พบผลลัพธ์ทั้งหมด 632 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดเป็นคนละกรรมกัน แม้กฎหมายบัญญัติรวมกัน ศาลต้องลงโทษทุกกรรม
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนฯ ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 1 ห่อและ 3 หลอด และจำเลยบังอาจจำหน่าย ขายเฮโรอีนจำนวน 3 หลอด ดังกล่าวให้แก่ผู้อื่นโดยวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 1 ห่อ และ 3 หลอดซึ่งจำเลยจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่าย ทั้งในชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้องเช่นนี้ เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน คือ มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานจำหน่ายเฮโรอีนอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีและจำหน่ายยาเสพติดเป็นคนละกรรมกัน ต้องลงโทษทุกกรรม
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนฯไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายจำนวน 1 ห่อและ 3 หลอด และจำเลยบังอาจจำหน่าย ขายเฮโรอีนจำนวน 3 หลอดดังกล่าวให้แก่ผู้อื่นโดยในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์จำนวน 1 ห่อและ 3 หลอดซึ่งจำเลยจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายทั้งในชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การรับสารภาพตามฟ้องเช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน คือ มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายกระทงหนึ่ง และฐานฐานจำหน่ายเฮโรอีนอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดต่างกรรมกัน ศาลต้องลงโทษทุกกระทง
มียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอินไฮโดรคลอไรด์ไว้ในความครอบครองจำนวนหนึ่ง และจำหน่ายเฮโรอีนนั้นบางส่วนไป เป็นการกระทำความผิดสองกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกระทง
มียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ไว้ในความครอบครองจำนวนหนึ่ง และจำหน่ายเฮโรอีนนั้นบางส่วนไป เป็นการกระทำความผิดสองกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด: การเรียงกระทงความผิด แม้ไม่มีการอ้างมาตรา 91
มีเฮโรอีนเพื่อจำหน่าย 28 หลอด แล้วได้ขายไป 1 หลอด เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 20 ทวิ 2 กระทง แม้โจทก์ไม่อ้าง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ศาลก็เรียงกระทงลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสินเดิมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากภรรยา และผลกระทบต่อการแบ่งมรดก
การที่สามีจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์สินเดิมของตนอันเป็นสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยาตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ มาตรา 1462 ด้วยการยกให้โดยเสน่หานั้น จะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากภรรยาตามมาตรา 1473 และ 1476 ประกอบด้วย 525 และ 456
คดีมีประเด็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายได้ยินยอมให้ผู้ตายยกอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ตายให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หาหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือ ทั้งคดีไม่มีประเด็นว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางสมาคมหรือเป็นการจำหน่ายเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวหรือไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องชักสินสมรสไปใช้สินเดิมดังกล่าวของผู้ตายก่อน
การแบ่งทรัพย์สินระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1625(1)จะไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 1476 มาใช้ด้วย แต่มาตรา 1476 เป็นบทบังคับในเรื่องแบบของความยินยอม อันจะนำไปสู่บทบัญญัติเรื่องจะนำสินสมรสใช้คืนสินเดิมของคู่สมรสที่หย่าขาดจากกันได้หรือไม่เพียงใด ศาลย่อมยกขึ้นปรับกับคดีได้ หาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 1625(1) ไม่
คดีมีประเด็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ตายได้ยินยอมให้ผู้ตายยกอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ตายให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หาหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือ ทั้งคดีไม่มีประเด็นว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางสมาคมหรือเป็นการจำหน่ายเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวหรือไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องชักสินสมรสไปใช้สินเดิมดังกล่าวของผู้ตายก่อน
