คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์: เงินที่เข้าใจผิดว่าเป็นของตนเอง ไม่ถือว่ามีความผิด
จำเลยเป็นสามีของ ส. บุตรของผู้เสียหายโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยและ ส. ทำนาขายข้าวได้เงิน 7,500บาท ส. นำเงินดังกล่าวใส่ไว้ในกระเป๋าถือฝากเก็บไว้ในหีบของผู้เสียหาย เช่นนี้ การที่จำเลยไขกุญแจเปิดหีบของผู้เสียหายแล้วเอาเงินดังกล่าวไปโดยเข้าใจว่าเป็นเงินของจำเลย จำเลยมีสิทธิเอาไปได้ จึงเป็นการกระทำที่ขาดเจตนาทุจริต ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3774/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทุจริตในการลักทรัพย์: เงินที่จำเลยเข้าใจว่าเป็นของตนเอง
จำเลยเป็นสามีของ ส. บุตรของผู้เสียหายโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยและ ส. ทำนาขายข้าวได้เงิน7,500บาท ส.นำเงินดังกล่าวใส่ไว้ในกระเป๋าถือฝากเก็บไว้ในหีบของผู้เสียหายเช่นนี้ การที่จำเลยไขกุญแจเปิดหีบของผู้เสียหายแล้วเอาเงินดังกล่าวไปโดยเข้าใจว่าเป็นเงินของจำเลย จำเลยมีสิทธิเอาไปได้จึงเป็นการกระทำที่ขาดเจตนาทุจริต ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3684-3685/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์นายจำนำ การขนย้ายทรัพย์สินที่จำนำโดยอ้างว่าเป็นของผู้อื่นทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้รับจำนำ
จำเลยได้จำนำทรัพย์สินไว้แก่ผู้เสียหาย การที่จำเลยกับพวกร่วมกันขนย้ายทรัพย์สินที่จำนำไปจากสถานที่เก็บรักษาโดยอ้างว่าทรัพย์สินเหล่านั้นเป็นของบุคคลอื่นย่อมเป็นการทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้รับจำนำ เพราะเป็นการทำให้ทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันการจำนำลดจำนวนลงหรือหมดสิ้นไป จึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 349
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์พร้อมทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ความผิดฐานพยายามฆ่า และลักทรัพย์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 อีกบทหนึ่ง
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส และตกลงจากรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่มา จากนั้นจำเลยได้ลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป การที่จำเลยยิงผู้เสียหายก็เพื่อความสะดวกในการที่จำเลยจะลักเอารถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสจากการกระทำดังกล่าวการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6),80มิใช่มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นการฆ่าเพราะได้กระทำความผิดอื่นมาแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 357/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าเพื่อลักทรัพย์: ความผิดฐานพยายามฆ่าและลักทรัพย์
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 อีกบทหนึ่ง จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ของผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(6),80 มิใช่มาตรา 289(7) ซึ่งเป็นการฆ่าเพราะได้กระทำความผิดอื่นมาแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3370/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน: การตีความคำรับสารภาพตามฟ้องและขอบเขตความผิด
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงเวลากลางวันวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้เข้าไปลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในเคหสถานไปโดยทุจริตหรือมิฉะนั้นจำเลยได้กระทำผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ถูกลักไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางวันจริงตามฟ้องเช่นนี้ ก็ต้องฟังว่าจำเลยลักทรัพย์ในเคหสถานตามที่ปรากฏในคำฟ้องโจทก์ด้วยศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) วรรคแรกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3370/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำรับสารภาพฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน แม้ไม่ได้ระบุชัดเจน ศาลลงโทษตามมาตรา 335 ได้
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงเวลากลางวันวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้เข้าไปลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในเคหสถานไปโดยทุจริตหรือมิฉะนั้นจำเลยได้กระทำผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ถูกลักไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางวันจริงตามฟ้องเช่นนี้ ก็ต้องฟังว่าจำเลยลักทรัพย์ในเคหสถานตามที่ปรากฏในคำฟ้องโจทก์ด้วยศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8) วรรคแรกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3370/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน ศาลพิจารณาจากคำรับสารภาพแม้ไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างเวลากลางคืนก่อนเที่ยงถึงเวลากลางวันวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้เข้าไปลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในเคหสถานไปโดยทุจริตหรือมิฉะนั้นจำเลยได้กระทำผิดฐานรับของโจรทรัพย์ที่ถูกลักไป เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางวันจริงตามฟ้องเช่นนี้ ก็ต้องฟังว่าจำเลยลักทรัพย์ในเคหสถานตามที่ปรากฏในคำฟ้องโจทก์ด้วยศาลลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8) วรรคแรกได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3016/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำฝ่าฝืนคำสั่งนายกรัฐมนตรีและฐานลักทรัพย์ กรณีสูบถ่ายน้ำมันผิดสถานที่
คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2516 ข้อ 15(1)(3) ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้ควบคุมยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันเบนซินหรือน้ำมันดีเซลส่งแก่ผู้จำหน่ายน้ำมันหรือผู้ซื้อน้ำมัน ทำการสูบถ่ายน้ำมันเบนซินหรือดีเซลระหว่างทางนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว ต้องถือว่าประชาชนรวมทั้งจำเลยได้ทราบคำสั่งฉบับดังกล่าวแล้ว การที่จำเลยกระทำการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว ย่อมเป็นความผิดตามพระราชกำหนดแก้ไขและป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงพ.ศ. 2516 มาตรา 8

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2712/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์พระพุทธรูปและทรัพย์สินอื่น การพิจารณาความเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด
การนำพระพุทธรูปซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนสืบมาแต่เดิมไปเก็บซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากการโจรกรรม หาทำให้พระพุทธรูปนั้นพ้นจากการเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนสักการะบูชาไม่
จำเลยเพียงแต่ใช้รถยนต์ของกลางเป็นพาหนะไปลักและบรรทุกเอาพระพุทธรูปไปจากวัดที่เกิดเหตุ ไม่ได้ใช้ในการลักพระพุทธรูปดังกล่าวโดยตรง รถยนต์นั้นจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้
of 160