คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 687 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1183/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจำนองไม่สมบูรณ์ การขายน้ำมันก่อนจดทะเบียนจำนองทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
คำบรรยายฟ้องของโจทก์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะเอาที่ดินพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างมาจำนองไว้กับโจทก์ เพื่อเป็นประกันในการที่ ส. จะซื้อน้ำมันจากโจทก์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่โจทก์ขายให้ ส. ผู้ซื้อไปนั้น เมื่อการจำนองต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 714 มิฉะนั้นจะเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 115 แต่โจทก์ยอมขายและส่งมอบน้ำมันเชื้อเพลิงให้แก่ ส. ผู้ซื้อไปก่อนจดทะเบียนสัญญาจำนอง จำเลยหาต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ไม่โจทก์จะยกเหตุที่จำเลยผิดข้อตกลงดังกล่าว มาฟ้องเรียกค่าเสียหายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกเงินตามเช็ค ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิดหากผู้ทรงไม่นำเช็คไปขึ้นเงิน
ตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914 และ 959 ผู้สั่งจ่ายเช็คจะต้องรับผิดใช้เงินแก่ผู้ทรงก็ต่อเมื่อได้มีการนำเช็คนั้นไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินแล้วธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเสียก่อน เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มิได้นำเช็คพิพาทไปยื่นต่อธนาคารเพื่อให้ใช้เงิน และธนาคารก็ยังมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงจะนำคดีมาฟ้องจำเลยผู้สั่งจ่ายให้รับผิดชำระเงินตามเช็คนั้นทีเดียวมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53-54/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องเคลือบคลุม: จำเป็นต้องระบุรายละเอียดงานที่จำเลยไม่เสร็จในสัญญาจ้าง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้เงินค่าก่อสร้างซึ่งเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องทำตามสัญญาแต่จำเลยไม่ทำ เป็นเหตุให้โจทก์ต้องจ้างบุคคลอื่นมาทำแทน แต่โจทก์บรรยายว่าจำเลยได้ละทิ้งงานก่อสร้างไปโดยงานก่อสร้างยังไม่เสร็จอยู่ 28 รายการ โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยมาทำการก่อสร้างให้เสร็จ จำเลยมาก่อสร้างให้เพียง 7 รายการ ยังเหลืออยู่อีก 21 รายการ ไม่ได้แสดงโดยแจ้งชัดว่า งานที่จำเลยยังทำไม่เสร็จ 28 รายการนั้นคือรายการใดบ้าง มาทำเสร็จไปอีก 7 รายการ คือรายการใดบ้าง และยังค้างอยู่ 21 รายการ อันจำเลยจะต้องรับผิดในการที่โจทก์ต้องจ้างบุคคลอื่นมาทำนั้นคือรายการใด แม้โจทก์จะได้กล่าวไว้ว่าโจทก์จะได้นำเสนอต่อศาลในชั้นพิจารณา ก็ไม่ช่วยให้คำบรรยายฟ้องแจ้งชัดขึ้น คำฟ้องของโจทก์จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชดใช้เงินที่จำเลยกระทำการก่อสร้างไม่เสร็จภายในกำหนดแห่งสัญญา โดยบรรยายข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาว่า จำเลยก่อสร้างไม่เสร็จภายใน 300 วันตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 กันยายน 2516 หากจำเลยทำงานไม่เสร็จภายในกำหนด ยอมให้โจทก์ปรับวันละ 500 บาท คำฟ้องดังกล่าวเป็นเรื่องเรียกเบี้ยปรับในกรณีที่จำเลยไม่ชำระหนี้ตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา เพียงแต่บรรยายว่าจำเลยไม่กระทำการก่อสร้างให้เสร็จภายในกำหนดแห่งสัญญาก็แจ้งชัดพอแล้ว แม้จะไม่มีรายละเอียดการก่อสร้างที่อ้างว่าทำไม่เสร็จ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนออกใบตราส่งไม่ตรงตามข้อตกลงกับเจ้าของเรือ ทำให้เจ้าของเรือต้องรับผิดต่อผู้รับตราส่ง ตัวแทนต้องรับผิดร่วมกับผู้ว่าจ้าง
