คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 823 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เมื่อจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1002/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากปล้นทรัพย์เป็นชิงทรัพย์เนื่องจากจำนวนผู้กระทำผิดไม่ตรงตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลย(สองคน) สมคบกันปล้นโคของเจ้าทรัพย์ไป ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ร้าย 3 คน ร่วมกันกระทำผิดรายนี้ ก็ลงโทษจำเลยฐานปล้นทรัพย์ไม่ได้ต้องลงโทษฐานชิงทรัพย์ตาม มาตรา 339

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องพิพากษาแสดงสถานะภริยาหลังคู่สมรสเสียชีวิต และผลกระทบต่อสิทธิรับมรดกที่ไม่ชัดเจน
เมื่อคดีได้ความว่าการสมรสของนายทองไทยได้สิ้นสุดลงแล้วโดยการตายของนายทองไทยและโจทก์บรรยายฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายทองไทย จำเลยมิใช่ภริยา การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายทองไทยเป็นโมฆะขอให้สั่งเพิกถอนเสียนั้น คำขอเช่นนี้ไม่บังเกิดผลอะไรแก่สิทธิในครอบครัวของโจทก์กับนายทองไทย ส่วนสิทธิในการรับมรดกของนายทองไทยนั้น โจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้แต่อย่างใด ทำนองจะเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการรับมรดก จึงเป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องที่จำเลยหลงต่อสู้คดี และการยกฟ้องเมื่อข้อเท็จจริงจากการสืบพยานต่างจากฟ้อง
ฟ้องบรรยายว่าจำเลยทำผิดในวันใดวันหนึ่งแน่นอนจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้อ้างฐานที่อยู่ครั้นเมื่อสืบพยานโจทก์หมดแล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า เมื่อระหว่างวันหนึ่งถึงอีกวันหนึ่งวันเวลาใดไม่ปรากฏชัดจำเลยได้กระทำผิดดังนี้ ไม่ใช่เป็นการขอเพิ่มเติม แต่เป็นการขอแก้รายละเอียดซึ่งต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5),164
เมื่อจำเลยปฏิเสธฟ้องเดิมและได้ต่อสู้คดีในการสืบพยานโจทก์ตลอดมาจนหมดพยาน จึงถือได้ว่าจำเลยได้หลงต่อสู้คดีไปตามที่โจทก์ฟ้องผิดวันนั้นแล้วควรต้องยกคำร้องขอแก้ฟ้องนั้นและถือตามฟ้องเดิม
ดังนั้น เมื่อโจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำผิดก่อนวันตามฟ้องเดิมถึง 2 วันข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจึงต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องในข้อสำคัญ ชอบที่จะยกฟ้องเสียตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างพินัยกรรมในฟ้อง: การไม่ลงนามรับรองสำเนาไม่ทำให้ฟ้องเสีย
การที่โจทก์ฟ้องอ้างถึงพินัยกรรมและคัดสำเนาพินัยกรรมติดมาท้ายฟ้อง แต่มิได้ลงชื่อรับรองในสำเนาพินัยกรรมเช่นนี้ ไม่เป็นเหตุทำให้ฟ้องหรือสำเนาพินัยกรรมเสียไปถึงแก่ให้ศาลยกฟ้อง เพราะเรื่องเช่นนี้หากศาลเห็นว่าเป็นการบกพร่องผิดระเบียบแล้ว ก็อาจให้ทำเสียให้ถูกได้ และการฟ้องอ้างถึงหลักฐานเช่นนี้ ก็ไม่จำต้องลงชื่อรับรอง เพราะเป็นการรับรองอยู่ในคำฟ้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1199/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องครอบครองปรปักษ์ในที่ดินสาธารณะ การระบุสถานที่ในฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าทำรั้วกั้นอาณาเขตปลูกเรือนในที่ดินสาธารณะตำบลกระบี่ใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ และจำเลยให้การว่า จำเลยซื้อที่นี้มาจากนางเฟื่อง ดังนี้ ถือได้ว่า ฟ้องได้ระบุสถานที่พอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความคลาดเคลื่อนของสถานที่เกิดเหตุในฟ้อง ไม่ถือเป็นข้อเท็จจริงต่างกัน หากยังอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
