พบผลลัพธ์ทั้งหมด 938 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จในคดีฉ้อโกง: ความเท็จที่ไม่เป็นสาระสำคัญของคดี
จำเลยเคยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงว่า โจทก์หลอกลวงให้จำเลยเช่าซื้อที่ดินที่โจทก์ไม่อาจจัดการโอนกรรมสิทธิ์ได้เพราะติดจำนองจำเลยได้เบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยชำระค่าเช่าซื้อครบแล้วแต่โจทก์ยังไม่จัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าซื้อให้จำเลย ดังนี้ ข้อสำคัญในคดีดังกล่าวมีว่า โจทก์ได้หลอกลวงให้จำเลยหลงเชื่อจึงเช่าซื้อที่ดินโจทก์หรือไม่คำเบิกความของจำเลยที่ว่าชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว ถึงหากจะเป็นความเท็จก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2840/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉ้อโกงต้องเกิดจากการหลอกลวงก่อนได้รับทรัพย์สิน การขายฝากหลังรับเงินไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
โจทก์เช่าซื้อที่ดินจัดสรรจากจำเลย หลังจากรับเงินที่ผ่อนชำระแล้วจำเลยจึงนำที่ดินขายฝากผู้อื่นจนพ้นกำหนดไถ่คืน ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ได้ ดังนี้ จำเลยมิได้หลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแต่อย่างใดเพราะการขายฝากกระทำหลังรับเงินจากโจทก์ จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงแชร์: จำเลยหลอกขายแชร์ที่ไม่เคยมีอยู่จริง ทำให้โจทก์เสียหาย
จำเลยหัวหน้าวงแชร์หลอกลวงโจทก์ร่วมว่า ฉ. ลูกวงจะขายแชร์ซึ่งความจริง ฉ. ไม่ได้ขายแชร์ให้ผู้ใด ทำให้โจทก์ร่วมรับซื้อแชร์ดังกล่าวและจำเลยได้เงินค่าแชร์ไปจากโจทก์ร่วม ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2146/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฉ้อโกงหลายกรรมต่างกัน แม้ออกเช็คชำระราคารวม แต่การส่งมอบสินค้าแต่ละครั้งถือเป็นความผิดสำเร็จ
สิทธิฎีกาของคู่ความนั้นจะต้องพิจารณาเป็นกระทงความผิดไปศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ลงโทษจำคุกจำเลยฐานฉ้อโกงกระทงละ 2 ปีรวม 3 กระทง เป็น 6 ปี และจำคุกฐานใช้เอกสารปลอมอีกกระทงหนึ่งมีกำหนด 3 ปี รวม 9 ปี ดังนี้ จำเลยต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
การที่จำเลยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งสินค้าให้ 3 ครั้งและออกเช็คปลอมชำระราคาให้ในคราวเดียวการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จทุกครั้งที่ผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
การที่จำเลยหลอกลวงให้ผู้เสียหายส่งสินค้าให้ 3 ครั้งและออกเช็คปลอมชำระราคาให้ในคราวเดียวการกระทำของจำเลยเป็นความผิดสำเร็จทุกครั้งที่ผู้เสียหายส่งมอบสินค้าให้การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เสียหายร่วมกระทำผิดพนัน จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ฟ้องฉ้อโกงไม่ได้
จำเลยกับพวกใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่ามีพระอาจารย์ดีบอกหวยได้ เคยบอกหวยแก่พวกของจำเลยถูกสลากกินรวบได้เงินนับล้านมาแล้ว ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงไปขอให้พระอาจารย์ (ซึ่งเป็นพวกของจำเลยปลอมตัวเป็นพระมา) บอกเบอร์หวยและมอบเงินให้แก่จำเลยเพื่อนำไปซื้อสลากกินรวบตามเลขที่พระอาจารย์บอก ดังนี้ การกระทำของผู้เสียหายจึงเป็นการร่วมกับจำเลยในการนำเงินไปซื้อสลากกินรวบอันเป็นการพนันทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย ถือได้ว่าผู้เสียหายเป็นผู้ใช้ให้จำเลยกระทำความผิดอาญา จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยที่จะมีสิทธิร้องทุกข์ขอให้เจ้าพนักงานนำคดีขึ้นว่ากล่าวในความผิดฐานฉ้อโกงแก่จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3863/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานสนับสนุนการฉ้อโกงจากการชักชวนให้เสียเงินค่าสมัครงาน
ส.บิดาจำเลยกระทำผิดฐานฉ้อโกงด้วยวิธีการหลอกลวงรับสมัครคนงานไปทำงานต่างประเทศและเรียกเก็บเงินค่าสมัคร การที่จำเลยเป็นคนแนะนำชักพาผู้เสียหายให้นำเงินไปมอบให้ ส.จึงเป็นการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำผิด และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3792/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวกัน ฟ้องซ้ำไม่ได้: ศาลยกฟ้องฐานปลอมเอกสาร หลังเคยตัดสินลงโทษฐานฉ้อโกงแล้ว
