พบผลลัพธ์ทั้งหมด 517 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 714/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยไม่แจ้งการซื้อขาย และหน้าที่การนำสืบของผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแทนโจทก์ทั้งแปลงจำเลยให้การว่าจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวแทนโจทก์เพียงครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นของจำเลย เมื่อจำเลยมีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินดังกล่าว ย่อมต้องด้วยข้อสันนิษฐานไว้ก่อนว่า จำเลยเป็นผู้มีสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 โจทก์จึงต้องมีหน้าที่นำสืบก่อน
ที่จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยตกลงแบ่งที่ดินตามโฉนดกันคนละครึ่งโดยให้ทิศเหนือเป็นของจำเลย ทิศใต้เป็นของโจทก์นั้นแม้ข้อตกลงนี้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแต่เมื่อโจทก์นำสืบมิได้ตามที่กล่าวอ้างคดีก็จะต้องฟังว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของโจทก์และจำเลยคนละครึ่งตามที่จำเลยยอมรับดังนั้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีสิทธินำสืบถึงข้อตกลงแบ่งที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่
ที่จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยตกลงแบ่งที่ดินตามโฉนดกันคนละครึ่งโดยให้ทิศเหนือเป็นของจำเลย ทิศใต้เป็นของโจทก์นั้นแม้ข้อตกลงนี้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแต่เมื่อโจทก์นำสืบมิได้ตามที่กล่าวอ้างคดีก็จะต้องฟังว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของโจทก์และจำเลยคนละครึ่งตามที่จำเลยยอมรับดังนั้น จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า จำเลยจะมีสิทธินำสืบถึงข้อตกลงแบ่งที่ดินดังกล่าวได้หรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 643/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: เจ้าของรวมใช้สิทธิแทนกันได้ หากประเด็นข้อพิพาทเหมือนเดิม คดีต้องห้ามตามมาตรา 148
จำเลยเคยฟ้อง ร. เจ้าของรวมที่พิพาทคนหนึ่งหาว่าบุกรุกที่ดินและในคดีดังกล่าว ร. ได้อ้างสิทธิความเป็นเจ้าของรวมขึ้นเป็นข้อต่อสู้ จึงถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิอันเกิดแต่กรรมสิทธิ์เพื่อต่อสู้กับจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกแทนโจทก์และโจทก์ร่วมในคดีนี้(ในฐานะเจ้าของรวม) ด้วยการที่โจทก์และโจทก์ร่วมนำคดีนี้ซึ่งมีประเด็นข้อโต้เถียงอย่างเดียวกันกับคดีที่จำเลยเป็นโจทก์ฟ้อง ร. ในคดีก่อนว่าที่พิพาทเป็นของฝ่ายใดมาฟ้อง เท่ากับเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2512/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงท้ากันทางศาล: การกำหนดประเด็นข้อพิพาท และผลผูกพันตามข้อตกลง
คู่ความตกลงท้ากันเป็นการกำหนดประเด็นข้อพิพาท อาจสละประเด็นข้ออื่นเสียได้ เมื่อไม่นอกฟ้องและคำให้การ ก็ต้องพิจารณาพิพากษาไปตามคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2349/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: ประเด็นข้อพิพาทเดิมที่เคยถูกวินิจฉัยแล้ว คดีนี้จึงต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีก่อนจำเลยยื่นคำร้องขอให้ตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกพ. ยื่นคำคัดค้านขอให้ศาลตั้งตนเองและโจทก์ในคดีนี้เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันตามพินัยกรรมที่เจ้ามรดกทำไว้ ศาลพิพากษาให้ยกคำคัดค้านโดยฟังว่าเจ้ามรดกมิได้ทำพินัยกรรมไว้ คดีถึงที่สุด ดังนี้ถือได้ว่า พ.ได้ยื่นคำร้องในคดีก่อนแทนโจทก์ด้วย การที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้ขอให้ศาลตั้งโจทก์และ พ.เป็นผู้จัดการมรดกโดยอ้างพินัยกรรมนั้นอีก อันเป็นประเด็นข้อโต้เถียงอย่างเดียวกันกับที่ พ.ร้องคัดค้านแทนโจทก์ในคดีก่อน จึงเป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
เรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อศาลเห็นสมควรก็ยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปได้
เรื่องฟ้องซ้ำเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อศาลเห็นสมควรก็ยกขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษาคดีไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2224/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นข้อกฎหมายต้องยกขึ้นว่ากันในศาลชั้นต้นก่อน จึงจะอุทธรณ์ได้ แม้คดีขอเฉลี่ยทรัพย์
คดีที่พิพาทกันในชั้นขอเฉลี่ยทรัพย์นั้น ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความจะยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์ได้ก็จะต้องเป็นข้อที่ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
คำคัดค้านของโจทก์ที่คัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์อ้างว่า สัญญาจ้างว่าความที่พิพาททำขึ้นโดยฉ้อฉล แล้วกล่าวเสริมเพียงว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการขัดต่อศีลธรรมและมารยาทของทนายความตามกฎหมาย ดังนี้ ยังไม่เป็นการชัดแจ้งพอที่จะแสดงว่าโจทก์ประสงค์จะยกปัญหาว่าสัญญาจ้างว่าความที่พิพาทเป็นการขัดต่อกฎหมาย(พระราชบัญญัติทนายความและข้อบังคับว่าด้วยมารยาททนายความ)เป็นข้อคัดค้านต่อสู้ผู้ร้องด้วย ศาลจึงยกประเด็นเรื่อง สัญญาจ้างว่าความดังกล่าวเป็นการสมยอมหรือไม่ขึ้นวินิจฉัยประการเดียว
คำคัดค้านของโจทก์ที่คัดค้านคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์อ้างว่า สัญญาจ้างว่าความที่พิพาททำขึ้นโดยฉ้อฉล แล้วกล่าวเสริมเพียงว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการขัดต่อศีลธรรมและมารยาทของทนายความตามกฎหมาย ดังนี้ ยังไม่เป็นการชัดแจ้งพอที่จะแสดงว่าโจทก์ประสงค์จะยกปัญหาว่าสัญญาจ้างว่าความที่พิพาทเป็นการขัดต่อกฎหมาย(พระราชบัญญัติทนายความและข้อบังคับว่าด้วยมารยาททนายความ)เป็นข้อคัดค้านต่อสู้ผู้ร้องด้วย ศาลจึงยกประเด็นเรื่อง สัญญาจ้างว่าความดังกล่าวเป็นการสมยอมหรือไม่ขึ้นวินิจฉัยประการเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชี้ขาดตัดสินนอกประเด็น: ศาลมิควรวินิจฉัยประเด็นที่จำเลยมิได้ต่อสู้ไว้
คำให้การของจำเลยต่อสู้เพียงว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท คดีจึงมีประเด็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่เท่านั้น จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าจนหมดสิทธิในที่พิพาท และที่พิพาทได้ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ฉะนั้น ปัญหาที่ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือปล่อยให้ที่พิพาทรกร้างว่างเปล่า จนตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลชั้นต้นยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัย จึงเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีพิพาทครอบครองที่ดิน: ศาลต้องรับฟังพยานหลักฐานตามประเด็นข้อพิพาท ไม่ยึดความเห็นของคณะกรรมการสอบสวน
ที่โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องและให้จำเลยเพิกถอนคำร้องคัดค้านการที่โจทก์ขอออก น.ส.3 นั้น เป็นกรณีพิพาทระหว่างราษฎรด้วยกันที่โจทก์กล่าวหาจำเลยเรื่องถูกรบกวนการครอบครองในที่ดินที่โจทก์อ้างว่ามีสิทธิครอบครอง แม้การที่ทางราชการไม่ออก น.ส.3 ให้โจทก์ จะไม่ใช่เพราะจำเลยไปคัดค้านแต่เพราะเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเห็นว่าเป็นที่สาธารณะก็ตาม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์จำเลย โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานหักล้างข้ออ้างโจทก์ และขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
