คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 831 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและการปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายแรงงานก่อนฟ้องคดี
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยรับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือมิฉะนั้นให้จ่ายค่าชดเชยและค่าเสียหาย ข้ออ้างประการแรกที่ว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยฝ่าฝืนระเบียบเป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นธรรมตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 49 ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติให้โจทก์ต้องร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการอย่างใดก่อนที่จะดำเนินการในศาลแรงงาน จึงฟ้องต่อศาลแรงงานกลางได้โดยไม่ต้องร้องเรียนหรือปฏิบัติการอย่างใดก่อน ไม่ต้องห้ามตามมาตรา8 วรรคท้าย
ส่วนข้ออ้างประการที่สองว่า จำเลยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยกล่าวอ้างว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ในระหว่างที่ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างซึ่งโจทก์เกี่ยวข้องด้วยมีผลใช้บังคับเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ฯ มาตรา 123 ซึ่งมาตรา 124 บัญญัติไว้ให้ผู้ต้องหาต้องยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ หากประสงค์จะเรียกร้องสิ่งใด ต้องยื่นภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการฝ่าฝืน เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแรงงานกลางขอให้รับโจทก์เข้าทำงานต่อไปหรือจ่ายค่าชดเชยหรือค่าเสียหายโดยมิได้ร้องเรียนตามมาตรา 124 ก่อน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 8 วรรคท้าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 119/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือมอบอำนาจของสหกรณ์: เสียงข้างมากของคณะกรรมการเพียงพอต่อการสมบูรณ์ของอำนาจฟ้องคดี
จำเลยให้การว่า ค.จะได้รับมอบอำนาจจากโจทก์ให้ ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรอง คำให้การเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การรับ โจทก์จึงยังมีหน้าที่นำสืบถึง ประเด็นข้อนี้
พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 มาตรา 24 บัญญัติให้คณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์จำกัดเป็นผู้ดำเนินการและ เป็นผู้แทนสหกรณ์จำกัดในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และคณะกรรมการจะมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งหรือหลายคน ทำการแทนก็ได้แต่ตามกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์ มิได้กำหนดไว้ว่าในการดำเนินกิจการต่างๆ คณะกรรมการดังกล่าว จะต้องลงชื่อครบทุกคนหรือไม่เพียงใด จึงต้องนำบทบัญญัติทั่วไป เกี่ยวกับนิติบุคคลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ซึ่งมาตรา 77 กำหนดให้เป็นไปตามเสียงข้างมาก ดังนั้น เมื่อ คณะกรรมการดำเนินการของโจทก์ 6 คนในจำนวน 7 คนได้ลงชื่อ ในหนังสือมอบอำนาจให้ ค.ฟ้องคดี จึงเป็นเสียงข้างมากตามนัย แห่งบทกฎหมายดังกล่าว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์จึงสมบูรณ์ ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 839/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์: ฟ้องคดีเกิน 10 ปี นับจากเจ้ามรดกถึงแก่กรรม และไม่มีการครอบครอง
โจทก์ฟ้องคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่กรรมโดยโจทก์ไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทด้วยตนเองและไม่มีพยานหลักฐานว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทแทนโจทก์คดีโจทก์ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสุดท้ายจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ได้รู้หรือควรรู้ถึงความตายของเจ้ามรดกเมื่อไร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อห้ามฟ้องคดีอาญาเด็กและเยาวชนหลังพ้นกำหนดผัดฟ้อง และผลกระทบต่ออำนาจฟ้อง
จำเลยถูกจับในข้อหาชิงทรัพย์ ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุ 15 ปีเศษ อยู่ในอำนาจศาลเด็กและเยาวชนกลางพิจารณาพิพากษา พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวจำเลยไว้ 30 วัน แล้วทำบันทึกส่งตัวจำเลยมายังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางและขอผัดฟ้องมีกำหนด + วัน ต่อจากนั้นไม่ได้ขอผัดฟ้องอีก จนศาลมีคำสั่งปล่อยจำเลย ดังนี้ เป็นการพ้นกำหนดระยะเวลาผัดฟ้องตามมาตรา 24 ทวิ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ซึ่งมาตรา 24 จัตวา บัญญัติห้ามให้พนักงานอัยการฟ้องคดีดังกล่าวเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ ข้อห้ามฟ้องนี้ห้ามฟ้องต่อศาลทุกศาลและมีอยู่ตลอดไป เมื่อจำเลยมีอายุเกินกำหนดที่อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางแล้ว ข้อห้ามดังกล่าวยังคงไม่หมดไป จะนำคดีที่ถูกห้ามฟ้องนั้นมาฟ้องต่อศาลอาญาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อห้ามฟ้องคดีเด็กและเยาวชนพ้นกำหนดระยะเวลา แม้จำเลยพ้นอำนาจศาลแล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยถูกจับในข้อหาชิงทรัพย์ ขณะเกิดเหตุจำเลยมีอายุ15 