พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6010/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์ข่มขู่ด้วยอาวุธปืน ไม่ถึงเจตนาพยายามฆ่า
จำเลยใช้ปืนลูกซองสั้นจ้องเล็งไปยังผู้เสียหายที่อยู่ห่างเพียง 7-8 เมตร หากจำเลยมีเจตนาจะยิงผู้เสียหายจริงแล้ว ก็คงจะใช้ปืนยิงได้โดยง่ายเพราะผู้เสียหายวิ่งหลบหนีอยู่บริเวณนั้น ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ง้างนกปืนขึ้นหรือนิ้วมือของจำเลยอยู่ในโกร่งไกปืนพร้อมที่จะยิงได้ และไม่ปรากฏว่า ผู้เสียหายมีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน พฤติการณ์จึงส่อแสดงให้เห็นว่าจำเลยชักปืนออกมาเพื่อขู่ผู้เสียหายที่ไปทวงค่าอาหารมากกว่าอย่างอื่น จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5982/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพยานหลักฐานในความผิดอาวุธปืน และการลงโทษตามกฎหมายอาญา
ในความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว เมื่อโจทก์ไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก ประกอบมาตรา 72 ทวิวรรคสองไม่ได้ คงลงโทษได้เพียงฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5982/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบในความผิดอาวุธปืน และการลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
ในความผิดฐานพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โจทก์มีหน้าที่นำสืบว่าจำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวเมื่อโจทก์ไม่นำสืบก็ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก ประกอบมาตรา 72 ทวิ วรรคสอง ไม่ได้คงลงโทษได้เพียงฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรตาม ป.อ. มาตรา 371.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5957/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและพฤติการณ์ร่วมกระทำความผิด กรณีใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำเลยไม่มีเจตนาและไม่ได้ร่วมกระทำความผิด
จำเลยกับพวกพากันไปที่บ้านผู้ตายเพื่อต่อว่าน้องของผู้ตายไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าใคร น้องของผู้ตายออกจากบ้านมาชกต่อยกับ ล.พวกของจำเลย จำเลยกับคนอื่นเพียงแต่ยืนดูเฉย ๆ เมื่อผู้ตายออกจากบ้านเดินเข้าไปที่คู่ต่อสู้ จำเลยก็เพียงแต่ชักอาวุธปืนออกมาขู่ไม่ให้ผู้ตายเข้าไปช่วยน้องเท่านั้น หากจำเลยมีเจตนาฆ่าก็คงยิงผู้ตายตั้งแต่ผู้ตายออกจากบ้านแล้วการที่ ล. ยิงผู้ตาย เป็นการกระทำของ ล.แต่ผู้เดียว ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยร่วมฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5881/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการใช้ทำร้ายร่างกาย ศาลพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และความรับผิดชอบเรื่องการอนุญาต
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนที่ติดตัวไปตีทำร้ายผู้เสียหาย แม้จะไม่ได้อาวุธปืนมาเป็นของกลาง แต่จำเลยให้การในชั้นสอบสวนรับว่าไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน จึงลงโทษจำเลยในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ แต่ตามฟ้องของโจทก์มิได้ระบุว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีและพาไปเป็นอาวุธปืนที่มิได้รับอนุญาตให้มีตามกฎหมาย ทั้งโจทก์ก็นำสืบไม่ได้เช่นนั้น จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีตามกฎหมาย
ในกรณีข้างต้น เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ระบุว่าให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 72 วรรคใด จึงไม่ชัดเจน ศาลฎีกาเห็นสมควรระบุวรรคว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมาตรา 72 วรรคสาม
ในกรณีข้างต้น เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ระบุว่าให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 72 วรรคใด จึงไม่ชัดเจน ศาลฎีกาเห็นสมควรระบุวรรคว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าวมาตรา 72 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5881/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่มีของกลาง แต่รับสารภาพได้ ศาลต้องระบุวรรคของกฎหมายให้ชัดเจน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนที่ติดตัวไปตีทำร้ายผู้เสียหาย แม้จะไม่ได้อาวุธปืนมาเป็นของกลาง แต่จำเลยให้การในชั้นสอบสวนรับว่าไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน จึงลงโทษจำเลยในข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ แต่ตามฟ้องของโจทก์มิได้ระบุว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีและพาไปเป็นอาวุธปืนที่มิได้รับอนุญาตให้มีตามกฎหมาย ทั้งโจทก์ก็นำสืบไม่ได้เช่นนั้น จึงต้องฟังให้เป็นคุณแก่จำเลยว่าอาวุธปืนที่จำเลยมีเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีตามกฎหมาย
ในกรณีข้างต้น เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ระบุว่าให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 72 วรรคใด จึงไม่ชัดเจน ศาลฎีกาเห็นสมควรระบุวรรคว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 72 วรรคสาม
ในกรณีข้างต้น เมื่อศาลอุทธรณ์มิได้ระบุว่าให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 72 วรรคใด จึงไม่ชัดเจน ศาลฎีกาเห็นสมควรระบุวรรคว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา 72 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิและคุ้มครองบุตรจากภัยอันตรายเฉพาะหน้า การใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตนเองและบุตรชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยเป็นมารดาของนางสาว ศ. ซึ่งถูกผู้ตายเข้าไปฉุดคร่าถึงภายในบ้าน โดยนางสาว ศ. ไม่สามารถดิ้นรน ขัดขืนได้เมื่อจำเลยเข้าไปขัดขวางห้ามปรามกลับถูกผู้ตายทำร้ายจนล้มลงการที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายไปในเวลาฉุกละหุก 4 นัดติด ๆ กันเป็นเพราะจำเลยไม่มีโอกาสทันพิเคราะห์ว่าผู้ตายมีอาวุธติดตัวหรือไม่ ทั้งไม่มีเวลาไตร่ตรอง ด้วยว่าหากใช้ปืนยิงขู่เพียงนัดเดียวจะทำให้ผู้ตายเกรงกลัวและหยุดการกระทำที่อุกอาจลงได้ประกอบกับผู้ตายเป็นชาย ฉกรรจ์แข็งแรงกว่าจำเลยซึ่งเป็นหญิงและไม่มีทางเลือกที่จะป้องกันด้วยวิธีอื่น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรณีที่จำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนและบุตรสาวให้พ้นจากการถูกฉุดคร่า ซึ่งเป็นภยันตรายอันปรากฏขึ้นเฉพาะหน้าโดยพอสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5509/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการพกพาในที่สาธารณะ แม้ไม่มีหลักฐานอาวุธปืนไม่ได้จดทะเบียน แต่ก็มีความผิด
จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ยิงผู้ตาย และผู้เสียหายในทางสาธารณะ แม้โจทก์ไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง แต่ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนมาก่อน ซึ่งมีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันและจำเลยก็ มิได้ถามค้านหรือนำสืบหักล้างแต่อย่างใด ย่อมฟังได้ว่า จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงยังไม่อาจฟังได้ด้วยว่าอาวุธปืนที่จำเลย มีโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับตามที่โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษ จำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้ คงลงโทษได้ แต่เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5509/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและการพกพาอาวุธในที่สาธารณะ ศาลจำกัดบทลงโทษเฉพาะข้อหาพกพา
จำเลยกับพวกร่วมกันมีอาวุธปืนและพาอาวุธปืนดังกล่าวไปใช้ยิงผู้ตาย และผู้เสียหายในทางสาธารณะแม้โจทก์ไม่ได้อาวุธปืนดังกล่าวมาเป็นของกลาง แต่ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยรับว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนมาก่อน ซึ่งมีพนักงานสอบสวนเบิกความยืนยันและจำเลยก็ มิได้ถามค้านหรือนำสืบหักล้างแต่อย่างใด ย่อมฟังได้ว่า จำเลยมี อาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อเท็จจริงยังไม่อาจฟังได้ด้วยว่าอาวุธปืนที่จำเลย มีโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นอาวุธปืนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนและ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับตามที่โจทก์ฟ้อง จึงลงโทษ จำเลยฐานมีอาวุธปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนไว้ในครอบครองไม่ได้ คงลงโทษได้ แต่เฉพาะข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 530/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บทบาทผู้สนับสนุนความผิดจำหน่ายอาวุธปืน: การกระทำที่ไม่ได้ร่วมมือตั้งแต่ต้น
อาวุธปืนของกลางเป็นของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้ติดต่อพาผู้ซื้อไปซื้อจากจำเลยที่ 1 โดยตรง การเจรจาต่อรองราคาและการจะขายอาวุธปืนหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของจำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียว จำเลยที่ 2 มิได้มีส่วนร่วมด้วย แม้ว่าจำเลยที่ 2 อาจจะได้ผลประโยชน์จากการขายอาวุธปืนของกลางก็ตาม ตามพฤติการณ์ยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานจำหน่ายอาวุธปืน จำเลยที่ 2 คงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 1 จำหน่ายอาวุธปืนเท่านั้น.