พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่ขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของที่ดิน หากจำเลยต่อสู้ว่าไม่ใช่ที่ของโจทก์ ศาลต้องวินิจฉัยสิทธิในที่ดินก่อน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์ โจทก์ต้องการที่คืนจึงบอกเลิกการเช่ากับจำเลยและให้จำเลยออกไปจากที่เช่าจำเลยก็ไม่ออก ขอให้ขับไล่ จำเลยสู้ว่าที่พิพาทเป็นของกรมชลประทานไม่ใช่ของโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้ ศาลจำต้องวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือไม่ เพราะโจทก์จะมีอำนาจฟ้องขับไล่ จำเลยได้ก็ต้องได้ความว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ถ้าโจทก์ไม่มีสิทธิเหนือที่พิพาทแล้ว โจทก์ก็ไม่มีอำนาจเอาไปให้ผู้อื่นเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 704/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าก่อนฟ้องขับไล่ แม้มีมติอนุกรรมการฯ คุ้มครองการเช่า
แม้คณะกรรมการควบคุมค่าเช่าจะได้ลงมติให้โจทก์เข้าอยู่ในที่ดินที่ให้เช่าได้ก็ตาม แต่ถ้าสัญญาเช่ายังมีผลผูกพันกันอยู่ โจทก์ต้องบอกเลิกสัญญาเช่าต่อจำเลย(ผู้เช่า) ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 566 ก่อนจึงจะมีสิทธิฟ้องขับไล่ได้ มติของคณะอนุกรรมการฯตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ มาตรา 17(6) นั้น เพียงแต่ทำให้การเช่าหลุดพ้นจากการคุ้มครองของพระราชบัญญัติดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 208/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: คดีขับไล่ที่ประเด็นหลักเป็นภาระผูกพันที่ไม่สามารถประเมินราคาได้ แม้มีเรียกค่าเสียหาย
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งจำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ถือว่า เป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ ถึงแม้โจทก์จะมีคำขอเรียกค่าเช่าและค่าเสียหายมาด้วยก็จะชี้ขาดว่าเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 248 ไม่ได้ คดีเช่นว่านี้ แม้ประเด็นเรื่องขับไล่ได้ยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วคงมีปัญหาขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะประเด็นเรื่องค่าเสียหายเท่านั้นก็ตามจำเลยก็ยังฎีกาในข้อเท็จจริงในฐานที่เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 5/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 593/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือและไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า สิทธิการเช่าไม่สามารถใช้ต่อสู้คดีขับไล่ได้
จำเลยเช่าห้องโจทก์โดยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ และไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ เมื่อโจทก์บอกกล่าวให้จำเลยออกจากห้องเช่า จำเลยเพิกเฉย โจทก์จึงฟ้องขับไล่อ้างว่าจำเลยอาศัย ดังนี้ จำเลยจะอ้างการเช่ามาต่อสู้โจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน: ศาลมีอำนาจสั่งขับไล่จำเลยได้หากจำเลยเถียงกรรมสิทธิ์และโจทก์ชนะคดี
โจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่ดินมีโฉนดเป็นกรรมสิทธิของโจทก์โดยการครอบครอง จำเลยยื่นคำคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นสั่งดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน และได้เรียกค่าธรรมเนียมจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ถือได้ว่า โจทก์ได้ฟ้องเรียกที่พิพาทจากจำเลย เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแอพ่ง มาตรา 142 (1) หาเป็นการเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม่มีข้อพิพาทกลายเป็นคดีมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ ศาลมีอำนาจสั่งขับไล่ได้
โจทก์ยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท ขอให้ศาลสั่งแสดงว่าที่ดินมีโฉนดเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยการครอบครอง
จำเลยยื่นคำคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นสั่งดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน และได้เรียกค่าธรรมเนียมจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกที่พิพาทจากจำเลย เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) หาเป็นการเกินคำขอไม่