ปีเศษอยู่ในอำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางพิจารณาพิพากษา พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวจำเลยไว้ 30 วันแล้วทำบันทึกส่งตัวจำเลยมายังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางและขอผัดฟ้องมีกำหนด 15 วัน ต่อจากนั้นไม่ได้ขอผัดฟ้องอีก จนศาลมีคำสั่งปล่อยจำเลย ดังนี้ เป็นการพ้นกำหนดระยะเวลาผัดฟ้องตามมาตรา 24 ทวิ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ซึ่งมาตรา 24 จัตวา บัญญัติห้ามมิให้พนักงานอัยการฟ้องคดีดังกล่าวเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ ข้อห้ามฟ้องนี้ห้ามฟ้องต่อศาลทุกศาลและมีอยู่ตลอดไป เมื่อจำเลยมีอายุเกินกำหนดที่อยู่ในอำนาจของศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางแล้ว ข้อห้ามดังกล่าวยังคงไม่หมดไป จะนำคดีที่ถูกห้ามฟ้องนั้นมาฟ้องต่อศาลอาญาอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ครอบครองทรัพย์มีอำนาจฟ้องคดีบุกรุกทำลายทรัพย์สินได้ แม้ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์
ผู้เสียหายในความผิดฐานบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ ไม่จำต้องเป็นเจ้าของ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้น ผู้ครอบครองดูแลรักษาทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายมีอำนาจ ฟ้องคดีได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้บทที่ศาลชั้นต้นวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่แก้กำหนดโทษ โจทก์จำเลยฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3083/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเกี่ยวกับสินสมรสต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส หรือฟ้องร่วมกัน หากไม่ปฏิบัติตามศาลต้องสั่งแก้ไขข้อบกพร่อง
หญิงมีสามีฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวกับรถยนต์ซึ่งเป็นสินสมรสต้องฟ้องร่วมกับสามีหรือได้รับความยินยอมของสามี
ศาลชั้นต้นมิได้สั่งให้แก้ไขเรื่องความสามารถ แต่พิพากษายกฟ้อง โดยว่าไม่มีหลักฐานความยินยอมของสามีเป็นหนังสือศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาโดยส่งหนังสือยินยอมของสามีมาด้วย จำเลยแก้ฎีกาว่าหนังสือให้ความยินยอมดังกล่าวจะถูกต้องหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ดังนี้ต้องให้ศาลชั้นต้นไต่สวนเสียก่อนว่าหนังสือยินยอมของสามีโจทก์ให้ฟ้องคดีถูกต้องหรือไม่ หากถูกต้องก็ถือว่าโจทก์แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในการฟ้องคดีบริบูรณ์แล้ว ถ้าไม่ถูกต้อง ให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งกำหนดให้โจทก์แก้ไขข้อบกพร่องนั้นเสียให้บริบูรณ์ภายในกำหนดเวลาอันสมควรที่ศาลชั้นต้นจะสั่ง แล้วดำเนินการต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2535/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเงินทดแทนเกินกำหนด 30 วันตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
คดีก่อนโจทก์ยื่นฟ้องโดยมิได้วางเงินที่จะต้องชดใช้ต่อศาลเป็นการขัดต่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานศาลจึงไม่รับฟ้องโดยเห็นว่าโจทก์ไม่มีสิทธิจะฟ้องคดีโจทก์ก็มิได้อุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาการวางเงินหรือคำสั่งไม่รับฟ้องอย่างใดการที่โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้ใหม่ แม้จะเป็นเรื่องเดียวกับคดีก่อนก็เป็นการฟ้องคนละคดีจะถือวันยื่นฟ้องคดีก่อนมาเป็นวันฟ้องคดีนี้หาได้ไม่เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้เกินกว่าระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงานเกี่ยวกับเงินทดแทน คำสั่งของอธิบดีเป็นที่สุด โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2462/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเป็นบิดามารดา ความสมบูรณ์ของสถานะทางกฎหมาย และการฟ้องคดีรับบุตร
การเป็นบิดากับบุตรระหว่างนาย บ.กับผู้ร้องมีอยู่แล้วในวันที่ 16 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นวันที่บทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ได้ตรวจชำระใหม่ใช้บังคับ จึงนำบทบัญญัติบรรพ 5 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่ตรวจชำระใหม่มาใช้บังคับได้ไม่
ปัญหาว่าการฟ้องคดีนี้ขอให้รับเด็กเป็นบุตรจะต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บุตรบรรลุนิติภาวะนั้น ศาลจะหยิบยกขึ้นพิจารณาได้ก็ต่อเมื่อผู้คัดค้านได้ยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ มิฉะนั้นคดีไม่มีประเด็นข้อนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2327/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเงินทดแทนต้องวางเงินตามคำสั่งก่อน หากไม่วางเงิน ศาลไม่รับฟ้อง
การที่โจทก์จะนำคดีมาสู่ศาลในกรณีที่อธิบดีกรมแรงงานมีคำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนให้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายเงินทดแทนให้แก่ผู้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนนั้นตามข้อ 60 แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 โจทก์จะต้องวางเงินต่อศาลเป็นจำนวนตามคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงาน จึงจะฟ้องคดีได้ ถ้าปรากฏว่าโจทก์มิได้วางเงินดังกล่าวต่อศาลโจทก์ก็นำคดีมาสู่ศาลไม่ได้
of 84