พบผลลัพธ์ทั้งหมด 635 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1886/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์คดีขับไล่: กรณีบริวารของผู้เช่าอ้างประเด็นใหม่ ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง หากมีกรณีพิพาทในชั้นบังคับคดีแก่บริวารของผู้เช่า โดยผู้ที่ถูกอ้างว่าเป็นบริวารตั้งประเด็นพิพาทโต้แย้งขึ้นมาใหม่ ไม่เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเดิม ทั้งตามรูปเรื่องไม่เป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้ว ย่อมอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์ต่ำกว่าเกณฑ์ฎีกา: โจทก์เสียเปรียบแม้ฟ้องขับไล่แต่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาท เมื่อจำเลยต่อสู้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ก็ต้องถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ และเมื่อที่พิพาทมีราคาเพียง 1,500 บาท แม้โจทก์จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ตลอดมา ถ้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้อง โจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีขับไล่ต้องพิสูจน์กรรมสิทธิ์ ผู้แพ้ต้องรับผิดชอบค่าขึ้นศาล
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากที่พิพาท เมื่อจำเลยต่อสู้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ ก็ต้องถือว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์ และเมื่อที่พิพาทมีราคาเพียง 1,500 บาท แม้โจทก์จะเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ตลอดมาถ้าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้อง โจทก์ก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยอาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่บ้านของโจทก์ และบุกรุกที่นาของโจทก์ด้วย ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ความตามฟ้อง เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยอาศัยและบุกรุกที่ของโจทก์ ก็เป็นเรื่องโจทก์สืบไม่สมฟ้อง ต้องแพ้คดี แม้จำเลยจะให้การว่าได้ที่รายพิพาทมาโดยทางมรดกแล้วกลับนำสืบว่าได้มาโดยบิดามารดายกให้ ก็ไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลง
โจทก์ฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยอาศัยปลูกเรือนอยู่ในที่บ้านของโจทก์ และบุกรุกที่นาของโจทก์ด้วย ย่อมเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ความตามฟ้อง เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยอาศัยและบุกรุกที่ของโจทก์ ก็เป็นเรื่องโจทก์สืบไม่สมฟ้อง ต้องแพ้คดี แม้จำเลยจะให้การว่าได้ที่รายพิพาทมาโดยทางมรดกแล้วกลับนำสืบว่าได้มาโดยบิดามารดายกให้ ก็ไม่ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1097/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องขับไล่เมื่อจำเลยเช่าห้องรวมกันและผิดสัญญาเช่าช่วง การคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องแถวเลขที่ 78 และ 78/1 ของโจทก์ ต่อมาจำเลยเอาห้องเลขที่ 78 ให้ผู้อื่นเช่าช่วง จำเลยกับครอบครัวย้ายมาอยู่ในห้อง 78/1 โจทก็ได้บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าห้องดังกล่าวแล้วทั้งสองห้อง ขอให้จับไล่จำเลยออกจากห้องทั้งสอง ดังนี้ เมื่อได้บรรยายถึงว่า โจทก์ได้บอกกล่าวเลิกสัญญากับจำเลยแล้วทั้งสองห้อง คำขอท้ายฟ้องจึงมิใช่คำขอเกินคำฟ้อง และเมื่อจำเลยเช่าห้องพิพาททั้งสองห้องรวมกันไป มิใช่แยกเช่าแต่ละห้อง แล้วจะอ้างว่าเฉพาะห้องเลขที่ 78/1 จำเลยอยู่อาศัยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่และบังคับคดีให้จำเลยออกจากห้องเลขที่ 78/1 นั้น หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 386/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายทรัพย์สินและสัญญาเช่า: ผลกระทบต่อสิทธิผู้เช่าเดิม