ข้อที่โจทก์อ้างในฟ้องและจำเลยปฏิเสธว่าไม่มีหนี้โจทก์ต้องสืบตามข้ออ้าง จำเลยนำสืบหักล้างได้แม้ไม่อ้างข้อต่อสู้ เมื่อได้ถามค้านตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 แล้วก็เท่ากับนำสืบโต้เถียงในประเด็นเดียวกัน ไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น
ค้ำประกันค่าซื้อของเชื่อไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท เดือนใดค้างชำระเกินจำนวนนั้น ผู้ค้ำประกันรับผิดเพียง 15,000 บาท แต่ยังต้องรับผิดรวมกับที่ค้างชำระในการซื้อของเชื่อเดือนถัดไปอีกด้วย
ค้ำประกันค่าซื้อของเชื่อไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท เดือนใดค้างชำระเกินจำนวนนั้น ผู้ค้ำประกันรับผิดเพียง 15,000 บาท แต่ยังต้องรับผิดรวมกับที่ค้างชำระในการซื้อของเชื่อเดือนถัดไปอีกด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท: ประเด็นการชำระค่าแชร์และความขัดแย้งในคำให้การ
แม้เช็คพิพาทเป็นเช็คของจำเลยสั่งจ่ายเงินสดให้แก่ผู้ถือเมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คและเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ใช้เงินตามเช็คพิพาทนั้นได้ก็ตามแต่จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คให้นายวงแชร์เพื่อยึดถือไว้เป็นประกันซึ่งไม่ตรงกับที่โจทก์บรรยายในฟ้องเพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินให้โจทก์เป็นค่าเล่นแชร์เปียหวยซึ่งโจทก์ได้จ่ายเงินให้จำเลยไปแล้ว นอกจากนั้นจำเลยยังให้การยืนยันด้วยว่าจำเลยมิได้รับชำระเงินค่าแชร์ที่เปียได้จากโจทก์ซึ่งถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังที่จำเลยต่อสู้จำเลยก็ไม่มีมูลหนี้ที่จะต้องชำระเงินให้โจทก์ตามเช็คพิพาท รูปคดีจำต้องฟังข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2802/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งประเด็น, เอกสารหลักฐาน, และหน้าที่ตามสัญญา: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแก้ไขประเด็นหน้าที่นำสืบใหม่และระบุว่าหากศาลพิพากษาเห็นว่าไม่ควรแก้ไขให้ถือตามประเด็นเดิม จำเลยก็จะถือคำร้องฉบับนี้ เป็นคำร้องคัดค้านการกำหนดประเด็น เพื่อประโยชน์ในการอุทธรณ์ฎีกานั้น เป็นแต่เพียงการแสดงความประสงค์ของจำเลยไว้ล่วงหน้า ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่ง ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งของศาลตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
เอกสารท้ายคำให้การยอ่มถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การด้วย เมื่อเอกสาร ล.1ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความเป็นอย่างเดียวกับสำเนาสัญญาการจำหน่ายแก๊สปิโตรเลี่ยมท้ายคำให้การจำเลย ดังนั้น แม้โจทก์มิได้ระบุอ้างเอกสาร ล.1ก็เป็นอำนาของศาลที่จะหยิบยกเอาข้อความในเอกสาร ล.1 ซึ่งเป็นประเด็นและพยนหลักฐานในสำนวนนี้ขึ้นมาเป็นข้อวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
เอกสารท้ายคำให้การยอ่มถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การด้วย เมื่อเอกสาร ล.1ซึ่งเป็นสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยมีข้อความเป็นอย่างเดียวกับสำเนาสัญญาการจำหน่ายแก๊สปิโตรเลี่ยมท้ายคำให้การจำเลย ดังนั้น แม้โจทก์มิได้ระบุอ้างเอกสาร ล.1ก็เป็นอำนาของศาลที่จะหยิบยกเอาข้อความในเอกสาร ล.1 ซึ่งเป็นประเด็นและพยนหลักฐานในสำนวนนี้ขึ้นมาเป็นข้อวินิจฉัยได้ ไม่เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น
ข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างขึ้นใหม่ในชั้นฎีกา ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้