โจทก์ได้ติดต่อที่จะแต่งตั้งให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนรับส่งสินค้าทางทะเลขอให้ส่งตัวแทนไปเจรจาข้อปลีกย่อย เมื่อโจทก์และตัวแทนจำเลยที่ 1 ได้เจรจาตกลงกันแล้วจำเลยที่ 1 ได้มีจดหมายยืนยันรายละเอียดที่ได้เจรจากันไปให้โจทก์ทราบ และตัวแทนโจทก์ก็ได้มีจดหมายยืนยันมายังจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกัน และว่าจะส่งหนังสือแต่งตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการตามมาภายหลังเมื่อเรือของโจทก์เดินทางมารับสินค้าเป็นลำแรก จำเลยที่ 1 ก็ได้ทำหน้าที่ตามที่ตกลงกันไว้ และแสดงต่อทางราชการว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าโจทก์ได้แต่งตั้งจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนและจำเลยที่ 1 รับเป็นตัวแทนของโจทก์ในการรับส่งสินค้าทางทะเลแล้ว แม้โจทก์จะยังมิได้มีหนังสือแต่งตั้งจำเลยที่ 1 อย่างเป็นทางการก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เพราะมิใช่กรณีที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้ต้องทำเป็นหนังสือ
สัญญาเช่าเรือขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างโจทก์กับเจ้าของเรือ กำหนดให้เจ้าของเรือรับผิดเช่นเดียวกับโจทก์ผู้เช่าสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่สินค้าตามที่ปรากฏในใบตราส่งที่กัปตันเรือเป็นผู้ลงชื่อในใบตราส่ง แต่ถ้าโจทก์จะให้กัปตันเรือมอบอำนาจให้โจทก์หรือตัวแทนโจทก์ลงชื่อในใบตราส่งแทนกัปตันเรือก็ได้ ทั้งนี้ต้องออกใบตราส่งให้มีข้อความตรงกับใบรับขั้นต้น กัปตันเรือได้มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ลงชื่อในใบตราส่งโดยมีข้อกำหนดว่าจะต้องออกใบตราส่งให้มีข้อความตรงกับใบรับขั้นต้น หาไม่แล้วเจ้าของเรือจะไม่รับผิดชอบ จำเลยที่ 1 รู้อยู่แล้วว่าสินค้ามันสำปะหลังที่จำเลยที่ 2 มาจ้างขนส่งนั้นยังไม่แห้งสนิทดังที่หมายเหตุไว้ในใบรับขั้นต้น แต่กลับออกใบตราส่งให้จำเลยที่ 2 ไปโดยไม่หมายเหตุความบกพร่องไว้ให้ตรงกับใบรับขั้นต้น เป็นเหตุให้ธนาคารจ่ายเงินค่าสินค้ามันสำปะหลังให้จำเลยที่ 2 ไปตามใบตราส่งที่ไม่มีหมายเหตุความบกพร่อง ต่อมามันสำปะหลังไปถึงผู้รับตราส่งปรากฏว่าชื้นขึ้นราและมีกลิ่น คุณภาพได้เสื่อมลงราคาตกไปประมาณครึ่งหนึ่ง ทำให้ผู้รับตราส่งได้รับความเสียหาย จึงได้ฟ้องให้เจ้าของเรือรับผิด เจ้าของเรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้รับตราส่งแล้วจึงได้ไล่เบี้ยเอากับโจทก์ที่ออกใบตราส่งไม่ตรงตามสัญญาเช่าเรือ โจทก์ต้องใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของเรือไปตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ จึงต้องถือว่าความเสียหายที่โจทก์ได้รับเกิดจากความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนโจทก์ในการที่ออกใบตราส่งให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ตรงกับใบรับขั้นต้นตามที่ได้รับมอบหมายจากกัปตันเรือ จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 มิได้กระทำโดยประมาทเลินเล่อให้โจทก์เสียหาย จึงพิพากษายกฟ้องโดยมิได้วินิจฉัยปัญหาที่ว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ให้จำเลยที่ 1 รับผิดร่วมกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 มิได้ยกปัญหาเรื่องคดีโจทก์ขาดอายุความตั้งประเด็นไว้ในคำแก้อุทธรณ์ จึงถือว่าไม่มีประเด็นเรื่องอายุความในชั้นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาเรื่องอายุความให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นในชั้นอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบเมื่อจำเลยที่ 1 ฎีกาเรื่องอายุความขึ้นมา จึงต้องถือว่าปัญหาเรื่องอายุความมิได้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2581/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดและการรับผิดของเจ้าหน้าที่ต่อการยักยอกเงิน, การพิจารณาความรับผิดตามหลักฐานในคดีอาญา
คดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตยักยอกถึงที่สุดแล้วโดยศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 สำหรับจำเลยที่ 4 ให้ยกฟ้องโจทก์ เพราะข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 4 ปฏิบัติไปตามระเบียบแบบแผน เช่นนี้ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งซึ่งผู้เสียหายฟ้องจำเลยที่ 4 กับพวกให้ชดใช้เงินดังกล่าวในคดีอาญาคืนฐานละเมิด ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญา โดยจำเลยที่ 4 ไม่ต้องรับผิดในจำนวนเงินที่โจทก์ฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้ร่วมกันกระทำการทุจริตเบียดบังยักยอกเอาเงินค่าน้ำประปาไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวของจำเลยทั้งสี่ อันหมายถึงว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ได้ทำละเมิดต่อโจทก์โดยเอาเงินค่าน้ำประปาของโจทก์ไปโดยทุจริต เป็นการยึดถือเอาเงินของโจทก์ไว้โดยไม่มีสิทธิ โจทก์ผู้เป็นเจ้าของเงินมีสิทธิติดตามเอาคืนได้ตามมาตรา 1336 ประกอบด้วยมาตรา 438 ส่วนคดีสำหรับจำเลยที่ 5 และที่ 6 โจทก์ขอให้รับผิดใช้ค่าเสียหายเพราะปฏิบัติงานด้วยความประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 สมคบกันยักยอกเอาเงินไปได้ จำเลยที่ 5 ที่ 6 มิได้ยึดถือเงินของโจทก์ไว้ หากจะต้องรับผิดต่อโจทก์ก็เป็นความรับผิดในค่าเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 วรรค 2 ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ตามมาตรา 448
คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งได้รายงานต่ออธิบดีกรมโจทก์ว่า เห็นควรให้จำเลยที่ 5 และที่ 6 ร่วมกันชดใช้นายดำรงรองอธิบดีได้รับทราบรายงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2506 และสั่งว่า "ปปก.พิจารณาเสนอความเห็น"ลงชื่อ "ดำรง แทน" เช่นนี้ มีความหมายว่านายดำรงสั่งแทนอธิบดีและถือว่าโจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2506 โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2507 ฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 5 ที่ 6 จึงพ้น 1 ปี และขาดอายุความแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้จากการซื้อวัสดุก่อสร้าง แม้ใบสั่งซื้อจะลงชื่อโดยตัวแทน แต่กระทำในนามบริษัท ห้างหุ้นส่วนต้องรับผิด
