พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสภาพหนี้และการสะดุดหยุดอายุความจากการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
จำเลยรับฝากสินค้าราคาสองหมื่นบาทเศษของโจทก์ไว้ แล้วสินค้านั้นสูญหายไป จำเลยจึงมีหนังสือยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 5,000 บาท โจทก์ปฏิเสธ ต่อมาได้มีการเจรจากันอีก จำเลยมีหนังสือยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ครึ่งหนึ่งของราคาสินค้า แต่โจทก์ก็ไม่ตกลง ดังนี้ เห็นได้ว่า เอกสารทั้ง 2 ฉบับ ที่จำเลยยอมชดใช้ค่าสินค้าที่หายรายนี้ให้โจทก์นั้น เป็นการับแล้วว่าหนี้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปมีอยู่จริง เรียกได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ชดใช้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้เป็นการฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน
จำเลยรับฝากสินค้าราคาสองหมื่นบาทเศษของโจทก์ไว้แล้วสินค้านั้นสูญหายไป จำเลยจึงมีหนังสือยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ 5,000 บาท โจทก์ปฏิเสธ ต่อมาได้มีการเจรจากันอีก จำเลยมีหนังสือยอมใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ครึ่งหนึ่งของราคาสินค้า แต่โจทก์ก็ไม่ตกลง ดังนี้ เห็นได้ว่าเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ที่จำเลยยอมชดใช้ค่าสินค้าที่หายรายนี้ให้โจทก์นั้นเป็นการยอมรับแล้วว่าหนี้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปมีอยู่จริงเรียกได้ว่าจำเลยยอมรับสภาพหนี้ชดใช้ค่าสินค้าของโจทก์ที่หายไปแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการทวงหนี้โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย
การซื้อของเชื่อเป็นคราว ๆ ตามวันที่ผู้ขายส่งมอบของนั้น เมื่อผู้ซื้อผ่อนชำระเงินผู้ขายก็เลือกคืนบิลค่าของให้ทุกครั้งโดยกะจำนวนเงินที่ชำระแต่ละครั้งให้พอประมาณกับราคาของในบิล โดยผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่เคยตกลงให้รวมยอดบัญชีหนี้สินอย่างบัญชีเดินสะพัดหรือให้รวมเป็นหนี้ก้อนเดียวกันอย่างไรไม่ ดังนี้ มิใช่เป็นการรัรบสภาพหนี้ด้วยการใช้เงินให้บางส่วน หนี้รายใดเกิน 2 ปี เป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1)
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 21483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระ ถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 21483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระ ถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการครอบครองทรัพย์สินที่ถูกยึด - การขัดทรัพย์ - ไม่เป็นฟ้องซ้ำ - อายุความมรดก
เมื่อเจ้าหนี้มายึดนาที่อยู่ในการครอบครองของผู้ร้อง ถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิในการที่ผู้ร้องจะครอบครองที่นาพิพาทต่อไปแล้ว การร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ถูกยึด ประเด็นมีอยู่ว่า ลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นหรือไม่ ถ้ามิใช่ศาลก็ต้องสั่งปล่อย เหตุนี้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ปล่อยพิพาทได้
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกัน การร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกัน การร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์โดยอายุความ - คำสั่งเจ้าพนักงาน - ฟ้องไม่เคลือบคลุม
ฟ้องหาว่าจำเลยขัดคำสั่งเจ้าพนักงานที่สั่งให้จำเลยออกไปจากที่สาธารณประโยชน์ ได้บรรยายว่าที่สาธารณประโยชน์นั้นอยู่ตำบล อำเภอใด และวันเดือนปีที่จำเลยได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงาน อันเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับวันเวลา และสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิด อีกทั้งได้กล่าวถึงบุคคลและสิ่งที่เกี่ยวข้องพอสมควร เท่าที่จำเลยพอเข้าใจข้อหาได้แล้ว ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบในเชิงคดีและหลงข้อต่อสู้ จึงไม่เคลือบคลุม (จำเลยอ้างว่า ฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยบุกรุกเมื่อใด ที่ที่บุกรุกอยู่ตรงไหน เนื้อที่เท่าใด ได้ขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์เมื่อใด ประกาศให้ประชาชนทราบเมื่อใด ไม่ได้ประกาศในราชกิจจาฯ หรือออกเป็นพระราชกฤษฎีกา โจทก์ไม่เสนอประกาศมาพร้อมฟ้อง)
