คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผู้ค้ำประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 571 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1785/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันข้ามอายุความ: ความผูกพันของผู้ค้ำประกันเมื่อหนี้ขาดอายุความแล้วไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
ข้อความซึ่งระบุไว้ในสัญญาค้ำประกันว่าแม้ลูกหนี้ตายเกิน 1 ปีผู้ค้ำประกันก็คงยอมรับใช้แทน นั้น ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และไม่เป็นการขยายอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาต่อลูกหนี้และผู้ค้ำประกัน, การใช้ดุลยพินิจเรื่องเบี้ยปรับ
โจทก์ฟ้องลูกหนี้กับผู้ค้ำประกันให้รับผิดตามสัญญาผู้ค้ำประกันผู้เดียวฎีกา เมื่อศาลฎีกาพิพากษาให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน คำพิพากษานั้นย่อมมีผลเป็นคุณแก่ลูกหนี้ด้วย
ข้อกำหนดเบี้ยปรับตามสัญญา อยู่ในอำนาจศาลจะพิจารณาให้ตามสัญญาหรือตามที่ศาลเห็นสมควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 832/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารยินยอมผัดชำระหนี้ของผู้ค้ำประกัน ไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
หนังสือที่เป็นคำรับรองที่ผู้ค้ำประกันยินยอมในการที่ผู้กู้ขอผัดชำระหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องปิดอากรแสตมป์ ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 671/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงิน - หลักฐานการกู้ - ผู้ค้ำประกัน - ความรับผิดของผู้กู้
คดีที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ชำระเงินกู้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือว่าจำเลยที่ 2 ได้ลงลายมือชื่อเป็นผู้กู้อย่างใด โจทก์ย่อมจะฟ้องร้องบังคับให้จำเลยที่ 2 รับผิดในฐานผู้กู้หาได้ไม่
แบบพิมพ์หนังสือมอบอำนาจของกรมที่ดินอันยังไม่ได้กรอกข้อความและมีลายมือชื่อจำเลยที่ 2 เป็นผู้มอบอำนาจก็ดี หาใช่เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันพิเศษ: ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ ไม่ขัดกฎหมายและอายุความ
สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า กรณีเมื่อลูกหนี้ผิดนัด ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และมีข้อความอีกตอนหนึ่งว่า ยังยินยอมให้ผ่อนเวลาชำระหนี้ได้ และผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดชอบผู้เสมอ ดังนี้ถือว่า เป็นการตกลงพิเศษ ผู้ค้ำประกันหารรับผิดเพียงฐานะผู้ค้ำประกันตามกฎหมายเท่านั้นไม่
อนึ่ง การที่ผู้ค้ำประกันตกลงเป็นพิเศษยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้นั้น หาขัดกับความสงบเรียกร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ ตามประมวลกฎหมาแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 114 ข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ
ในกรณีลูกหนี้ตาย สัญญาค้ำประกันยังให้สิทธิเจ้าหน้าฟ้องผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตาย ได้รับรับชำระหนึ่งจากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมชำระหนี้จนครบนั้น มิได้หมายความว่า จะต้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใด ยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตาย ไม่ได้รับชำระหนี้จากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมรับชำระหนี้จนครบ นั้น มิได้หมายความว่าจะต้องฟ้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใดยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่เสมอ การที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้นั้น ไม่ขัดต่อมาตรา 191 หรือ 192 เพราะไม่ใช่อายุความของผู้ค้ำประกัน และข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันพิเศษ: ผู้ค้ำประกันยอมผูกพันหนี้ชั้นเดียวกับลูกหนี้ได้ แม้ไม่ฟ้องลูกหนี้ก่อน
สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า กรณีเมื่อลูกหนี้ผิดนัด ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ทันทีโดยไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และมีข้อความอีกตอนหนึ่งว่า ยังยินยอมให้ผ่อนเวลาชำระหนี้ได้ และผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดชอบอยู่เสมอ ดังนี้ถือว่าเป็นการตกลงพิเศษ ผู้ค้ำประกันหารับผิดเพียงฐานะผู้ค้ำประกันตามกฎหมายเท่านั้นไม่
อนึ่ง การที่ผู้ค้ำประกันตกลงกันเป็นพิเศษยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้นั้น หาขัดกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 114 ข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ
ในกรณีลูกหนี้ตาย สัญญาค้ำประกันยังให้สิทธิเจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตายไม่ได้รับชำระหนี้จากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมรับชำระหนี้จนครบนั้น มิได้หมายความว่าจะต้องฟ้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใดยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่เสมอการที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้นั้น ไม่ขัดต่อมาตรา 191 หรือ 192 เพราะไม่ใช่อายุความของผู้ค้ำประกัน และข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ค้ำประกัน: การพิสูจน์ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ และหน้าที่ของเจ้าหนี้ในการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน
ป.พ.พ. มาตรา 689 บัญญัติให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน ในกรณีที่ผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่า ลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากด้วยเช่นนี้ เจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ไม่ได้ดังกล่าว และโจทก์นำสืบได้ว่า โจทก์ได้สืบเสาะหาทรัพย์ที่จะเอาชำระหนี้ จากลูกหนี้ที่ไหนก็ไม่ได้ เช่นนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 689

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้ค้ำประกันตามมาตรา 689: การพิสูจน์ความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 689 บัญญัติให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกันในกรณีที่ผู้ค้ำประกันพิสูจน์ได้ว่า ลูกหนี้มีทางที่จะชำระหนี้ได้ และการที่จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้นั้นจะไม่เป็นการยากด้วยเช่นนี้ เจ้าหนี้จะต้องบังคับการชำระหนี้เอาจากทรัพย์สินของลูกหนี้ก่อน ถ้าผู้ค้ำประกันพิสูจน์ไม่ได้ดังกล่าว และโจทก์นำสืบได้ว่า โจทก์ได้สืบเสาะหาทรัพย์ที่จะเอาชำระหนี้จากลูกหนี้ที่ไหนก็ไม่ได้ เช่นนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม มาตรา 689

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1269/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันไม่เป็นโมฆะ แม้มีการดำเนินคดีอาญาเพิ่มเติมจากเจตนาร้องทุกข์เดิม ผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญา
โจทก์เจตนาแจ้งข้อหาในเรื่องฉ้อโกงเงินของโจทก์อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว แต่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง แจ้งความเท็จ และทำผิดกฎหมายหุ้นส่วนด้วย จำเลยเข้ามาทำสัญญากับโจทก์ว่า ถ้าโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แล้ว จำเลยยอมค้ำประกันจำนวนเงินรายนี้ ครั้นโจทก์ถอนคำร้องทุกข์แม้คดีคงระงับเฉพาะข้อหาฉ้อโกงอันเป็นความผิดต่อส่วนตัวเท่านั้น จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกันนั้นเพราะการที่ข้อหาในคดีอาญาแผ่นดินยังดำเนินกันอยู่นั้น ไม่เกี่ยวแก่โจทก์ สัญญาค้ำประกันเช่นว่านี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
ในสัญญาค้ำประกันมีว่า จำเลยผู้ค้ำประกันยอมสละไม่ยกข้อต่อสู้ที่จะให้โจทก์บังคับเอาจากทรัพย์สินของบริษัทลูกหนี้ก่อน ฉะนั้นเมื่อบริษัทลูกหนี้ล้มละลาย แม้โจทก์จะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้วก็ตาม ก็ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้ชำระหนี้ที่ค้ำประกันไว้ หากโจทก์ได้รับชำระหนี้จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เท่าใด จำเลยผู้ค้ำประกันก็ไม่ต้องชำระในจำนวนนั้นอีก หาใช่โจทก์จะมีสิทธิได้รับจำนวนเงินเป็น 2 ซ้ำไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 790/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมเป็นผู้กู้ร่วม แม้เดิมตั้งใจเป็นผู้ค้ำประกัน ย่อมมีผลผูกพันตามสัญญา
แม้ในชั้นต้นจำเลยที่ 1 ตั้งใจเพียงจะเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 2-3 ก็ดี แต่เมื่อโจทก์ต้องการให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้กู้ด้วย จำเลยที่ 1 ก็ยินยอมและได้ลงชื่อในหนังสือสัญญากู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 แล้ว ก็เท่ากับจำเลยที่ 1 ได้สละความตั้งใจเดิมและยอมเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดในฐานเป็นผู้กู้ร่วมกับจำเลยที่ 2-3 ด้วย
of 58