คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ที่ดินพิพาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดินพิพาทระหว่างเจ้าของรวม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยผิดดุลพินิจ โดยนำมาตรา 1300 มาใช้โดยไม่ถูกต้อง
โจทก์ที่ 2 รับโอนที่นาส่วนของโจทก์ที่ 1 มา จึงมามีชื่อในโฉนดที่นาพิพาทร่วมกับจำเลย โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยแบ่งแยกที่นาพิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง จำเลยต่อสู้ว่าที่ส่วนของจำเลยซึ่งรับโอนมาจากเจ้าของเดิมนั้นมีมากกว่าส่วนของโจทก์ และได้ครอบครองเป็นส่วนสัดกันมา ส่วนของโจทก์ไม่ใช่ครึ่งหนึ่งดังฟ้อง ดังนี้ ไม่ใช่กรณีที่จะวินิจฉัยตามมาตรา 1300 หากต้องวินิจฉัยโดยบทบัญญัติอันว่าด้วยเจ้าของรวมหรือกรรมสิทธิรวม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1332/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน: โจทก์ไม่ต้องแสดงหลักฐานในชั้นฟ้อง หากระบุแหล่งที่มาของกรรมสิทธิ์แล้ว
ฟ้องโจทก์ขอให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ โดยกล่าวว่า โจทก์ได้ที่ดินมาโดยนางทุ่มยกให้แปลงหนึ่ง อีกแปลงหนึ่งซื้อจากนายดำ ดังนี้ การให้และการซื้อนี้จะเป็นอย่างไรเป็นประเด็นจะต้องว่ากล่าวกัน โจทก์ไม่จำต้องแสดงหลักฐานในชั้นฟ้อง ฟ้องของโจทก์สมบูรณ์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินโดยผู้ซื้อทราบว่ามีผู้ครอบครองอยู่ก่อน ถือเป็นผู้ซื้อไม่สุจริต ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ซื้อที่มือเปล่าจากผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าของ โดยทราบอยู่แล้วว่า มีผู้ครอบครองอย่างเจ้าของอยู่หลายปีแล้ว ทั้งเมื่อขอทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ ผู้ครอบครองอยู่นั้นก็ได้ร้องคัดค้านไว้อีก แต่อำเภอกลับทำสัญญาซื้อขายให้ไป โดยเข้าใจผิดว่า ผู้ครอบครองไม่ติดใจคัดค้านแล้วนั้น ถือว่า ผู้ซื้อไม่สุจริต ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1300.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินพิพาทโดยผู้ซื้อทราบถึงการครอบครองของผู้อื่น ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ซื้อที่มือเปล่าจากผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเจ้าของ โดยทราบอยู่แล้วว่า มีผู้ครอบครองอย่างเจ้าของอยู่หลายปีแล้วทั้งเมื่อขอทำสัญญาซื้อขายกันที่อำเภอ ผู้ครอบครองอยู่นั้นก็ได้ร้องคัดค้านไว้อีกแต่อำเภอกลับทำสัญญาซื้อขายให้ไปโดยเข้าใจผิดว่า ผู้ครอบครองไม่ติดใจคัดค้านแล้วนั้นถือว่าผู้ซื้อไม่สุจริต ไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 285/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการฟ้องคดี การชี้ขอบเขตที่ดินพิพาท ศาลจำกัดเฉพาะที่ดินที่ระบุในฟ้อง
โจทก์ฟ้องตั้งพิพาทแต่เฉพาะที่ดินเนื้อที่ ประมาณ 10 ตารางวาเท่านั้นแม้คำขอท้ายฟ้องจะขอห้ามจำเลยไม่ให้เกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์ก็ย่อมต้องหมายว่าที่ดินของโจทก์ที่พิพาทกันนั้นเท่านั้น
ในการรังวัดทำแผนที่พิพาทโจทก์จะเที่ยวนำชี้ที่ดินตอนอื่นนอกเหนือไปจากที่ดินพิพาทอย่างไรนั้นหาทำให้เป็นการแก้ฟ้องให้คลุมไปถึงที่ดินอื่นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกที่ดินพิพาทระหว่างผู้รับมรดก โดยมิได้ยกให้โดยตรง