การแบ่งทรัพย์สินระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1625(1)จะไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 1476 มาใช้ด้วย แต่มาตรา 1476 เป็นบทบังคับในเรื่องแบบของความยินยอม อันจะนำไปสู่บทบัญญัติเรื่องจะนำสินสมรสใช้คืนสินเดิมของคู่สมรสที่หย่าขาดจากกันได้หรือไม่เพียงใด ศาลย่อมยกขึ้นปรับกับคดีได้ หาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติ มาตรา 1625(1) ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1266/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายสินเดิมของสามีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากภริยาและผลกระทบต่อการแบ่งสินสมรส
สามีจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์สินเดิมของตนอันเป็นสินบริคณห์ระหว่างสามีภรรยาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1462 ด้วยการยกให้โดยเสน่หา ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากภริยาตามมาตรา 1473 และ 1476 ประกอบด้วยมาตรา 525 และ 456
คดีมีประเด็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาของผู้ตายได้ยินยอมให้ผู้ตายยกอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ตายให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หาหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือทั้งคดีไม่มีประเด็นว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางสมาคม หรือเป็นการจำหน่ายเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวหรือไม่ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้ความยินยอม และพิพากษาให้แบ่งสินสมรสระหว่างผู้ตายและจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องชักสินสมรสไปใช้สินเดิมดังกล่าวของผู้ตายก่อน
การแบ่งสินสมรสระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1625(1) จะไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 1476 มาใช้ด้วยแต่มาตรา 1476 เป็นบทบังคับในเรื่องแบบของความยินยอม อันจะนำไปสู่บทบัญญัติเรื่องจะนำสินสมรสใช้คืนสินเดิมของคู่สมรสที่หย่าขาดจากกันได้หรือไม่เพียงใด ศาลย่อมยกขึ้นปรับกับคดีได้ หาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 1625(1)ไม่
คดีมีประเด็นว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาของผู้ตายได้ยินยอมให้ผู้ตายยกอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นสินเดิมของผู้ตายให้แก่ผู้อื่นโดยเสน่หาหรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือทั้งคดีไม่มีประเด็นว่าเป็นการให้ตามสมควรในทางศีลธรรมอันดีหรือในทางสมาคม หรือเป็นการจำหน่ายเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวหรือไม่ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้ความยินยอม และพิพากษาให้แบ่งสินสมรสระหว่างผู้ตายและจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องชักสินสมรสไปใช้สินเดิมดังกล่าวของผู้ตายก่อน
การแบ่งสินสมรสระหว่างผู้ตายกับคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1625(1) จะไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 1476 มาใช้ด้วยแต่มาตรา 1476 เป็นบทบังคับในเรื่องแบบของความยินยอม อันจะนำไปสู่บทบัญญัติเรื่องจะนำสินสมรสใช้คืนสินเดิมของคู่สมรสที่หย่าขาดจากกันได้หรือไม่เพียงใด ศาลย่อมยกขึ้นปรับกับคดีได้ หาเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 1625(1)ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมียาเสพติดไว้เพื่อขายกับความผิดฐานจำหน่าย เป็นคนละกรรมกัน
เจ้าพนักงานตำรวจเข้าทำการจับกุมจำเลยหลังจากจำเลยได้ทำการขายเสร็จขาดตอนไปแล้ว ค้นได้เฮโรอีนที่จำเลยยังมีเพื่อขายอยู่กับตัวอีก ดังนั้น การขายจำหน่าย หรือจ่ายแจกยาเสพติดให้โทษ กับการมียาเสพติดให้โทษไว้เพื่อขาย จำหน่ายหรือจ่ายแจก ของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีไว้เพื่อขายอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานมียาเสพติดไว้เพื่อขายกับฐานจำหน่ายยาเสพติดเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
เจ้าพนักงานตำรวจเข้าทำการจับกุมจำเลยหลังจากจำเลยได้ทำการขายเสร็จขาดตอนไปแล้ว ค้นได้เฮโรอีนที่จำเลยยังมีเพื่อขายอยู่กับตัวอีก ดังนั้น การขาย จำหน่ายหรือจ่ายแจกยาเสพติดให้โทษกับการมียาเสพติดให้โทษไว้เพื่อขายจำหน่ายหรือจ่ายแจก ของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานมีไว้เพื่อขายอีกกระทงหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีไว้เพื่อขายและจำหน่ายยาเสพติด แม้เป็นยาเสพติดชุดเดียวกัน ถือเป็นความผิดต่างกรรมกัน
ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อขายกระทงหนึ่ง และฐานขายเฮโรอีนอีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนที่ขายไปจะเป็นจำนวนเดียวกันกับที่จำเลยมีไว้เพื่อขาย ก็เป็นความผิดต่างกรรมกัน(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2519)