ที่สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) ทั้งเป็นมาไม่น้อยกว่า 50 ปี มีมาก่อนประกาศบังคับให้พระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าฯ พ.ศ. 2478 ไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามหรือสงวนแต่ประการใด ทางราชการจะประกาศขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า ปลัดกิ่งอำเภอฯ ได้สั่งให้จำเลยรื้อถอนและออกจากที่สาธารณประโยชน์ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดย่อมเห็นได้ว่ามุ่งหมายเอาการสั่งของปลัดอำเภอเป็นสำคัญ ส่วนที่กล่าวถึงคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยนั้น เป็นแต่เพียงขยายความ จะถือว่าเมื่อปลัดอำเภอไม่ได้สั่งเองโดยลำพังแล้ว เท่ากับมิได้เป็นผู้สั่งหาได้ไม่
ที่สำหรับราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) ทั้งเป็นมาไม่น้อยกว่า 50 ปี มีมาก่อนประกาศบังคับให้พระราชบัญญัติว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าฯ พ.ศ. 2478 ไม่ต้องออกพระราชกฤษฎีกาหวงห้ามหรือสงวนแต่ประการใด ทางราชการจะประกาศขึ้นทะเบียนเป็นที่สาธารณประโยชน์หรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า ปลัดกิ่งอำเภอฯ ได้สั่งให้จำเลยรื้อถอนและออกจากที่สาธารณประโยชน์ตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดย่อมเห็นได้ว่ามุ่งหมายเอาการสั่งของปลัดอำเภอเป็นสำคัญ ส่วนที่กล่าวถึงคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยนั้น เป็นแต่เพียงขยายความ จะถือว่าเมื่อปลัดอำเภอไม่ได้สั่งเองโดยลำพังแล้ว เท่ากับมิได้เป็นผู้สั่งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 28/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดทรัพย์ยึด: สิทธิครอบครอง vs. เจ้าของทรัพย์, ฟ้องซ้ำ, อายุความมรดก
เมื่อเจ้าหนี้นำยึดนาที่อยู่ในการครอบครองของผู้ร้องถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิในการที่ผู้ร้องจะครอบครองที่นาพิพาทต่อไปแล้ว การร้องขอให้ปล่อยทรัพย์สินที่ถูกยึด ประเด็นมีอยู่ว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นหรือไม่ ถ้ามิใช่ ศาลก็ต้องสั่งปล่อย เหตุนี้ ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอให้ปล่อยนาพิพาทได้
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกันการร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองที่นาที่ถูกยึดโดยเจ้าของเดิมนำมาประกันเงินกู้ ขอให้สั่งปล่อยที่นานั้น แม้เจ้าของเดิมตายมากว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องก็ยังฟ้องร้องอ้างได้ จะนำอายุความมรดกมาบังคับไม่ได้
คดีก่อน ผู้ร้องฟ้องขอให้ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับที่นาพิพาท แต่คดีนี้ผู้ร้องอ้างว่าที่นาพิพาทมิใช่ทรัพย์ของจำเลย ขอให้ศาลปล่อยนาพิพาทซึ่งถูกยึด ประเด็นและคู่ความต่างกันการร้องขัดทรัพย์คดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้ซื้อเชื่อ: การซื้อเพื่อการก่อสร้างไม่ใช่การทำเพื่ออุตสาหกรรม
บริษัทผู้รับเหมาทำการก่อสร้างซื้อเชื่อสิ่งของไปใช้ในการก่อสร้างในที่ทั่ว ๆ ไป สุดแต่บริษัทจะรับเหมาทำการก่อสร้างได้ นั้นมิใช่เป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทผู้เป็นลูกหนี้ เพราะบริษัทนั้นหาได้ซื้อมาเพื่อประดิษฐ์ผลิตออกจำหน่ายขายไปไม่ แต่เป็นการจัดหาสัมภาระมาใช้ทำการงานเพื่อได้สินจ้างในผลสำเร็จแห่งการที่รับเหมาก่อสร้างนั้น อายุความเรียกร้องจึงมีกำหนดเพียง 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 272/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้ซื้อเชื่อ: การซื้อวัสดุก่อสร้างของผู้รับเหมาไม่ใช่การกระทำเพื่ออุตสาหกรรม
บริษัทผู้รับเหมาทำการก่อสร้างซื้อเชื่อสิ่งของไปใช้ในการก่อสร้างในที่ทั่วๆ ไปสุดแต่บริษัทจะรับเหมาทำการก่อสร้างได้ นั้น มิใช่เป็นการที่ได้ทำเพื่ออุตสาหกรรมของบริษัทผู้เป็นลูกหนี้ เพราะบริษัทนั้นหาได้ซื้อมาเพื่อประดิษฐ์ผลิตออกจำหน่ายขายไปไม่ แต่เป็นการจัดหาสัมภาระมาใช้ทำการงานเพื่อได้สินจ้างในผลสำเร็จแห่งการที่รับเหมาก่อสร้างนั้น อายุความเรียกร้องจึงมีกำหนดเพียง 2 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้บังคับบัญชาต่อการละเมิดของลูกน้อง และอายุความคดีละเมิด
เมื่อโจทก์คือกรมไปรษณีย์โทรเลขยังมีหน้าที่เก็บค่าเช่าโทรศัพท์แทนองค์การโทรศัพท์ซึ่งเป็นนิติบุคคลอยู่ หากเงินถูกยักยอกไปโดยเจ้าหน้าที่ของโจทก์ทำละเมิด โจทก์ก็ต้องรับผิดใช้เงินให้แก่องค์การโทรศัพท์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย โดยไม่คำนึงถึงว่า โจทก์จะได้ใช้เงินนั้นให้แก่องค์การโทรศัพท์แล้วหรือยัง
โจทก์แจ้งบความเรื่องยักยอก เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2499 อันถือว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดแล้ว แต่โจทก์เพิ่งรู้ว่าจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนเมื่อ 19 เมษายน 2499 แล้วโจทก์ฟ้องคดีเรื่องละเมิดเมื่อ 9 เมษายน 2500 ยังไม่เกิน 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
การปฏิบัติที่ผิดระเบียบของทางราชการวางไว้ แม้จะปฏิบัติกันมานานเท่าใดก็ไม่ทำให้เป็นการปฏิบัติที่ชอบขึ้นมาได้ การปล่อยปละละเลยให้มีการปฏิบัติผิดระเบียบเช่นนี้ ถือว่าเป็นการประมาทเลินเล่อ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ
ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง หากปรากฏว่าโจทก์ได้รับชดใช้จากผู้ร่วมละเมิดคนอื่นไปบ้างแล้ว จำเลยก็ย่อมจะคิดหักกับโจทก์ได้ในชั้นบังคบคดี
โจทก์แจ้งบความเรื่องยักยอก เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2499 อันถือว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดแล้ว แต่โจทก์เพิ่งรู้ว่าจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนเมื่อ 19 เมษายน 2499 แล้วโจทก์ฟ้องคดีเรื่องละเมิดเมื่อ 9 เมษายน 2500 ยังไม่เกิน 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
การปฏิบัติที่ผิดระเบียบของทางราชการวางไว้ แม้จะปฏิบัติกันมานานเท่าใดก็ไม่ทำให้เป็นการปฏิบัติที่ชอบขึ้นมาได้ การปล่อยปละละเลยให้มีการปฏิบัติผิดระเบียบเช่นนี้ ถือว่าเป็นการประมาทเลินเล่อ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ
ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง หากปรากฏว่าโจทก์ได้รับชดใช้จากผู้ร่วมละเมิดคนอื่นไปบ้างแล้ว จำเลยก็ย่อมจะคิดหักกับโจทก์ได้ในชั้นบังคบคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้บังคับบัญชาต่อการละเมิดของลูกน้อง และอายุความคดีละเมิด
เมื่อโจทก์คือกรมไปรษณีย์โทรเลข ยังมีหน้าที่เก็บค่าเช่าโทรศัพท์แทนองค์การโทรศัพท์ซึ่งเป็นนิติบุคคลอยู่ หากเงินถูกยักยอกไปโดยเจ้าหน้าที่ของโจทก์ทำละเมิด โจทก์ก็ต้องรับผิดใช้เงินให้แก่องค์การโทรศัพท์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลย โดยไม่คำนึงถึงว่า โจทก์จะได้ใช้เงินนั้นให้แก่องค์การโทรศัพท์แล้วหรือยัง
โจทก์แจ้งความเรื่องยักยอก เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2499 อันถือว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดแล้ว แต่โจทก์เพิ่งรู้ว่าจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนเมื่อ 19 เมษายน 2499 แล้วโจทก์ฟ้องคดีเรื่องละเมิดเมื่อ 9 เมษายน 2500 ยังไม่เกิน 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
การปฏิบัติที่ผิดระเบียบของทางราชการวางไว้ แม้จะปฏิบัติกันมานานเท่าใดก็ไม่ทำให้เป็นการปฏิบัติที่ชอบขึ้นมาได้ การปล่อยปละละเลยให้มีการปฏิบัติผิดระเบียบเช่นนี้ถือว่าเป็นการประมาทเลินเล่อ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ
ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง หากปรากฏว่าโจทก์ได้รับชดใช้จากผู้ร่วมละเมิดคนอื่นไปบ้างแล้ว จำเลยก็ย่อมจะคิดหักกับโจทก์ได้ในชั้นบังคับคดี
โจทก์แจ้งความเรื่องยักยอก เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2499 อันถือว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดแล้ว แต่โจทก์เพิ่งรู้ว่าจำเลยต้องรับผิดใช้ค่าทดแทนเมื่อ 19 เมษายน 2499 แล้วโจทก์ฟ้องคดีเรื่องละเมิดเมื่อ 9 เมษายน 2500 ยังไม่เกิน 1 ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
การปฏิบัติที่ผิดระเบียบของทางราชการวางไว้ แม้จะปฏิบัติกันมานานเท่าใดก็ไม่ทำให้เป็นการปฏิบัติที่ชอบขึ้นมาได้ การปล่อยปละละเลยให้มีการปฏิบัติผิดระเบียบเช่นนี้ถือว่าเป็นการประมาทเลินเล่อ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ
ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานละเมิดให้โจทก์เป็นเงินจำนวนหนึ่ง หากปรากฏว่าโจทก์ได้รับชดใช้จากผู้ร่วมละเมิดคนอื่นไปบ้างแล้ว จำเลยก็ย่อมจะคิดหักกับโจทก์ได้ในชั้นบังคับคดี