พบผลลัพธ์ทั้งหมด 546 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'เวลากลางคืนก่อนเที่ยง' ในฟ้องอาญา: ศาลฎีกาชี้ขาดตามความหมายเดิมคือ 1:00-6:00 น.
ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน (ก่อนเที่ยง) นั้นต้องหมายความถึงเวลากลางคืน เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 6 นาฬิกาของวันนั้นและคำว่าก่อนเที่ยงนั้นหมายถึงก่อนเที่ยงวันเท่านั้น จะแปลว่าก่อนเที่ยงคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 587/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'ก่อนเที่ยง' ในฟ้องอาญา: เวลากลางคืนหมายถึงช่วงใด
ฟ้องว่าเหตุเกิดเวลากลางคืน(ก่อนเที่ยง) นั้น ต้องหมายความถึงเวลากลางคืน เวลาตั้งแต่ 1 ถึง 6 นาฬิกาของวันนั้น และคำว่าก่อนเที่ยงนั้นหมายถึงก่อนเที่ยงวันเท่านั้น จะแปลว่าก่อนเที่ยงคืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การบรรยายฟ้องความผิดฐานพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำบรรยายฟ้องความผิด ฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารที่ถือว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความถูกต้องของฟ้องอาญา: การล่อลวงเด็กเพื่ออนาจาร จำเลยที่ 2 มีส่วนร่วม
ฟ้องโจทก์มีใจความว่าจำเลยที่ 1 ใช้อุบายทุจริตล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปเซ็นชื่อรับเงินออมสิน แล้วจะให้รางวัลเป็นเงิน 8 บาท และจำเลยที่ 2 ได้บังอาจติดต่อและพูดล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้ไปกับจำเลยที่ 1 อันเป็นอุปการะแก่การที่จำเลยที่ 1 จะได้พาเด็กหญิง ท. ไปเสียจากนาง ท.เพื่อการอนาจารดังกล่าวข้างต้นด้วยจนเด็กหญิงท. หลงเชื่อและยอมให้จำเลยที่ 1 พาไป เป็นที่เข้าใจแล้วว่า จำเลยที่ 2 ได้พูดจาล่อลวงเด็กหญิง ท. ให้หลงเชื่อว่าจำเลยที่ 1 จะพาเด็กหญิงท. ไปเซ็นชื่อรับเงินและให้รางวัล ถือได้ว่าโจทก์ได้กล่าวข้อเท็จจริงและรายละเอียดพอสมควรที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพตามข้อหาโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยไม่เข้าใจข้อหาหรือให้การรับสารภาพโดยเข้าใจผิดฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 เป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาที่ระบุเวลาเกิดเหตุไม่ชัดเจน การแก้ฟ้องต้องมีเหตุผล และผลกระทบต่อจำเลยอื่น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทำผิดวันที่ 27 เวลากลางคืนถึงวันที่ 28 เดือนเดียวกัน ไม่ได้บอกว่าเวลาไหน ดังนี้ควรฟังว่าโจทก์หมายถึงเวลากลางคืนเริ่มต้นของวันที่ 28 ต่อจากวันที่ 27 ทางพิจารณาได้ความว่า ทำผิดวันที่ 28 เวลากลางวัน ต้องยกฟ้อง
คำร้องขอแก้ฟ้องต้องมีเหตุอันควร เมื่อโจทก์ไม่ได้แสดงเหตุอันควรที่ขอแก้ ศาลไม่อนุญาตให้แก้
จำเลยสองคนรับของโจรต่อทอดจากกัน ทางพิจารณาปรากฏว่าเวลาเกิดเหตุสำหรับจำเลยคนหลังต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้องต้องยกฟ้องโจทก์ ดังนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลมีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดถึงจำเลยคนแรกที่มิได้อุทธรณ์ด้วยได้
คำร้องขอแก้ฟ้องต้องมีเหตุอันควร เมื่อโจทก์ไม่ได้แสดงเหตุอันควรที่ขอแก้ ศาลไม่อนุญาตให้แก้
จำเลยสองคนรับของโจรต่อทอดจากกัน ทางพิจารณาปรากฏว่าเวลาเกิดเหตุสำหรับจำเลยคนหลังต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้องต้องยกฟ้องโจทก์ ดังนี้เป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลมีอำนาจพิพากษายกฟ้องตลอดถึงจำเลยคนแรกที่มิได้อุทธรณ์ด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานพนัน: โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อกล่าวหาให้ตรงตามฟ้อง แม้จำเลยรับสารภาพฐานลูกค้าก็ต้องพิสูจน์เจ้ามือ/หัวเบี้ย
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือหรือหัวเบี้ยในการเล่นโปปั่นได้ความว่าจำเลยเป็นลูกค้าก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานพนัน: โจทก์ต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามฟ้อง แม้จำเลยรับว่าเป็นลูกค้า
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเจ้ามือหรือหัวเบี้ยในการเล่นโปปั่นได้ความว่าจำเลยเป็นลูกค้าก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาฐานสมคบกันฆ่า: การระบุตัวผู้สมคบ
กรณีที่ถือว่าฟ้องระบุเพียงพอว่า จำเลยสมคบกันฆ่าเขาตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาฐานสมคบกันฆ่า: การระบุตัวผู้สมคบ
ฟ้องโจทก์มีใจความว่าจำเลยที่ 1 เป็นทหารประจำการกับพวกได้บังอาจสมคบกันมีขวดเหล้า ไม้กระบองและกริชเป็นสาตราวุธสมคบกันขว้างตีและแทงทำร้ายร่างกายผู้ตายถึงบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยสมคบกันทำร้าย เป็นฟ้องที่อ่านได้ความว่าจำเลยทั้งสามสมคบกันกระทำความผิดฐานฆ่าผู้ตายแล้ว ไม่มีทางให้เข้าใจว่าสมคบกับใครอื่นนอกจากจำเลยในฟ้อง จึงนับว่าเป็นฟ้องที่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 523/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานที่เกิดเหตุในฟ้องอาญา การอ้างอิงข้ามข้อต้องชัดเจน การระบุสถานที่เกิดเหตุเป็นองค์ประกอบสำคัญของฟ้อง
ฟ้องโจทก์ข้อ 1 กล่าวถึงทรัพย์หายและสถานที่ที่ทรัพย์หาย ฟ้องข้อ 2 หาว่าจำเลยรับของโจร อ้างวันเวลาเกิดเหตุในข้อ 1 แต่มิได้อ้างสถานที่เกิดเหตุด้วย ดังนี้จะฟังว่าโจทก์ได้อ้างรวมถึงสถานที่เกิดเหตุด้วยนั้นไม่ได้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุที่เกิดเหตุ ต้องยกฟ้อง