โจทก์ระบุตำบลเกิดเหตุในฟ้องว่าเกิดที่ตำบลท่ายาง แต่ปรากฎเหตุเกิดอีกตำบลหนึ่ง ซึ่งอยู่อีกฝั่งของคลอง ซึ่งมีฝั่งอีกฝั่งอยู่ในตำบลท่ายาง เพราะความสำคัญผิดหรือพลั้งเผลอ เพียงเท่านี้จะให้ถือฟ้องยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 809/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการวินิจฉัยของศาล: ประเด็นที่จำกัด vs. ประเด็นตามฟ้องและต่อสู้
โจทก์จำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดากัน โจทก์ฟ้องขอแบ่งส่วนมรดกของบิดาครึ่งหนึ่ง จำเลยให้การต่อสู้ว่า โจทก์มีส่วนไม่ถึงครึ่ง เพราะควรตกเป็นของมารดาจำเลย 2 ใน 3 ที่เหลืออีก 1 ใน 3 จึงเป็นของโจทก์เพียง 1 ใน 3
ในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นจดรายงานกระบวนพิจารณาเพรื่องฟ้องและทำให้การโดยย่อ ข้อที่คู่ความรับกัน และต่างไม่ติดใจสืบพยาน แล้วศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาต่อไปว่า ประเด็นมีเฉพาะข้อที่ว่าโจทก์ควรได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งตามฟ้องหรือควรได้ส่วนแต่เท่าที่จำเลยต่อสู้
ดังนี้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ไม่ใช่เรื่องที่คู่ความท้ากันโดยจำกัดให้ศาลชี้ขาดเพียง 2 ทางว่าส่วนแบ่งนั้นถ้าโจทก์ไม่ได้ครึ่งหนึ่งตามฟ้องแล้ว จักต้องเป็นไปดังจำเลยให้การต่อสู้ หากแต่เป็นเรื่องที่คู่ความขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามประเด็นที่ฟ้องและต่อสู้ซึ่งศาลจะต้องพิพากษาไปตามบทกฎหมายและรูปคดี ฉะนั้นศาลมีอำนาจพิพากษาแบ่งส่วนเป็นอย่างอื่นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานหลอกลวงขายน้ำมนต์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมาย
โจทก์บรรยายฟ้องว่า 'จำเลยใช้อุบายหลอกลวง โดยเอาความเท็จมากล่าวว่าจำเลยสามารถใช้วิทยาอาคมทำน้ำธรรมดาให้เป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดให้หายได้ โดยจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงให้พวกเจ้าทุกข์ส่งเงินให้แก่จำเลย'และว่า'จำเลยใช้อุบายหลอกลวงโดยเอาความเท็จมากล่าวว่าจำเลยมีความสามารถใช้วิทยาคมได้'
และว่า' จำเลยใช้อุบายหลอกลวงว่าน้ำมนต์ที่จำเลยทำสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิดให้หายได้' เหล่านี้ย่อมชัดแจ้งตามกฎหมายที่โจทก์ฟ้องไม่เคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 550/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีมรดก: การอ้างเหตุจากคำสั่งหน่วยงานราชการนอกประเด็นฟ้องไม่อาจขยายอายุความได้
โจทก์ฟ้องคดีมรดกเกิน 1 ปี นับแต่ได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก โดยโจทก์มิได้เป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกนั้น คดีโจทก์ขาดอายุความ
โจทก์กล่าวมาในอุทธรณ์ว่าโจทก์อาศัยระยะเวลาที่พนักงานที่ดินอำเภอสั่งให้ไปฟ้อง,คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ แต่ปรากฏว่าเป็นการกล่าวอ้างเอาข้อความนอกฟ้องนอกประเด็นมาอุทธรณ์รับพิจารณาไม่ได้.
of 83