พบผลลัพธ์ทั้งหมด 558 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 608/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาโดยอ้างเหตุฟ้องผิดวัน ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ศาลล่างวินิจฉัยแล้ว
คดีอาญาที่ศาลล่างยกฟ้องโดยศาลชั้นต้นไม่เชื่อพะยานโจทก์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ฟ้องผิดวันดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยความรับผิดทางอาญาต้องพิจารณาคำให้การจำเลยทั้งหมด ไม่เลือกเฉพาะบางส่วน
คำให้การจำเลยที่ถือว่าจำเลยไม่ได้ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง
การพิจารณาคำให้การจำเลยว่า จำเลยรับผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น จะพิจารณาเฉพาะคำให้การจำเลยบางตอนมาวินิจฉัยไม่ชอบ
การพิจารณาคำให้การจำเลยว่า จำเลยรับผิดตามฟ้องหรือไม่นั้น จะพิจารณาเฉพาะคำให้การจำเลยบางตอนมาวินิจฉัยไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บาดแผลสาหัส-ทุพพลภาพ: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความพิการถาวร
การที่วินิจฉัยว่าการประทุษฐร้ายนั้นมีผลถึงทุพพลภาพหรือพิการไปจนตลอดชีวิตหรือไม่ ย่อมแล้วแต่ลักษณะบาดแผลและอาการที่ปรากฏ และถือว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าบาดแผลไม่ถึงทุพพลภาพหรือทำให้เป็นคนพิการไปตลอดชีวิต โจทก์จะฎีกาว่าบาดแผลถึงสาหัสตาม ม.256 ข้อ 7 ดังนี้ ฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตาม ป. วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ถูกทำร้ายนิ้วชี้ชี้อยู่ตลอดชีวิตจะเป็นบาดแผลถึงสาหัสหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาว่าทำให้ทุพพลภาพหรือพิการไปตลอดชีวิตหรือไม่ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง
เมื่อศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าบาดแผลไม่ถึงทุพพลภาพหรือทำให้เป็นคนพิการไปตลอดชีวิต โจทก์จะฎีกาว่าบาดแผลถึงสาหัสตาม ม.256 ข้อ 7 ดังนี้ ฎีกาไม่ได้ต้องห้ามตาม ป. วิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218
ถูกทำร้ายนิ้วชี้ชี้อยู่ตลอดชีวิตจะเป็นบาดแผลถึงสาหัสหรือไม่นั้นจะต้องพิจารณาว่าทำให้ทุพพลภาพหรือพิการไปตลอดชีวิตหรือไม่ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาเฉพาะข้อกฎหมาย โดยไม่โต้แย้งข้อเท็จจริง ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย
ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์ในข้อเท็จจริงและในข้อกฎหมายต่างหากจากกัน เมื่อโจทก์ฎีกาฉะเพาะข้อกฎหมายอย่างเดียว ก็ย่อมไม่มีทางชนะคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 254/2488
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพยายามกระทำผิดฐานนำบุหรี่ขึ้นรถไฟ: สถานที่จอดรถไฟเป็นปัจจัยสำคัญในการวินิจฉัย
นำบุหรี่ขึ้นรถไฟที่สถานีจังหวัดพัทลุงเพื่อไปสถานีหาดใหญ่ยังไม่เป็นผิดฐานพยายามเพราะไม่ปรากฏว่ามีสถานีกลางทางหรือไม่ และรถจะจอดหรือไม่
ในเรื่องนำบุหรี่ออกนอกเขตจะมีผิดฐานพยายามหรือไม่ศาลฎีกายังไม่วินิจฉัย
สถานีรถไฟจะมีที่ใดบ้างและรถจะจอดหรือไม่ ศาลจะรับรู้เองไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2488
ในเรื่องนำบุหรี่ออกนอกเขตจะมีผิดฐานพยายามหรือไม่ศาลฎีกายังไม่วินิจฉัย
สถานีรถไฟจะมีที่ใดบ้างและรถจะจอดหรือไม่ ศาลจะรับรู้เองไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบกันกระทำผิดและให้สินบน: การวินิจฉัยข้อเท็จจริงและขอบเขตการฟ้อง
ฟ้องโจทกล่าวว่า "จำเลยสมคบกันกะทำผิดกดหมาย คือจำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 5 ซึ่งได้ถูกจำเลยไนคดีดำที่ 115/2486 ของสาลมนทลทหารบก (กะบี่) จับตัวหาว่าเล่นการพนันโปปั่น และจำเลยที่ 6 ได้ขอไห้สินบนรวมทั้งสิ้น เปนเงิน 94 บาท ฯลฯ" ดังนี้เปนฟ้องที่หาว่าจำเลยสมคบกันกะทำผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบพยาน: ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำสืบก่อน แต่คำพิพากษาระบุเป็นหน้าที่จำเลย การวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ถูกต้องแล้ว
สาลชั้นต้นไห้โจทนำสืบก่อนแต่เวลาพิพากสากล่าวว่าเปนหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน สาลอุธรน์พิพากสาโดยถือว่าโจทต้องนำสืบก่อนดังนี้ การที่จำเลยคัดค้านว่าสาลชั้นต้นชี้ขาดว่าจำเลยต้องนำสืบก่อนไม่ถูกนั้น ย่อมไม่บังเกิดผลแก่คดีแต่หย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 436/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การนำสืบพยานและการวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ตามข้อตกลงของคู่ความ
สาลเดิมถือว่าเปนหน้าที่โจทนำสืบก่อนแล้วไห้จำเลยชนะคดีสาลอุธรน์เห็นว่าเปนหน้าที่โจทสืบก่อนถือเอาตามที่จำเลยยอมรับเปนผู้นำสืบก่อน แต่คงไห้จำเลยชนะคดีดังนี้ แม้โจทจะดีกาว่าเปนหน้าที่จำเลยนำสืบ ก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลง ดีกาย่อมตกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 99/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการวินิจฉัยศาลฎีกา: การฟังข้อเท็จจริงตามศาลอุทธรณ์
ปัญหาว่าจำเลยได้แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานโดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จหรือไม่ ซึ่งจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานนั้น ไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการวินิจฉัยตามพยานฝ่ายเดียว
เมื่อสืบพยานโจทหมดแล้วถึงวันนัดสืบพยานจำเลยคู่ความไม่มาสาลทั้งสองฝ่าย สาลจะสั่งจำหน่ายคดีหาได้ไม่ ต้องถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารนาแล้ววินิจฉัยชี้ขาดไปตามหลักถานพยานโจทฝ่ายเดียว