากฎว่า จำเลยได้ทำหนังสือลงลายมือชื่อ เพื่อจะชำระหนี้แทนลูกหนี้นั้นให้โจทก์จึงจะได้ เพียงแต่จำเลยได้มอบโฉนดที่ให้ลูกหนี้เอาไปค้ำประกันโจทก์หรือจำเลยฟ้องลูกหนี้ในอีกคดีหนึ่งได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยยอมค้ำประกันลูกหนี้ต่อโจทก์เท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่โจทก์บรรยายฟ้องตอนหนึ่งว่า "จำเลยต้องรับผิดทั้งในทางพฤฒินัย และนิตินัย" เพียงเท่านี้ย่อมไม่มีความหมายถึงข้อความในเอกสาร จ.7-จ.8 ถ้าโจทก์มุ่งจะให้หมายถึงเอกสาร จ.7-จ.8 ถ้าบรรยายเพียงเท่านี้ก็เป็นเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 315/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันต้องทำเป็นหนังสือชัดเจน การมอบโฉนดหรือยอมรับในฟ้องยังไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่จะให้จำเลยรับผิดฐานเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้ได้ จะต้องปรากฏว่า จำเลยได้ทำหนังสือลงลายมือชื่อเพื่อจะชำระหนี้แทนลูกหนี้นั้นให้โจทก์จึงจะได้ เพียงแต่จำเลยได้มอบโฉนดที่ให้ลูกหนี้เอาไปค้ำประกันโจทก์หรือจำเลยฟ้องลูกหนี้ในอีกคดีหนึ่งได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยยอมค้ำประกันลูกหนี้ต่อโจทก์เท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นสัญญาค้ำประกัน
การที่โจทก์บรรยายฟ้องตอนหนึ่งว่า 'จำเลยต้องรับผิดทั้งในทางพฤตินัยและนิตินัย' เพียงเท่านี้ย่อมไม่มีความหมายถึงข้อความในเอกสาร จ.7- จ.8 ถ้าโจทก์มุ่งจะให้หมายถึงเอกสาร จ.7- จ.8 ถ้าบรรยายเพียงเท่านี้ก็เป็นเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนแต่แก้ไขครบก่อนฟ้อง ใช้เป็นหลักฐานได้
สัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญาไม่ครบถ้วน แต่ก่อนยื่นฟ้องได้ปิดเพิ่มเติมครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว ดังนี้ย่อมใช้สัญญาค้ำประกันนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ส่วนการที่จะต้องรับผิดเสียอากรเพิ่มนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันใช้เป็นพยานหลักฐานได้แม้ปิดอากรแสตมป์ไม่ครบถ้วนในวันทำสัญญา แต่ได้แก้ไขให้ถูกต้องก่อนฟ้อง
สัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ในวันทำสัญญาไม่ครบถ้วนแต่ก่อนยื่นฟ้องได้ปิดเพิ่มเติมครบถ้วนและขีดฆ่าแล้ว ดังนี้ย่อมใช้สัญญาค้ำประกันนั้นเป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ส่วนการที่จะต้องรับผิดเสียอากรเพิ่มนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกัน: การตีความขอบเขตความรับผิดในระยะเวลาที่จำกัด และผลของการประกันภัย
สัญญานั้นต้องตีความในทางที่คู่กรณีอาจปฏิบัติได้การปฏิบัติของคู่สัญญาอาจประกอบให้เห็นเจตนาแท้จริงได้
สัญญาค้ำประกันมีว่า "ใช้สำหรับระหว่าง 2 เดือน" หมายความว่าผู้ค้ำประกันรับผิดในหนี้ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลานั้น แม้จะค้างชำระอยู่จนพ้นกำหนดนั้นไปก็ตามไม่ใช่ว่าถ้ายังไม่ชำระหนี้ให้เสร็จภายใน 2 เดือน ผู้ค้ำประกันไม่รับผิดชอบ
of 50