คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อายุความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมือเปล่า การได้สิทธิครอบครอง และผลกระทบต่ออายุความคดีมรดก
การซื้อขายที่ดินมือเปล่า เมื่อผู้ขายได้สละสิทธิครอบครองโดยมอบที่ดินให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองแล้ว ผู้ซื้อก็ได้สิทธิครอบครองทันที
เมื่อผู้ซื้อได้สิทธิครอบครองในที่มือเปล่าแล้ว ข้อที่ผู้ซื้อเรียกให้ทายาทผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายเมื่อเกินกำหนด 1 ปี นับแต่วันผู้ขายตาย คดีขาดอายุความแล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายที่ดินมือเปล่าและสิทธิครอบครอง แม้คดีขาดอายุความแล้ว สิทธิครอบครองยังคงอยู่
การซื้อขายที่ดินมือเปล่า เมื่อผู้ขายได้สละสิทธิครอบครองโดยมอบที่ดินให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองแล้ว ผู้ซื้อก็ได้สิทธิครอบครองทันที
เมื่อผู้ซื้อได้สิทธิครอบครองในที่มือเปล่าแล้ว ข้อที่ผู้ซื้อเรียกให้ทายาทผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายเมื่อเกินกำหนด 1 ปี นับแต่วันผู้ขายตาย คดีขาดอายุความแล้วก็ตาม ก็ไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1853/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแบ่งทรัพย์สินหลังเลิกคบ: ที่ดินมือเปล่า, การครอบครอง, การปฏิเสธแบ่ง
สามีภรรยาอยู่กินกันมาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสระหว่างอยู่กินด้วยกันได้เอาเงินที่ทำมาหาได้ด้วยกันซื้อที่ดินมือเปล่าไว้ทำกินร่วมกัน ต่อมาเลิกเป็นสามีภรรยากัน ภรรยาขอให้แบ่งที่ดินนี้ให้ครึ่งหนึ่ง สามีไม่ยอมแบ่งให้ และสามีเป็นฝ่ายครอบครองทำกินแต่ฝ่ายเดียวหลังจากเลิกเป็นสามีภรรยากัน ดังนี้ เมื่อภรรยาจะฟ้องขอแบ่งเอาที่ดินนั้น ก็ต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่ทราบการที่สามีปฏิเสธไม่ยองแบ่งให้ เพราะการที่สามีปฏิเสธไม่ยอมแบ่งให้นั้น ย่อมเห็นได้ว่า สามีไม่ได้ปกครองที่ดินแทนภรรยาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญา Trust Receipt: อายุความฟ้องเรียกเงินค่าขายสินค้า 10 ปี มิใช่เงินทดรอง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามข้อตกลงในสัญญาใบรับสินค้าเชื่อ (Trust receipt) ซึ่งโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยไปจัดการขายสินค้าและนำเงินมาชำระให้โจทก์ตามที่กำหนดกันไว้ สัญญาเช่นนี้เป็นการเรียกเงินค่าขายของ มิใช่เป็นการเรียกเงินที่โจทก์ออกทดรองไป อายุความฟ้องร้องจึงมีกำหนด 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องเรียกเงินจากสัญญา TRUST RECEIPT: พิจารณาจากการเรียกค่าขายสินค้า ไม่ใช่เงินทดรอง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามข้อตกลงในสัญญาใบรับสินค้าเชื่อ(TRUSTRECEIPT) ซึ่งโจทก์มอบอำนาจให้จำเลยไปจัดการขายสินค้า และนำเงินมาชำระให้โจทก์ตามที่กำหนดกันไว้ กรณีเช่นนี้ เป็นการเรียกเงินค่าขายของ ไม่ใช่เรียกเอาค่าที่ได้ออกเงินทดรองไป ตามมาตรา 165(1) อายุความฟ้องร้องจึงมีกำหนด 10 ปี ตามมาตรา 164

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันที่ระบุการรับผิดแม้ลูกหนี้เสียชีวิตเกิน 1 ปี ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย และไม่เป็นการขยายอายุความ
ข้อความซึ่งระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันว่า แม้ลูกหนี้ตายเกิน 1 ปีผู้ค้ำประกันก็คงยอมรับใช้แทน นั้น ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่เป็นการขยายอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันข้ามอายุความ: ความผูกพันของผู้ค้ำประกันเมื่อหนี้ขาดอายุความแล้วไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ข้อความซึ่งระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันว่าแม้ลูกหนี้ตายเกิน 1 ปีผู้ค้ำประกันก็คงยอมรับใช้แทน นั้น ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่เป็นการขยายอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง และฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดิน โดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน กับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1691-1697/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดต่อเนื่อง ฟ้องไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจเข้าครอบครองที่ดินของรัฐในทุ่งเขาหน้าวัวซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ โดยเข้าไปแผ้วถางปลูกพืชผลแล้วครอบครองที่ดินโดยไม่มีสิทธิครอบครองและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานกับทั้งระบุถึงวันเดือนปีและที่เกิดเหตุอันเป็นการระบุครบองค์ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และ 108 นั้น เมื่อจำเลยรับว่าจำเลยเข้าครอบครองที่ดินรกร้างว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่าเป็นที่ดินซึ่งทางราชการสงวนไว้สำหรับให้ราษฎรใช้เลี้ยงสัตว์ ก็ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้ เพราะความตอนนี้เป็นเพียงรายละเอียด ไม่ใช่ส่วนขององค์ความผิด
เมื่อกฎหมายห้ามเข้าครอบครองที่ดินโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ถ้าผู้ใดครอบครองที่ดินอยู่ก็ย่อมเป็นการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย และเป็นความผิดอยู่ทุกขณะที่ทำการครอบครอง คดีจึงไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1674/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีเพื่อต่อสู้สิทธิจากการอ้างหนี้ปลอม ไม่เข้าข่ายการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 240 และไม่ขาดอายุความ
ในคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยว่าสมคบกันทำสัญญากู้ปลอมขึ้นฟ้องร้องโดยมิได้เป็นหนี้ต่อกัน เพื่ออาศัยสิทธิตามคำพิพากษามาขอเฉลี่ยในคดีที่โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษานั้น โจทก์ย่อมฟ้องได้และมิใช่เป็นเรื่องฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 240
of 577