จำเลยยื่นคำคัดค้านเถียงกรรมสิทธิ์ ศาลชั้นต้นสั่งดำเนินคดีอย่างมีข้อพิพาทแย่งกรรมสิทธิ์ที่ดิน และได้เรียกค่าธรรมเนียมจากโจทก์ครบถ้วนแล้ว ดังนี้ ถือได้ว่าโจทก์ได้ฟ้องเรียกที่พิพาทจากจำเลย เมื่อศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลจะมีคำสั่งให้ขับไล่จำเลยก็ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(1) หาเป็นการเกินคำขอไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าธรรมดา vs. สัญญาต่างตอบแทน และผลกระทบต่อระยะเวลาการเช่า รวมถึงการสมยอมเพื่อขับไล่ผู้เช่า
ในการทำสัญญาเช่าห้อง ผู้เช่าออกเงินให้ผู้ให้เช่า 5,000 บาท ในสัญญาเช่ากล่าวถึงว่าเป็นเงินค่าก่อสร้างค่าแป๊ะเจี๊ยะ เมื่อคดีได้ความว่าในขณะทำสัญญานี้ ผู้ให้เช่ามีห้องพร้อมอยู่แล้วไม่จำต้องก่อสร้างขึ้นแต่อย่างใด ดังนี้ เงินที่ผู้เช่าออกไปนั้นจึงไม่ใช่เงินค่าก่อสร้าง คงเป็นเงินกินเปล่าตามธรรมดา สัญญาเช่าจึงเป็นสัญญาเช่าธรรมดาไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน
สัญญาเช่าที่ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน เมื่อกำหนดระยะเวลาเช่าได้ 10 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนการเช่านั้น คงบังคับกันได้เพียง 3 ปี
สัญญาเช่าที่ไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทน เมื่อกำหนดระยะเวลาเช่าได้ 10 ปีโดยไม่ได้จดทะเบียนการเช่านั้น คงบังคับกันได้เพียง 3 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในทรัพย์สินพิพาท: ศาลต้องวินิจฉัยกรรมสิทธิ์ก่อนตัดสินคดีขับไล่ หากกรรมสิทธิ์ไม่ชัดเจน โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง
(1) เมื่อปรากฏว่าจำเลยเดิมให้การว่า เรือนพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยร่วม และจำเลยร่วมก็อ้างว่าเป็นของตน การสร้างก็ดี การให้จำเลยอาศัยก็ดี โจทก์ทำแทนจำเลยร่วมทั้งสิ้น ดังนี้ ย่อมไม่ขัดกับข้อต่อสู้ของจำเลยเดิม อนึ่งเมื่อจำเลยเดิมให้การว่า ที่ดินที่ปลูกเรือนนั้นจำเลยร่วมเช่าจากวัดป่าประดู่ และจำเลยร่วมก็อ้างอย่างเดียวกัน เช่นนี้ ย่อมไม่ถือว่าจำเลยร่วมใช้สิทธิขัดกับสิทธิของจำเลยเดิม (2) ในฟ้องแย้งจำเลยอ้างว่าโรงเรือนรายพิพาทปลูกก่อนจำเลยเช่าที่ดินจากเจ้าของที่ดิน ดังนี้ โจทก์จำเลยย่อมไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และการที่โจทก์อยู่ในที่ดิน หากจะเป็นการละเมิดก็ละเมิดต่อเจ้าของที่ดิน ไม่ใช่ต่อจำเลย จำเลยจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่โจทก์ จึงไม่มีเหตุจะต้องพิจารณาฟ้องแย้งของจำเลย (3) ในกรณีที่จำเลยต่อสู้ว่า โรงเรือนพิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยร่วมและจำเลยร่วมได้ขอต่อสู้คดีกับโจทก์ดังกล่าวในข้อ (1)(2) ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังฝ่ายจำเลยต่อสู้โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย เพราะอำนาจเหล่านี้เป็นของเจ้าของทรัพย์ ฉะนั้น การที่ศาลล่างให้จำเลยแพ้คดีโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์โดยไม่วินิจฉัยว่าโรงเรือนเป็นของโจทก์หรือของจำเลยร่วมจึงไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าใหม่ต่อสิ่งปลูกสร้างของอดีตผู้เช่าที่ดิน ซึ่งไม่มีนิติสัมพันธ์กัน
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่จะฟ้องขับไล่หรือให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่จำเลยได้รับอนุญาตให้ปลูกจากผู้เช่าคนเดินไม่ได้ เพราะโจทก์จำเลยต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน ทั้งจำเลยก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าไม่มีหลักฐาน ผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ได้ และไม่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเช่าห้องที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือผู้ให้เช่าฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ เพราะมิใช่เป็นการฟ้องร้องบังคับคดีให้ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าแต่อย่างใด
ห้องเช่าอยู่ในเขตสุขาภิบาล ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อนุโลมเข้ารับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าภาวะคับขันเช่นเดียวกับเคหะในเขตเทศบาล
ห้องเช่าอยู่ในเขตสุขาภิบาล ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้อนุโลมเข้ารับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าภาวะคับขันเช่นเดียวกับเคหะในเขตเทศบาล