คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รอการลงโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 620 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2089/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามเนื่องจากโทษจำคุกแต่ละกระทงไม่เกิน 1 ปี และศาลอุทธรณ์ให้รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน 1 ปี และฐานพกพาอาวุธปืน 6 เดือนรวม 1 ปี 6 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้เป็นว่าให้จำคุกจำเลยฐานมีอาวุธปืน 6 เดือนฐานพกพาอาวุธปืน 3 เดือน รวม 9 เดือน และให้รอการลงโทษจำเลยไว้ 2 ปี ซึ่งโทษแต่ละกระทงศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์จำคุกไม่เกิน 1 ปี ดังนี้ ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2044/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้ามตามมาตรา 219 ว.อาญา: การฎีกาขอรอการลงโทษจำคุกเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ไม่เข้าข้อยกเว้น
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยเมื่อรับสารภาพแล้วมีกำหนด 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ไม่รอการลงโทษจำคุก จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย เป็นการฎีกาคัดค้านดุลพินิจของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 6 เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรสู่ศาลสูงสุดจะได้รับวินิจฉัย จึงให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 และข้อความที่ว่า ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด" นั้น หมายถึงข้อความที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่าพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด หรือมิฉะนั้นก็จะต้องเป็นข้อความซึ่งมีปัญหาสำคัญอันจำเป็นที่ควรจะได้รับการวินิจฉัยกลั่นกรองจากศาลสูงสุดเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่ง เมื่อจำเลยฎีกาเพียงขอให้รอการลงโทษจำเลยอย่างเดียวเท่านั้น โดยยกเหตุผลต่าง ๆ ขึ้นอ้าง ซึ่งไม่ปรากฏมีในศาลชั้นต้นจึงมิใช่เป็นการฎีกาในปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด แม้ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2044/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัย รอการลงโทษ จำเลยฎีกาคัดค้านดุลพินิจศาลอุทธรณ์ เกินเหตุ
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยเมื่อรับสารภาพแล้วมีกำหนด 6 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ไม่รอการลงโทษจำคุก จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย เป็นการฎีกาคัดค้านดุลพินิจของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2517 มาตรา 6 เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรสู่ศาลสูงสุดจะได้รับวินิจฉัย จึงให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 และข้อความที่ว่า "ข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด" นั้น หมายถึงข้อความที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า พยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด หรือมิฉะนั้นก็จะต้องเป็นข้อความซึ่งมีปัญหาสำคัญอันจำเป็นที่ควรจะได้รับการวินิจฉัยกลั่นกรองจากศาลสูงสุดเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่ง เมื่อจำเลยฎีกาเพียงขอให้รอการลงโทษจำเลยอย่างเดียวเท่านั้น โดยยกเหตุผลต่างๆ ขึ้นอ้าง ซึ่งไม่ปรากฏมีในศาลชั้นต้น จึงมิใช่เป็นการฎีกาในปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด แม้ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้ฎีกาได้ ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 740/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับพิจารณาเรื่องรอการลงโทษ ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 1 ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุก 1 ปี จำเลยฎีกาขอให้รอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษจำเลย ดังนี้ เป็นฎีกาข้อเท็จจริงในดุลพินิจ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษพนัน: ต้องพ้นโทษเดิมก่อนจึงจะเพิ่มโทษได้ ไม่เพิ่มโทษระหว่างรอการลงโทษ
การเพิ่มโทษตาม พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 14 ทวิ ต้องจำเลยพ้นโทษตาม พระราชบัญญัติการพนันแล้วไปกระทำผิด พระราชบัญญัติการพนันขึ้นอีก ถ้ากระทำผิดระหว่างรอการลงโทษเดิม จะเพิ่มโทษหรือเอาโทษจำคุกที่รอไว้มาลงด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยกรณีโต้แย้งดุลพินิจรอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 เดือน โดยไม่รอการลงโทษให้จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้รอการลงโทษจำคุกมีกำหนด 2 ปี โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ และร้องขอให้ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา ศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีนี้เห็นว่า ฎีกาของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงเพราะเป็นปัญหาสำคัญในภาวะปัจจุบัน จึงอนุญาตให้ฎีกาได้ ดังนี้เป็นการอนุญาตให้โจทก์ฎีกาเพื่อศาลฎีกาจะใช้ดุลพินิจว่าควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยหรือไม่เท่านั้น มิใช่เป็นการฎีกาและอนุญาตให้ฎีกาเพื่อศาลฎีกาและได้วินิจฉัยว่าพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ฎีกาของโจทก์จึงไม่เป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด ที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ฎีกานั้น ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายร่วมกัน: การพิจารณาความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม และการรอการลงโทษ
จำเลยกับพวกยืนล้อมผู้เสียหายทั้งสองอยู่ในห้องที่เกิดเหตุในระยะใกล้ ส่วนผู้เสียหายยืนอยู่ห่างกันเพียง 5 เมตร ครั้นผู้เสียหายทั้งสองถูกคนเอาผ้าคลุมศีรษะแล้ว จำเลยกับพวกก็กลุ้มรุมทำร้ายผู้เสียหายทั้งสองทันทีในเวลาใกล้ชิดกัน ตามพฤติการณ์พอถือว่าจำเลยได้ลงมือกระทำผิดพร้อมกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2184/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาในเรื่องดุลพินิจการลงโทษ จำเลยรับสารภาพ ศาลอุทธรณ์แก้โทษรอการลงโทษ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษเดิม
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี แม้ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษแต่ก็ยังลงโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โจทก์ฎีกาในข้อดุลพินิจการลงโทษของศาล เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างสถานภาพนักศึกษาประกอบการขอรอการลงโทษ: ศาลมีดุลพินิจ
จำเลยรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 1 เดือน จำเลยอุทธรณ์อ้างคำรับรองของสถานศึกษาว่า จำเลยกำลังศึกษาอยู่ขอให้รอการลงโทษ ข้อเท็จจริงนี้เป็นคนละเรื่องกับจำเลยทำผิดหรือไม่ จำเลยอ้างเพื่อประกอบดุลพินิจได้ ศาลอุทธรณ์จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษได้ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงนอกสำนวน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1907/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์ในการพิจารณาเหตุรอการลงโทษ แม้ข้อเท็จจริงบางส่วนเพิ่งยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องในข้อกำหนดโทษ แต่พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษไว้ เช่นนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขมากโจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ที่แก้ไขใหม่ซึ่งบัญญัติความว่า ข้อเท็จจริงที่จะยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์ จะต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นนั้น หมายถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับประเด็นในคดีโดยตรง อุทธรณ์ของจำเลยไม่ได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นโต้เถียงว่าไม่ได้กระทำผิด แต่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับผู้ตายและความจำเป็นเพื่อขอให้ศาลลงโทษจำคุกสถานเบาหรือรอการลงโทษ จึงอุทธรณ์ดังกล่าวได้ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจที่พิจารณารับฟังหรือไม่รับฟังได้แล้วแต่ดุลพินิจทั้งไม่มีกฎหมายบัญญัติห้าม ศาลมิให้ใช้ดุลพินิจให้เป็นคุณแก่จำเลย
of 62