คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
พยายามฆ่า

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2584/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่าและการทำร้ายร่างกาย: การกระทำที่ไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนและไม่ถึงขั้นทำร้าย
จำเลยทั้งสองไม่พอใจโจทก์เพราะเข้าใจว่าโจทก์บีบแตรไล่รถยนต์ของจำเลย และโจทก์พูดว่าจำเลยที่ 1 เกเร แม้จำเลยที่ 1 พยายามแก้แค้นด้วยการขับรถปาดหน้ารถยนต์ของโจทก์หลายครั้ง เพื่อให้รถยนต์ของโจทก์ชนรถยนต์ของจำเลยโจทก์ก็หลบหลีกและหยุดทันทุกครั้ง จำเลยทั้งสองจึงเกิดโทสะ และจำเลยที่ 1 เอาปืนที่มีอยู่ในรถยนต์ก่อนแล้วยิงโจทก์ตามที่จำเลยที่ 2 ยุ ถือไม่ได้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการพยายามฆ่าโจทก์โดยไตร่ตรองไว้ก่อน
การที่จำเลยที่ 1 เพียงแต่จับแขนโจทก์ซึ่งวางที่ประตูรถยนต์มิได้ดึงกระชาก ไม่เป็นการใช้กำลังทำร้ายโจทก์โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1874/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามฆ่าและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน ฟังได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงต่อเนื่องทำให้ผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าหลายกรรม
จำเลยยิง พ. 2 นัด แล้วเจตนายิง ส. และก.ซึ่งเดินตามพ. มาด้วยอีก กระสุนปืนถูก พ. ตาย ส. ถูกยิง 2 นัด เป็นอันตรายสาหัสกระสุน 1 นัดเฉียด ก. ไปดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนกรรมหนึ่งกับฐานพยายามฆ่าผู้อื่นอีก 2 กรรม ชั้นอุทธรณ์โจทก์ไม่อุทธรณ์ศาลฎีกาแก้บทให้ถูกต้องเป็น ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ288,80แต่ไม่แก้โทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในความผิดต่อเนื่อง: คดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แม้มีหลายฐานความผิดต้องฟ้องคดีเดียว
คดีก่อนโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า จำเลยได้ต่อยผู้เสียหาย และเอาอาวุธปืนจี้ที่หน้าท้องผู้เสียหายมีเสียงดังแซะกระสุนปืนไม่ลั่น แล้วจำเลยใช้อาวุธปืนตบกกหูซ้ายผู้เสียหายบาดเจ็บก็ตาม ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียว เมื่อโจทก์ฟ้องคดีก่อนเกี่ยวกับความผิดของจำเลยจนศาลพิพากษาลงโทษจำเลยคดีถึงที่สุดแล้ว ย่อมถือได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งฟ้องได้ สิทธินำคดีมาฟ้องย่อมระงับไป การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายเป็นคดีนี้ จึงเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญา มาตรา 39 (4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า: การช่วยเหลือหลังก่อเหตุเป็นความผิดฐานผู้สนับสนุน
จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวเข้าไปใช้อาวุธปืนยิง ส. ในบริเวณบ้าน เมื่อยิงแล้วจำเลยที่ 1 ได้วิ่งไปขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2 จอดติดเครื่องรออยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตรเศษ แล้วจำเลยที่ 2 ได้ขับรถจักรยานยนต์พาหนีไปทันที พฤติการณ์และการกระทำของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวเป็นแต่เพียงการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดซึ่งเป็นความผิดซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า: การช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลังการกระทำความผิดเป็นเพียงการสนับสนุน
จำเลยที่ 1 แต่ผู้เดียวเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงส. ในบริเวณบ้าน เมื่อยิงแล้วจำเลยที่ 1 ได้วิ่งไปขึ้นนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จำเลยที่ 2 จอดติดเครื่องรออยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตรเศษ แล้วจำเลยที่ 2ได้ขับรถจักรยานยนต์พาหนีไปทันทีพฤติการณ์และการกระทำของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวเป็นแต่เพียงการช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 ในการกระทำความผิดซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2473/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามฆ่าและการยิงปืนในเมือง: การพิเคราะห์เจตนาและองค์ประกอบความผิด
เมื่อได้ยินเสียงปืนดังทางบ้านจำเลย ผู้เสียหายโผล่หน้าต่างดู เห็นจำเลยเล็งปืนมาทางผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลบเข้าภายใน ก็มีเสียงปืนดังมาอีก 1 นัด กระสุนถูกขอบหน้าต่างที่ผู้เสียหายโผล่ ออกไปดู หากไม่หลบเข้าไปกระสุนปืนอาจถูกผู้เสียหายได้จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80 จะอ้างว่ายิงปืนโดยความมึนเมา ไม่มีเจตนายิงเพื่อฆ่าผู้เสียหายนั้นไม่ได้
แม้คำขอท้ายฟ้องจะระบุประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 376 ไว้ด้วย แต่โจทก์มิได้กล่าวบรรยายมาในฟ้องถึงองค์ประกอบความผิดของมาตรา 376 ดังนี้ ศาลจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรานี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่อเนื่อง: การทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธและพยายามฆ่า แม้เป็นหลายกรรม แต่ถือเป็นกรรมเดียว
จำเลยใช้ไม้ระแนงตีผู้เสียหาย ผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ตามและใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 1 นัด ดังนี้ เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดที่สืบเนื่องติดพันกันจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธปืน แม้เป็นการป้องกัน แต่เกินกว่าเหตุ
จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงผู้เสียหายในระยะ 4 - 5 เมตร ถูกผู้เสียหายที่ตะโพกซ้าย แสดงว่าจำเลยเจตนายิงไปที่ลำตัวของผู้เสียหายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เหตุที่กระสุนปืนถูกที่ตะโพกซ้าย เชื่อได้ว่าเพราะจำเลยยิงไม่แม่นยำ การยิงของจำเลยอยู่ในลักษณะที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
ขณะที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายกับพวกกำลังกลุ้มรุมทำร้ายน. การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกัน น.ให้พ้นภยันตรายจากการถูกทำร้าย แต่โดยเหตุที่ผู้เสียหายไม่มีอาวุธอะไร การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่าและการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ: การพิจารณาเจตนา การกระทำ และเหตุผลในการป้องกัน
จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ซึ่งเป็นอาวุธที่ร้ายแรงยิงผู้เสียหายในระยะ 4-5 เมตร ถูกผู้เสียหายที่ตะโพกซ้าย แสดงว่าจำเลยเจตนายิงไปที่ลำตัวของผู้เสียหายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เหตุที่กระสุนปืนถูกที่ตะโพกซ้าย เชื่อได้ว่าเพราะจำเลยยิงไม่แม่นยำ การยิงของจำเลยอยู่ในลักษณะที่จะทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย
ขณะที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายกับพวกกำลังกลุ้มรุมทำร้าย น. การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกัน น. ให้พ้นภยันตรายจากการถูกทำร้าย แต่โดยเหตุที่ผู้เสียหายไม่มีอาวุธอะไร การยิงของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
of 87