พบผลลัพธ์ทั้งหมด 790 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2803/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากละทิ้งร้าง ต้องพิจารณาพฤติการณ์ของทั้งสองฝ่าย ศาลยกฟ้องหากโจทก์ไม่ช่วยเหลือดูแลบุตร
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยคลอดบุตรแล้วโจทก์ไม่อยู่ช่วยเหลือดูแลบุตร จำเลยจึงต้องพาบุตรไปอาศัยอยู่กับมารดาของจำเลยชั่วคราว แต่โจทก์กลับไม่ยอมให้จำเลยอยู่ด้วยโดยไปแจ้งย้ายทะเบียนบ้าน ให้จำเลยและบุตรออกไปจากบ้านโจทก์ เมื่อจำเลยมาพบพูดจากับโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นสามี โจทก์ก็ไม่ยอมพูดด้วย จำเลยต้องอาศัยอยู่กับมารดาของจำเลยต่อมา ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยจงใจละทิ้งร้างโจทก์ อันจะเป็นเหตุให้โจทก์ฟ้องหย่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดกรรโชกทรัพย์ ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์การใช้รถตลอดการกระทำผิด
ใช้รถยนต์พาผู้เสียหายไปขู่เอาทรัพย์โดยเป็นแผนการคบคิดกันไม่เพียงแต่ใช้เป็นยานพาหนะแต่อย่างเดียว ต้องริบรถตาม มาตรา 33(1)
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงไม่ถูก เพราะยังมีข้อเท็จจริงอื่นอีกหลายประการ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้เอง
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงไม่ถูก เพราะยังมีข้อเท็จจริงอื่นอีกหลายประการ ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงใหม่ได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2545/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร: เจตนาและพฤติการณ์ที่บ่งชี้ความผิด
จำเลยซึ่งมีภรรยาและบุตรแล้ว นัดพบกับผู้เยาว์ซึ่งเป็นนักเรียนหญิงชั้น ม.ศ.3 อายุ 16 ปี กำลังเรียนอยู่ และได้ร่วมประเวณีกันทุกครั้งที่พบกัน ทั้ง ๆ ที่จำเลยไม่อยู่ในฐานะที่จะเลี้ยงดูผู้เยาว์ฉันสามีภรรยาได้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษจากความโง่เขลาและอายุมากในคดีส่งออกยาเสพติด
หญิงอายุมากแล้ว ทำผิดฐานส่งเฮโรอีนออกนอกราชอาณาจักรโดยขั้นแรกไม่ยอมร่วมมือ แต่ถูกชักจูงว่าจะให้ส่วนแบ่งจึงร่วมมือโดยความโง่เขลา ศาลลงโทษเบาลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2131/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การควบคุมตัวบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมต้องมีหลักฐานชัดเจน ไม่ใช่แค่พฤติการณ์เลื่อนลอย
พฤติการณ์อันเป็นเหตุที่จะควบคุมบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมได้นั้นจะต้องมีหลักฐานประกอบพอสมควรที่จะฟังได้ว่า บุคคลที่ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์เช่นนั้น มิใช่มีแต่เพียงหลักฐานอันเลื่อนลอยและคลุมเครือ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2008/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำชำเราเด็กอายุ 8 ปี แม้ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน แต่จากอาการบาดเจ็บและพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่ามีการล่วงล้ำทางเพศเกิดขึ้น
จำเลยถอดกางเกงผู้เสียหายซึ่งมีอายุ 8 ปี ออก เอาของลับของจำเลยใส่ของลับของผู้เสียหายจนเข้าไปแล้ว แม้ไม่ปรากฏชัดว่าของลับของจำเลยล่วงล้ำเข้าไปในของลับผู้เสียหายได้มากน้อยเพียงใดก็ตาม แต่แพทย์ตรวจมีความเห็นว่า แคมเล็กช้ำบวมถลอกเป็นแผลมีเลือดออกต้องมีวัตถุไม่มีคมถูผ่าน และพอตกกลางคืนผู้เสียหายเจ็บที่ของลับมากจนถึงร้องไห้ ดังนี้ แสดงว่าของลับจำเลยได้ผ่านของลับของผู้เสียหายเข้าไปแล้ว การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำอนาจารและเป็นความผิดสำเร็จฐานกระทำชำเราผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: การพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์ประกอบคำพูด
จำเลยกล่าวว่า " ด่านตำรวจนี้เท่ากับรูหี " ประกอบพฤติการณ์ที่ยื่นหน้าตะโกนออกมานอกรถ มุ่งถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจยิ่งกว่าสถานีที่ อาจเป็นผิดกฎหมายอาญา มาตรา 136 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: การพิจารณาเจตนาและความเชื่อมโยงระหว่างคำพูดและพฤติการณ์
จำเลยกล่าวว่า "ด่านตำรวจนี้เท่ากับรูหี" ประกอบพฤติการณ์ที่ยื่นหน้าตะโกนออกมานอกรถ มุ่งถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจยิ่งกว่าสถานที่ อาจเป็นผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากละเมิด ศาลกำหนดตามสมควรแก่พฤติการณ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1453 สามีภริยาต้องช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูกัน ดังนั้น เมื่อสามีโจทก์ถูกจำเลยยิงตายโดยละเมิด จำเลยจึงต้องชดใช้ที่โจทก์ขาดไร้อุปการะจากสามี และแม้โจทก์จะนำสืบไม่ได้แน่นอนว่าค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเท่าใด ศาลก็กำหนดให้ได้ตามสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งการละเมิด
โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และได้ยื่นคำขอต่อศาลขอว่าความอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องฎีกาอย่างคนอนาถาได้โดยไม่จำต้องฟังคำคัดค้านของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนเพราะในกรณีเช่นนี้เป็นเรื่องระหว่างศาลกับคู่ความที่ร้องขอ
โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์และได้ยื่นคำขอต่อศาลขอว่าความอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์ฟ้องฎีกาอย่างคนอนาถาได้โดยไม่จำต้องฟังคำคัดค้านของคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนเพราะในกรณีเช่นนี้เป็นเรื่องระหว่างศาลกับคู่ความที่ร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 639/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันทำลายทรัพย์สินโดยเจตนาและพฤติการณ์ที่แสดงเจตนาพิเศษ (มาตรา 358, 83)
จำเลยที่ 4 นั่งมาในรถที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับ จำเลยที่ 1 ขับรถปาดหน้ารถยนต์โจทก์ร่วม และเมื่อโจทก์ร่วมได้ขับรถแซงรถของจำเลยขึ้นไป รถของจำเลยเร่งแซงขึ้นหน้าและได้มีการมองหน้ากัน ในขณะที่รถจำเลยแซงขึ้นหน้าไปนั้นเอง จำเลยที่ 4 ได้ขว้างก้อนอิฐมาถูกกระจำหน้ารถโจทก์ร่วมแตก เมื่อถูกขว้างรถ โจทก์ร่วมก็ขับรถตามไปจนทันและร้องบอกให้รถจำเลยหยุด จำเลยที่ 1 ก็ไม่หยุดกลับขับเบียดกระโปรงข้างหน้ารถของโจทก์ร่วม เป็นพฤติการณ์แวดล้อมที่ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 4 กระทำผิดด้วยกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 358