คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สืบพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 971 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างฉ้อฉลในการทำสัญญาเลิกห้างหุ้นส่วน จำเลยต้องแสดงรายละเอียดวิธีการฉ้อฉลเพื่อให้สืบพยานได้
คำให้การจำเลยอ้างเพียงว่าโจทก์ใช้กลอุบายร่วมกับบุคคลภายนอกฉ้อฉลจำเลยให้ทำบันทึกข้อตกลงเลิกห้างหุ้นส่วนเพื่อยึดเอากิจการของห้างไปดำเนินการเอง มิได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าโจทก์ได้ฉ้อฉลจำเลยด้วยวิธีการอย่างใด จำเลยจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบตามข้ออ้างของตน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการขอส่งประเด็นสืบพยานต่างจังหวัดของจำเลย และการงดสืบพยานเมื่อจำเลยไม่ได้ติดใจสืบพยาน
พยานที่จำเลยอ้างอันดับ 1 ถึง 4 อยู่จังหวัด น. อันดับ 5 ถึง 7อยู่จังหวัด ก. อันดับ 8 อยู่จังหวัด ต. ครั้งแรกจำเลยขอให้ศาลเดิมส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลจังหวัด น. และศาลจังหวัด ก. ศาลเดิมอนุญาต ในการสืบที่ศาลจังหวัด น. จำเลยได้นำพยานอันดับ 5 ซึ่งอยู่ที่จังหวัด ก. มาสืบด้วย เสร็จแล้วจำเลยขอให้ส่งประเด็นคืนศาลเดิม ในระหว่างที่ศาลเดิมนัดฟังประเด็นอยู่นั้น จำเลยยื่นคำแถลงขอให้ส่งประเด็นไปสืบตามบัญชีพยานอันดับ 6-7 ที่ศาลจังหวัด ก. และพยานอันดับ 8 ที่ศาลจังหวัด ต. ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แถลง ไม่ติดใจสืบพยานตามบัญชีพยานอันดับ 6-7 และคำแถลงของจำเลย ที่คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานก็อ้างถึงเหตุที่ไม่ได้ขอให้ส่งประเด็นต่อไปยังศาลจังหวัด ก. หลังจากเสร็จการสืบพยานที่ศาลจังหวัดน. ว่าเป็นเพราะขณะนั้นจำเลยยังติดต่อพยานไม่ได้กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานดังกล่าว ส่วนพยานอันดับ 8 ซึ่งอยู่ ที่จังหวัด ต.นั้นแม้จำเลยจะมิได้ขอให้ส่งประเด็นไปสืบในตอนแรกแต่ก็เป็นสิทธิของจำเลยที่จะขอให้ส่งประเด็นไปสืบภายหลังได้ เพราะถ้าจำเลยพอใจการสืบพยานอื่นแล้ว ก็อาจไม่ส่งประเด็นไปสืบพยานปากนี้ก็ได้ ตามพฤติการณ์ไม่พอฟังว่าจำเลยประวิงคดี ยังไม่มีเหตุอันสมควรที่จะสั่งงดสืบพยานจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลทันที ทำให้คำสั่งนั้นมีผลบังคับใช้ และจำเลยไม่สามารถสืบพยานได้
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยก็ดี หรือสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับบัญชีพยานของจำเลยไว้แล้วก็ดี จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวนั้นเลยเพิ่งมาโต้แย้งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลยดังนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งงดสืบพยานเพื่อผลในการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226. คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับบัญชีพยานและที่สั่งเพิกถอนคำสั่งรับบัญชีพยานของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีพยานเลย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 543/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การไม่ขัดแย้งกัน ศาลต้องเปิดโอกาสให้จำเลยสืบพยานตามข้อต่อสู้
จำเลยให้การว่าจำเลยซื้อห้องแถวพร้อมที่ดินจากโจทก์ส่วนสัญญาเช่าที่ทำไว้ก็ไม่มีเจตนาให้บังคับกัน และจำเลยอ้างว่าได้ครอบครองโดยปรปักษ์จนได้กรรมสิทธิ์แล้วคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่ขัดกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3921/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังเอกสารภาพถ่าย: การไม่คัดค้านก่อนสืบพยานทำให้จำเลยมิอาจโต้แย้งความถูกต้องของเอกสารได้
เมื่อจำเลยมิได้ปฏิเสธหรือคัดค้านก่อนวันสืบพยานว่าภาพถ่ายเอกสารไม่มีต้นฉบับ หรือต้นฉบับปลอมทั้งฉบับหรือบางส่วน หรือภาพถ่ายนั้นไม่ถูกต้องกับต้นฉบับ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของเอกสาร หรือความถูกต้องแห่งภาพถ่ายนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น.ส.3 ไม่ใช่หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน ศาลต้องสืบพยานข้อเท็จจริงก่อนวินิจฉัย
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) หาใช่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นเสมอไปดังเช่นโฉนดที่ดินไม่
โจทก์นำยึดที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีชื่อจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้องจำเลยเป็นเพียงผู้เช่าอาศัยทำกินเท่านั้น รูปคดีจำต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน ศาลจะวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยมีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยมิได้ทำการสืบพยานเสียก่อนนั้นเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ น.ส.3 ไม่ใช่หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของที่ดิน ศาลต้องสืบพยานข้อเท็จจริงก่อนวินิจฉัย
หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) หาใช่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินนั้นเสมอไปดังเช่นโฉนดที่ดินไม่
โจทก์นำยึดที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ซึ่งมีชื่อจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของผู้ร้องจำเลยเป็นเพียงผู้เช่าอาศัยทำกินเท่านั้น รูปคดีจำต้องสืบพยานฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความก่อน ศาลจะวินิจฉัยคดีโดยอาศัยเหตุที่ว่าจำเลยมีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จึงถือว่าจำเลยเป็นผู้ครอบครองโดยมิได้ทำการสืบพยานเสียก่อนนั้นเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3522/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจำเลยในการมีทนาย และดุลพินิจศาลในการส่งตัวจำเลยไปสืบพยานนอกสถานที่
ก่อนเริ่มการพิจารณาคดีในศาลชั้นต้น จำเลยแถลงว่าจะหาทนายความเอง และในระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฏว่าจำเลยร้องขอให้ศาลตั้งทนายความให้ศาลจึงไม่จำต้องตั้งทนายความให้จำเลย
โจทก์ขอส่งประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่น ศาลชั้นต้นสอบจำเลยแล้วจำเลยไม่ค้านและยังแถลงว่าไม่ตามประเด็นไปด้วย ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องผ่านเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครขอให้ส่งตัวจำเลยตามประเด็นศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วไม่เห็นสมควรและไม่อนุญาต ดังนี้ เป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นมีอำนาจใช้ดุลพินิจสั่งได้ และเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
จำเลยฎีกาอ้างข้อเท็จจริงนอกสำนวน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3203/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยที่ 12 มีสิทธิแก้ต่างได้ แม้ไม่ได้ยื่นคำให้การเป็นหนังสือ หากศาลรับรองคำแถลงและกำหนดหน้าที่สืบพยาน
การที่จำเลยที่ 12 แถลงขอถือเอาคำให้การของจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 11 ซึ่งได้ยื่นเป็นหนังสือและศาลแรงงานกลางได้รับคำให้การนั้นแล้วเป็นคำให้การของจำเลยที่ 12 ด้วย และศาลแรงงานกลางได้บันทึกคำแถลงนั้นไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาแล้วกำหนดหน้าที่นำสืบไปตามประเด็นแห่งคดี จึงเท่ากับจำเลยที่ 12 ได้ให้การต่อสู้คดีเช่นเดียวกับคำให้การของจำเลยที่ 1ถึงจำเลยที่ 11และศาลแรงงานกลางได้รับคำให้การนั้นแล้วจำเลยที่ 12 จึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบตามข้อต่อสู้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2619/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉ้อฉลจำนองที่ดินพิพาท: ศาลต้องสืบพยานเพื่อพิสูจน์เจตนาและอำนาจฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ได้นำที่ดินมีโฉนดของโจทก์ซึ่งจำเลยที่ 1 กำลังมีคดีพิพาทอยู่กับโจทก์ไปจำนองไว้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อเป็นประกันหนี้ โดยจำเลยทั้งสองมีเจตนาทุจริตร่วมกันใช้กลฉ้อฉลแก่โจทก์ โดยไม่มีค่าตอบแทนและมิได้มีเจตนาทำสัญญาจำนองกันโดยแท้จริง ขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนอง จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าการจำนองได้กระทำโดยสุจริต มีค่าตอบแทน และมิใช่เป็นการฉ้อฉลโจทก์ ดังนี้คดีมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่า จำเลยทั้งสองร่วมคบคิดกันทำการฉ้อฉลโจทก์ด้วยการเอาที่ดินพิพาทซึ่งอยู่ในระหว่างที่จำเลยที่ 1 เป็นความกับโจทก์ไปจดทะเบียนทำนิติกรรมจำนองไว้แก่จำเลยที่ 2 โดยไม่มีค่าตอบแทนและมิได้มีเจตนาที่จะทำนิติกรรมสัญญาจำนองกันแท้จริงดังฟ้องหรือไม่ แม้คดีที่โจทก์พิพาทกับจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้โอนใส่ชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาท แต่คดียังไม่ยุติเพราะอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ถ้าศาลฎีกามีคำวินิจฉัยเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว การกระทำของจำเลยที่ 1 อาจเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์ได้เมื่อข้อกล่าวอ้างของโจทก์ในคดีนี้จำเลยทั้งสองยังโต้เถียงอยู่อันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสองได้ จำต้องฟังข้อเท็จจริงจากการนำสืบพยานหลักฐานของคู่ความเสียก่อน การสั่งงดสืบพยานของคู่ความแล้ววินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจึงเป็นการไม่ชอบ
of 98