เดิมที่ดินและตึกพิพาทเป็นของโจทก์ ให้ผู้ร้องเช่าอยู่อาศัยอันได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯมาก่อนแล้วต่อมาโจทก์โอนขายตึกให้จำเลยโดยไม่ขายที่ดินจำเลยรับซื้อตึกแล้วขอเช่าที่ดินเพียง 1 ปี พอซื้อแล้วจำเลยก็ผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าที่ดินให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องและศาลพิพากษาขับไล่จำเลย ดังนี้ เป็นอุบายที่จะขับไล่ผู้ร้อง จะเอาผลคำพิพากษานั้นมาบังคับขับไล่ผู้ร้องด้วยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1349/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับตามคำพิพากษาขับไล่และการพิจารณาข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการครอบครองที่ดิน จำเลยต้องปฏิบัติตามคำบังคับ
คดีฟ้องขับไล่ที่โจทก์ร้องขอให้ศาลสั่งจำเลยปฏิบัติตามคำบังคับโดยอ้างว่าจำเลยผู้แพ้คดียังคงอยู่ที่บ้าน และปลูกบ้านใหม่ในที่พิพาทนั้น เมื่อจำเลยโต้แย้งศาลชอบที่จะพิจารณาและตัดสินตามกระบวนพิจารณา
เอกสารและถ้อยคำที่มิใช่พยานหลักฐานตามกฎหมาย และจำเลยมิได้รับรอง นั้น ย่อมฟังเป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
เอกสารและถ้อยคำที่มิใช่พยานหลักฐานตามกฎหมาย และจำเลยมิได้รับรอง นั้น ย่อมฟังเป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 916/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะพื้นที่เช่า ผู้เช่าเดิมมีสิทธิเหนือพื้นที่ปลูกสร้างก่อนสัญญาเช่า
ในกรณีที่จำเลยผู้เช่าได้ปลูกโรงของจำเลยไว้ในที่พิพาทก่อนที่โจทก์ได้มาทำสัญญาเช่าที่พิพาทต่อเจ้าของที่พิพาทนั้น โจทก์จะอาศัยสิทธิสัญญาเช่านั้นมาฟ้องขับไล่จำเลยเพื่อโจทก์จะได้เข้าครอบครองที่พิพาทนั้นหาได้ไม่ โจทก์เป็นเพียงผู้มีสิทธิเช่า ยังไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาทที่เช่ามานั้นเลย ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากผู้บุกรุกที่ดิน กรณีที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญและเคยมีคดีความก่อนหน้านี้
โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่า จากการขายทอดตลาดของศาลเมื่อ พ.ศ. 2492 โดยโจทก์มิได้เข้าครอบครองเลย โจทก์เคยถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอน การขายทอดตลาดที่พิพาทดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2497 ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย. 2499 โจทก์มาฟ้องว่า ระหว่าง พ.ศ. 2492 ถึง 2499 จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าทำนาในที่พิพาท ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้เรื่องอายุความ เช่นนี้ถือว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์ไม่ฟ้องคดีเสียภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อน และศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อน และศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 479/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายไม่ตัดสิทธิเช่าเดิม โจทก์ฟ้องขับไล่ไม่ได้
การที่จำเลยทำสัญญาจะซื้อที่พิพาทซึ่งจำเลยเช่าอยู่นั้น ไม่ได้แสดงหรือสันนิษฐานว่าจำเลยได้ตกลงเลิกการเช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1063/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่และการไม่เคลือบคลุมของฟ้อง กรณีสัญญาเช่าเดิมสิ้นสุดและโจทก์เข้ามาจัดการเอง
โจทก์ฟ้องว่า ห้องพิพาทเป็นของโจทก์ ก่อนนี้โจทก์มอบให้สำนักงานพระคลังข้างที่เป็นผู้จัดการให้เช่า จำเลยทำสัญญาเช่าห้องพิพาทจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ภายหลังโจทก์ถอนคืนการจัดการห้องพิพาทมาจัดการเอง จำเลยยังคงเช่าห้องพิพาทอยู่ต่อมา โดยมิได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่ โดยจำเลยมิได้สืบแก้ประกอบทั้งตัวจำเลยเองก็เบิกความรับว่า เมื่อประมาณหนึ่งปีเศษมานี้ คนของโจทก์มาเก็บค่าเช่าห้องพิพาทจากจำเลย จำเลยก็ให้ไปตลอดมา ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทจากโจทก์เมื่อใด มีกำหนดเท่าใด สัญญาสิ้นอายุวันเดือนปีใด แต่โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลยมาพร้อมกับฟ้องซึ่งมีข้อความครบถ้วนแล้ว ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าจำเลยเช่าห้องพิพาทจากโจทก์เมื่อใด มีกำหนดเท่าใด สัญญาสิ้นอายุวันเดือนปีใด แต่โจทก์ได้ส่งสำเนาหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าไปยังจำเลยมาพร้อมกับฟ้องซึ่งมีข้อความครบถ้วนแล้ว ถือว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุม