คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องขับไล่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 584 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1611/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการฟ้องขับไล่ผู้บุกรุกหลังสิ้นสุดสัญญาเช่าเดิม แม้มิได้เป็นผู้จัดการมรดก
ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์และบิดาโจทก์ได้ร่วมกันเช่าที่พิพาทมาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและจำเลยไม่ได้เช่าช่วงที่พิพาทจากบิดาโจทก์ บิดา โจทก์ได้แจ้งให้โจทก์ทราบว่าให้จำเลยอาศัยโจทก์ไม่ได้ทักท้วงต้องถือว่าโจทก์ยินยอมด้วย ต่อมาบิดาโจทก์ตาย โจทก์ได้บอกให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้วแม้โจทก์จะไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกของธิดาโจทก์ ๆ ก็ฟ้องขับไล่จำเลยได้ เพราะจำเลยอยู่ในฐานะอาศัยโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดชำระค่าเช่าหลังศาลตัดสินว่าจำเลยเป็นผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่ได้
เดิมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยเป็นผู้อาศัยนายเปงสำ ๆ ได้ออกจากห้องพิพาทไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิอยู่ต่อไป คดีนั้นจำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเองเป็นผู้เช่าจากโจทก์และได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ศาลฎีกา พิพากษาว่าจำเลยเป็นผู้เช่าและได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ พิพากษายกฟ้องโจทก์ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 1356/2496 ซึ่งอ่านให้โจทก์จำเลยฟังเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2497
ดังนี้จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระค่าเช่าตั้งแต่เดิมคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2494 (วันที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย) ตลอดมา จะอ้างว่าระหว่างพิจารณาคดีเรื่องก่อน (ตั้งแต่ ก.พ.94 ถึงวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา 24 เม.ย.97) จำเลยไม่ต้องชำระเพราะคดีนั้นโจทก์ฟ้องว่าจำเลยอาศัย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านั้นไม่ได้
จำเลยกลับนำค่าเช่าสำหรับเดือนมกราคม กับเดือน กุมภาพันธ์ 2497 รวม 2 เดือน ไปชำระโจทก์โดยถือว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกย้อนหลังขึ้นไปจากนี้ เมื่อโจทก์ไม่ยอมรับจึงไม่ใช่ความผิดของโจทก์ และ พฤติการณ์เช่นนี้แสดงว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าแล้ว ทั้งต่อมาเดือนเมษายนโจทก์ส่งคนไปเก็บค่าเช่าที่ค้างทั้งหมดรวม39 เดือน จำเลยก็ไม่ชำระ โจทก์เตือนอีกจำเลยก็ไม่ชำระ ดังนี้เรียกว่าจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่าเช่ามากกว่า 2 คราวติด ๆ กัน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ม. 16(1) แล้ว โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 569/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องขับไล่ผู้ที่เคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันและอาศัยอยู่กับโจทก์ โดยไม่ได้เป็นผู้เช่าร่วม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลย โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยโจทก์อยู่คดีจึงพิพาทกันเพียงว่าจำเลยอาศัยโจทก์จริงหรือไม่แม้จำเลยจะอ้างว่าเป็นสามีโจทก์ ก็ไม่ทำให้รูปคดีเปลี่ยนไปไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ศาลแขวงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาได้
โจทก์จำเลยมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบ โจทก์เช่าตึกพิพาทโดยลำพัง มิได้เป็นตัวแทนจำเลย และจำเลยเคยรับว่าอาศัยโจทก์อยู่จำเลยจึงไม่มีสิทธิเป็นเจ้าของร่วมในสิทธิการเช่ารายนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56-57/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องร่วมกัน สิทธิในการอยู่อาศัย และการฟ้องขับไล่ระหว่างผู้เช่าร่วม
โจทก์จำเลยต่างเช่าห้อง โดยโจทก์อยู่ชั้นบน จำเลยอยู่ชั้นล่างช่วยกันออกค่าเช่าให้เจ้าของห้องด้วยกันโจทก์จะฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้แม้ฝ่ายใดจะทำสัญญาเช่าห้องทั้งห้องกับเจ้าของแต่ฝ่ายเดียวก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองโดยอายุความและการฟ้องขับไล่ แม้ไม่เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย
โจทย์ฟ้องว่า สามีโจทก์ซื้อสวนยางมาแล้ว โจทก์กับสามีครอบครองตลอดมา สามีโจทก์ตายโจทก์ก็ยังคงครอบครองต่อมารวม 10 ปีกว่า บัดนี้จำเลยโต้เถียงกรรมสิทธิจึงขอให้แสดงว่าเป็นที่ของโจทก์ และห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง ดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า โจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ประเด็นในข้อโจทก์ครอบครองที่พิพาทเพื่อคนก็ยังเหลืออยู่ จึงต้องถือว่าโจทก์ยังมีอำนาจฟ้องผู้บุกรุกเข้ามาแย่งสิทธิครอบครองหรือทำให้เสียหายได้อยู่ ศาลจะด้วยพิพากษายกฟ้องโดยไม่พิจารณาประเด็นข้อครอบครองเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528-1529/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มีนิติสัมพันธ์และสิทธิในการครอบครองห้องเช่า ทำให้การฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายไม่สำเร็จ
ฟ้องกล่าวว่าเมื่อโจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากเจ้าของ จำเลยได้ครอบครองชั้นล่างของห้องพิพาทอยู่แล้ว โดยเช่าช่วงจากผู้เช่าเดิม ดังนี้จำเลยหาได้เข้าครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ไม่ โจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน โจทก์จะฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้
โจทก์ตั้งประเด็นในฟ้องว่าจำเลยได้เช่าช่วงห้องพิพาทจากผู้เช่าเดิมมิได้เช่าจากโจทก์ แม้จำเลยจะให้การว่าได้เช่าจากโจทก์ก็ดี ศาลจะถือตามคำให้การจำเลยไม่ได้ เพราะขัดต่อคำให้การจำเลยไม่ได้ เพราะขัดต่อ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528-1529/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มีนิติสัมพันธ์กันระหว่างผู้เช่าช่วงกับผู้เช่าใหม่ ทำให้ฟ้องขับไล่ไม่ได้
ฟ้องกล่าวว่าเมื่อโจทก์ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากเจ้าของจำเลยได้ครอบครองชั้นล่างของห้องพิพาทอยู่แล้ว โดยเช่าช่วงจากผู้เช่าเดิม ดังนี้ จำเลยหาได้เข้าครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์ไม่ โจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน โจทก์จะฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้
โจทก์ตั้งประเด็นในฟ้องว่า จำเลยได้เช่าช่วงห้องพิพาทจากผู้เช่าเดิมมิได้เช่าจากโจทก์ แม้จำเลยจะให้การว่าได้เช่าจากโจทก์ก็ดี ศาลจะถือตามคำให้การจำเลยไม่ได้ เพราะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาอำพราง: สัญญาอาศัยใช้บังคับกับผู้เช่าช่วงจริงไม่ได้
โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยอาศัยห้องเพื่ออำพรางการที่โจทก์ให้จำเลยเช่าช่วงดั่งนี้โจทก์จะนำเอาสัญญาอาศัย มาฟ้องขับไล่จำเลยในฐานะผู้อาศัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาอาศัยอำพรางการเช่าช่วง: โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย
โจทก์ทำสัญญาให้จำเลยอาศัยห้องเพื่ออำพรางการที่โจทก์ให้จำเลยเช่าช่วง ดั่งนี้โจทก์จะนำเอาสัญญาอาศัยมาฟ้องขับไล่จำเลยในฐานะผู้อาศัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณะประโยชน์: สิทธิครอบครองในลำราง และการฟ้องขับไล่
ที่ในลำรางสาธารณะเรือเดินได้นั้น ย่อมเป็นทางน้ำอันราษฎรใช้ร่วมกันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แม้ผู้ใดจะเคยเข้าไปทำนาในลำรางนั้นมาก่อน ผู้นั้นก็หามีสิทธิครอบครองอันชอบด้วยกฎหมายไม่ จะขอให้ศาลแสดงว่าที่นั้นเป็นของผู้นั้นไม่ได้ และเมื่อมีราษฎรอื่นมาทำนาในที่นั้นบ้าง ผู้ที่เคยทำนาอยู่ก่อนจะหาว่าผู้เข้าทำใหม่ละเมิดก็ไม่ได้ เพราะผู้เข้าทำใหม่หาได้ทำละเมิดต่อข้าวที่คนเดิมทำไว้ก่อนแล้วไม่ และเมื่อปรากฎว่าผู้เข้าทำใหม่มีที่นามีโฉนดอยู่ติดต่อกับที่สาธารณะนี้ ส่วนผู้เคยทำคนเดิมหามีนาอยู่แถวนั้นไม่ ดังนี้ ผู้เคยทำนามาเดิม ย่อมไม่มีสิทธิอะไรจะมาฟ้องขับไล่ ผู้เข้าทำใหม่นั้นได้
of 59