โจทก์ฟ้องเรียกที่ดินพิพาทจากจำเลยหมดทั้งแปลง โดยอ้างว่า ย่ายกให้แก่บิดาโจทก์ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าที่พิพาทยังเป็นของย่าจนกระทั่งตาย จึงเป็นมรดกควรได้แก่บิดาโจทก์และจำเลยคนละครึ่งศาลเห็นสมควรก็พิพากษาให้โจทก์ได้รับส่วนแบ่งนั้นได้ ไม่เป็นการเกินคำขอในฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินพิพาท: การแบ่งแยกสิทธิเมื่อเจ้าของร่วมขายสิทธิโดยไม่สุจริต และการพิพากษาเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งแปลง แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียงบางส่วน ศาลย่อมพิพากษาแบ่งให้ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยการยกให้ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยทางมฤดก ดังนี้ ไม่ถือว่าผิดคำฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่นาแปลงเดียวกัน แล้วจำเลยที่ 1 เอาที่ทั้งแปลงไปขายให้แก่จำเลยที่ 2 โจทก์จะขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายทั้งหมดไม่ได้ เพราะจำเลยย่อมมีสิทธิขายส่วนของตนได้ แต่ไม่มีสิทธิขายส่วนของโจทก์ สัญญาซื้อขายระหว่างจำเลยไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทเมื่อเจ้าของเดิมยกให้บางส่วนและมีการซื้อขายโดยไม่สุจริต
โจทก์ฟ้องว่านาพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งแปลง แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์เป็นเจ้าของเพียงบางส่วน ศาลย่อมพิพากษาแบ่งให้ได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์ครอบครองที่พิพาทโดยการยกให้ แต่ทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทโดยทางมรดก ดังนี้ ไม่ถือว่าผิดคำฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างมีส่วนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่นาแปลงเดียวกันแล้วจำเลยที่ 1 เอาที่ทั้งแปลงไปขายให้แก่จำเลย ที่ 2. โจทก์จะขอให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายทั้งหมดไม่ได้ เพราะจำเลยย่อมมีสิทธิขายส่วนของตนได้ แต่ไม่มีสิทธิขายส่วนของโจทก์ สัญญาซื้อขายระหว่างจำเลย ไม่ผูกพันโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท: ปกครองปรปักษ์ vs. มรดก - ศาลยืนยันสิทธิผู้ครอบครอง
โอนทะเบียนซื้อขายที่ดินโดยรู้อยู่ว่าเป็นที่ของคนอื่นปกครองปรปักษ์เข้ามานานเจ้าของที่ดินฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินเป็นของตนได้
รับมฤดกที่ทั้งโฉนดซึ่งรวมเอาที่โจทก์มีกรรมสิทธิ์เข้าไปด้วยแล้วไปโอนขาย โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนการรับมฤดกและการซื้อขายและแสดงว่าที่ ๆ โจทก์ปกครองเป็นของโจทก์ ดังนี้ศาลพิพากษาให้แสดงว่าที่ ๆ โจทก์ปกครองเป็นของโจทก์โดยไม่พิพากษาเพิกถอนการรับมฤดกแลการซื้อขาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกทำลายทรัพย์สินในที่ดินพิพาท แม้มีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นความสุจริต
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ บุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับฟ้องฉะเพาะฐานทำให้เสียทรัพย์และบุกรุก ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ไม่ได้ เพราะเป็นการลงโทษในข้อที่ศาลไม่รับไว้พิจารณา
ในเรื่องบุกรุกนั้นการที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์กันอยู่นั้น มิใช่เป็นเหตุแสดงว่ากระทำโดยสุจริต
เข้าไปรื้อเรือนซึ่งมีการโต้เถียงกรรมสิทธิกันอยู่และเขาเป็นฝ่ายครอบครองเรือนอยู่นั้นถือว่าเป็นการกระทำโดยบังอาจ ย่อมมีผิดฐานบุกรุกตามมาตรา 328
ในเรื่องต้องหาว่าบุกรุกที่ดินนั้น การที่ยังมีการโต้แย้งกรรมสิทธิ์อยู่นั้นมิใช่เป็นเหตุแสดงความสุจริตของจำเลย
of 51