ความผิดในคดีก่อนกับความผิดในคดีนี้เป็นความผิดกรรมเดียวกันแต่ผิดต่อกฎหมายหลายบทเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยในคดีก่อนเฉพาะความผิดฐานฉ้อโกงและโกงเจ้าหนี้และศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงไปแล้ว ถือได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว โจทก์จะนำความผิดเดียวกันนั้นมาฟ้องให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3585/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวเปลือก จ่ายเงินล่วงหน้า จำเลยไม่มีข้าวขาย ไม่เป็นฉ้อโกง หากเป็นเพียงการผิดสัญญา
ผู้เสียหายกับจำเลยได้ติดต่อซื้อขายข้าวเปลือกกันมาก่อนหลายปี ผู้เสียหายเคยไปเอาข้าวเปลือกจากจำเลยมาก่อนแล้วชำระเงินในภายหลัง บางครั้งผู้เสียหายก็ให้เงินจำเลยไปก่อนแล้วไปเอาข้าวเปลือกในภายหลัง วันเกิดเหตุจำเลยไปบอกขายข้าวเปลือก 10 เกวียนให้แก่ผู้เสียหาย และขอรับเงินล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งผู้เสียหายได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่จำเลยไป 20,000 บาท โดยยังไม่ได้ตกลงราคาและจำเลยไม่ได้บอกว่ามีข้าวเปลือกอยู่แล้วพฤติการณ์ระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการปฏิบัติต่อกันตามปกติในการซื้อขายข้าวเปลือก แม้ต่อมาจำเลยไม่มีข้าวเปลือกขายให้แก่ผู้เสียหายภายในกำหนดเวลาที่ตกลงกันและไม่อาจคืนเงินที่รับมาให้แก่ผู้เสียหายได้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้แก่ผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3585/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวเปลือกไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง หากเป็นการผิดสัญญาซื้อขาย ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงตั้งแต่แรก
ผู้เสียหายกับจำเลยได้ติดต่อซื้อขายข้าวเปลือกกันมาก่อนหลายปี ผู้เสียหายเคยไปเอาข้าวเปลือกจากจำเลยมาก่อนแล้วชำระเงินในภายหลัง บางครั้งผู้เสียหายก็ให้เงินจำเลยไปก่อนแล้วไปเอาข้าวเปลือกในภายหลัง วันเกิดเหตุจำเลยไปบอกขายข้าวเปลือก 10 เกวียนให้แก่ผู้เสียหาย และขอรับเงินล่วงหน้าไปก่อน ซึ่งผู้เสียหายได้จ่ายเงินล่วงหน้าให้แก่จำเลยไป 20,000 บาท โดยยังไม่ได้ตกลงราคาและจำเลยไม่ได้บอกว่ามีข้าวเปลือกอยู่แล้ว พฤติการณ์ระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยเป็นการปฏิบัติต่อกันตามปกติในการซื้อขายข้าวเปลือก แม้ต่อมาจำเลยไม่มีข้าวเปลือกขายให้แก่ผู้เสียหายภายในกำหนดเวลาที่ตกลงกันและไม่อาจคืนเงินที่รับมาให้แก่ผู้เสียหายได้ ก็เป็นเรื่องที่จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ให้ไว้แก่ผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2922/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามฉ้อโกงต้องมีการได้ทรัพย์สินไปจากผู้เสียหาย สัญญาต่างตอบแทนยังไม่ถือเป็นการได้ทรัพย์สิน
จำเลยหลอกลวงผู้เสียหายว่าบริษัท บ. จะยุบตัวแทนจำหน่ายเบียร์แห่งหนึ่ง จำเลยสามารถติดต่อให้ผู้เสียหายเป็นตัวแทนของบริษัท บ. ได้ โดยจำเลยขอค่าสมนาคุณเป็นเงินจำนวนหนึ่ง แต่สัญญาจ่ายค่าสมนาคุณระบุว่าจะจ่ายค่าสมนาคุณก็ต่อเมื่อผู้เสียหายได้ทำสัญญาเป็นตัวแทนจำหน่ายเบียร์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นลักษณะของสัญญาต่างตอบแทน ดังนั้นแม้ผู้เสียหายจะหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลย และลงลายมือชื่อในหนังสือสัญญาจ่ายค่าสมนาคุณให้จำเลยไป จำเลยก็ไม่ได้ทรัพย์สินไปจากผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามฉ้อโกง
โจทก์ฟ้องจำเลยหลายคนว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานเดียวกัน จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษ แต่จำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์ คดีเฉพาะจำเลยที่ 2 จึงถึงที่สุด เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ที่มิได้อุทธรณ์ให้มิต้องถูกรับโทษด้วย
โจทก์ฟ้องจำเลยหลายคนว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานเดียวกัน จำเลยที่ 1 และที่ 3 อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษ แต่จำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์ คดีเฉพาะจำเลยที่ 2 จึงถึงที่สุด เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่ 2 ที่มิได้อุทธรณ์ให้มิต้องถูกรับโทษด้วย