คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 522/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คขีดคร่อมระบุชื่อผู้รับ สั่งจ่ายเจตนาชำระหนี้ให้ผู้รับโดยตรง ผู้รับเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ
จำเลยสั่งจ่ายเช็คขีดคร่อมระบุชื่อโจทก์และขีดฆ่าคำว่า"หรือผู้ถือ"ออกถือได้ว่าจำเลยออกเช็คพิพาทโดยมีเจตนาชำระหนี้ให้แก่โจทก์เท่านั้นโจทก์จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบตามป.พ.พ.มาตรา904จำเลยให้การว่าโจทก์และบุคคลอื่นได้โอนเช็คโดยการสมคบกันฉ้อฉลจำเลยก็ไม่ปรากฏว่าสมคบกันฉ้อฉลอย่างไรหรือหนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไรไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสองไม่ก่อให้เกิด ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีการที่ศาลให้ งดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีจึงชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5117/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกจ้างเบียดบังเช็คของนายจ้างเข้าบัญชีส่วนตัว การฟ้องเป็นคดีผิดสัญญาจ้างงานมีอายุความ 10 ปี
จำเลยเบิกความรับว่าได้นำเช็คของโจทก์ไปเข้าบัญชีจำเลยการที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยมิได้กระทำการดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนพยานหลักฐานในสำนวนและเมื่อจำเลยมิได้ส่งมอบเงินตามเช็คให้แก่โจทก์ย่อมเป็นการเบียดบังจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นลูกจ้างโจทก์มีหน้าที่ดูแลด้านบัญชีและการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์,ของบริษัท ฉ. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือและของนาย ฉ. จำเลยนำเช็คของโจทก์ไปเรียกเก็บเงินแล้วนำไปเป็นประโยชน์ส่วนตนเป็นการฝ่าฝืนสัญญาจ้างแรงงานจึงขอให้จำเลยคืนเงินดังกล่าวเป็นการฟ้องเนื่องจากการผิดสัญญาจ้างแรงงานไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้จึงมีอายุความ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา193/30

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4716/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คไม่ถือเป็นการชำระหนี้ด้วยเงินสดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์มีสิทธิไม่รับเช็คได้
การชำระหนี้ด้วยเช็คเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ด้วยเงินตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์มีสิทธิไม่ยอมรับการชำระหนี้เงินด้วยเช็คได้ไม่เป็นการผิดข้อตกลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4716/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ด้วยเช็คไม่ถือเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอม หากโจทก์ไม่ยอมรับ
การชำระหนี้ด้วยเช็คเป็นการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระหนี้ด้วยเงินตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความโจทก์มีสิทธิไม่ยอมรับการชำระหนี้เงินด้วยเช็คได้ไม่เป็นการผิดข้อตกลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็ค: การผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลเมื่อลงลายมือชื่อสลักหลัง
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยที่ 2 ให้การว่ามิได้ค้ำประกันเป็นอาวัลเช็คพิพาทโดยไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 เพราะเหตุใด จำเลยที่ 2 จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 หรือไม่
แม้ผู้ที่โอนเช็คพิพาทให้โจทก์จะได้รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยที่ 1ตามมูลหนี้กู้ยืมเงิน โจทก์ก็ไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้มานำสืบ เพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ตามสัญญากู้ยืมเงิน
จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ต. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉล และจำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงชื่อร่วมกับ ป.เป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับธนาคาร โดยที่ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจึงต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 921 ประกอบมาตรา 989

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับอาวัล แม้จะปฏิเสธการค้ำประกัน
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาท จำเลยที่ 2 ให้การว่ามิได้ค้ำประกันเป็นอาวัลเช็คพิพาทโดยไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่ 2 เพราะเหตุใด จำเลยที่ 2จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 หรือไม่ แม้ผู้ที่โอนเช็คพิพาทให้โจทก์จะได้รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยที่ 1 ตามมูลหนี้กู้ยืมเงิน โจทก์ก็ไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้มานำสืบ เพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ต. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉล และจำเลยที่ 1 ออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงชื่อร่วมกับ ป.เป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับธนาคาร โดยที่ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจึงต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 921 ประกอบมาตรา 989

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับอาวัล แม้ผู้รับเช็คโอนต่อ และข้อจำกัดในการยกเหตุใหม่ในฎีกา
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่2รับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาทจำเลยที่2ให้การว่ามิได้ค้ำประกันเป็นอาวัลเช็คพิพาทโดยไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่2เพราะเหตุใดจำเลยที่2จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่2หรือไม่ แม้ผู้ที่โอนเช็คพิพาทให้โจทก์จะได้รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยที่1ตามมูลหนี้กู้ยืมเงินโจทก์ก็ไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้มานำสืบเพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่2ร่วมรับผิดกับจำเลยที่1ตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่2ฎีกาว่า ต. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลและจำเลยที่1ออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงชื่อร่วมกับ ป.เป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับธนาคารโดยที่ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยที่2ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจึงต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา921ประกอบมาตรา989

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4695/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้สลักหลังเช็คในฐานะผู้รับอาวัล แม้จะโต้แย้งเรื่องการฉ้อฉลและการผิดสัญญาธนาคาร
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่2รับผิดในฐานะผู้สลักหลังเช็คพิพาทจำเลยที่2ให้การว่ามิได้ค้ำประกันเป็นอาวัลเช็คพิพาทโดยไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธให้ชัดแจ้งว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลยที่2เพราะเหตุใดจำเลยที่2จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบว่าลายมือชื่อด้านหลังเช็คพิพาทเป็นของจำเลยที่2หรือไม่ แม้ผู้ที่โอนเช็คพิพาทให้โจทก์จะได้รับเช็คพิพาทมาจากจำเลยที่1ตามมูลหนี้กู้ยืมเงินโจทก์ก็ไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้มานำสืบเพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบังคับให้จำเลยที่2ร่วมรับผิดกับจำเลยที่1ตามสัญญากู้ยืมเงิน จำเลยที่2ฎีกาว่า ต. โอนเช็คพิพาทให้โจทก์โดยคบคิดกันฉ้อฉลและจำเลยที่1ออกเช็คพิพาทโดยไม่ได้ลงชื่อร่วมกับ ป.เป็นการผิดเงื่อนไขที่ตกลงไว้กับธนาคารโดยที่ไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย จำเลยที่2ลงลายมือชื่อสลักหลังเช็คที่สั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจึงต้องผูกพันในฐานะผู้รับอาวัลสำหรับผู้สั่งจ่ายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา921ประกอบมาตรา989

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3818/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจศาล: การกำหนดมูลคดีจากการซื้อขายและการออกเช็ค
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้ค่าตุ๊กตาและยืนยันในตอนท้ายคำฟ้องว่าคดีนี้มีมูลหนี้แห่งการซื้อขายตุ๊กตาเกิดที่ต.บ้านสิงห์อ.โพธาราม จ.ราชบุรีแสดงว่าโจทก์ยืนยันว่ามูลคดีเกิดขึ้นที่จ.ราชบุรีจึงต้องฟังว่ามูลคดีนี้เกิดขึ้นในเขตศาลแขวงราชบุรีโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีนี้ที่ศาลแขวงราชบุรีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา4(1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3745/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประเด็นข้อพิพาทสัญญาซื้อขายและเช็ค: ศาลวินิจฉัยตามประเด็นที่ถูกต้องได้ แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นผิด
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซื้อสินค้าปุ๋ยเคมีจากโจทก์และสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระค่าสินค้า แต่เช็คดังกล่าวถูกธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินขอให้จำเลยชำระค่าสินค้าพร้อมดอกเบี้ย กรณีจึงเป็นการฟ้องให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ในมูลหนี้ตามสัญญาซื้อขาย แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้เพราะไม่มีการส่งมอบสินค้าตามสัญญาซื้อขายและเช็คขาดอายุความแล้วก็ตามคดีก็ไม่มีประเด็นพิพาทเรื่องมูลหนี้ตามเช็ค การที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทว่า เช็คพิพาทมีมูลหนี้หรือไม่ และฟ้องโจทก์ขาดอายุความ (ตามเช็ค) หรือไม่จึงไม่ถูกต้อง ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ถูกต้องได้ ดังนั้นที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดชำระหนี้ตามสัญญาซื้อขายจึงเป็นไปตามประเด็นที่ถูกต้องไม่ถือเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นข้อพิพาท
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เป็นการชำระหนี้ ไม่ใช่เพียงให้โจทก์ยึดถือไว้เป็นประกัน และจำเลยไม่ได้อุทธรณ์โต้แย้งข้อที่ศาลชั้นต้นฟังมาดังกล่าว จึงฟังเป็นยุติว่าจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ ฎีกาของจำเลยที่ว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำให้การจำเลยไม่ชัดแจ้งเคลือบคลุมเป็นการไม่ชอบ เพราะตามคำให้การจำเลยชัดแจ้งว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับเป็นประกันในการที่จำเลยสั่งซื้อปุ๋ยเคมีจากโจทก์นั้น แม้จะฟังดังที่จำเลยฎีกามาก็ไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของจำเลย ย่อมไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อศาลฟังว่าจำเลยต้องรับผิดชำระหนี้แก่โจทก์ตามสัญญาซื้อขายปุ๋ยเคมี ปัญหาเรื่องอายุความก็ต้องปรับด้วย ป.พ.พ.มาตรา 193/34จะปรับอายุความเรื่องเช็คตาม ป.พ.พ. มาตรา 1002 ไม่ได้
of 187