ความประสงค์ของกฎหมายที่ให้ฝ่ายที่อ้างเอกสารส่งสำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันนั้น ก็เพื่อให้ฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารมายันได้มีโอกาสตรวจสอบเอกสารก่อน จะได้ซักค้านพยานได้ถูกต้องไม่เสียเปรียบแก่กัน เมื่อจำเลยว่ายังมิได้รับสำเนาเอกสาร โจทก์ขอเลื่อนการสืบพยานไปก่อนเพื่อจัดส่งสำเนาเอกสารให้จำเลย จำเลยก็พอใจไม่คัดค้าน นัดต่อไปจำเลยไม่ทักท้วงอะไรอีก แสดงว่าจำเลยได้รับสำเนาเอกสารประกอบการซักค้านพยานในนัดต่อไปนั้นแล้ว ไม่มีการเสียเปรียบแก่กัน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวได้
จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ไปติดต่อกับโจทก์ในนามของจำเลยที่ 1 ขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จเพื่อใช้ในการก่อสร้างซึ่งจำเลยที่ 1 รับเหมาจาก ท. โจทก์นำไปเสนอราคา เงื่อนไขการส่งของ และการชำระเงินเสนอต่อจำเลยที่ 1 ต่อมามีการตกลงซื้อและเสนอใบสั่งซื้อต่อโจทก์ โจทก์คอนกรีตให้จำเลยที่ 1 ณ. สถานที่ก่อสร้าง ใบสั่งซื้อลงชื่อโดยจำเลยที่ 4 แต่ใช้กระดาษแบบจดหมายชื่อของห้างจำเลยที่ 1 เท้าความถึงคำเสนอของโจทก์ต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นผู้ดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยที่ 1 และเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ในการติดต่อกับ ท.ตามหนังสือแต่งตั้ง การรับเงินค่าก่อสร้าง จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับก็มี จำเลยที่ 4 เป็นผู้รับก็มี แสดงว่าจำเลยที่ 4 ทำในนามของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1969/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้จากการซื้อวัสดุก่อสร้าง โดยตัวแทนของห้างหุ้นส่วนจำกัด และการรับฟังพยานเอกสาร
ความประสงค์ของกฎหมายที่ให้ฝ่ายที่อ้างเอกสารส่งสำเนาให้อีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันนัดสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวันนั้น ก็เพื่อให้ฝ่ายที่ถูกอ้างเอกสารมายันได้มีโอกาสตรวจสอบเอกสารก่อน จะได้ซักค้านพยานได้ถูกต้องไม่เสียเปรียบแก่กัน เมื่อจำเลยว่ายังมิได้รับสำเนาเอกสารโจทก์ก็ขอเลื่อนการสืบพยานไปก่อนเพื่อจัดส่งสำเนาเอกสารให้จำเลย จำเลยก็พอใจไม่คัดค้าน นัดต่อไปจำเลยไม่ทักท้วงอะไรอีก แสดงว่าจำเลยได้รับสำเนาเอกสารประกอบการซักค้านพยานในนัดต่อไปนั้นแล้ว ไม่มีการเสียเปรียบแก่กันเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลย่อมรับฟังพยานเอกสารดังกล่าวได้
จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 4 ไปติดต่อกับโจทก์ในนามของจำเลยที่ 1 ขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จเพื่อใช้ในการก่อสร้างซึ่งจำเลยที่ 1 รับเหมาจาก ท. โจทก์ทำใบเสนอราคา เงื่อนไขการส่งของ และการชำระเงินเสนอต่อ จำเลยที่ 1 ต่อมามีการตกลงซื้อและเสนอใบสั่งซื้อต่อโจทก์ โจทก์ส่งคอนกรีตให้จำเลยที่ 1 ณ สถานที่ก่อสร้าง ใบสั่งซื้อลงชื่อโดยจำเลยที่ 4 แต่ใช้กระดาษแบบจดหมายชื่อของห้างจำเลยที่ 1 เท้าความถึงคำเสนอของโจทก์ต่อจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 เป็นผู้ดูแลงานก่อสร้างแทนจำเลยที่ 1 และเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ในการติดต่อกับ ท. ตามหนังสือแต่งตั้ง การรับเงินค่าก่อสร้าง จำเลยที่ 2 เป็นผู้รับก็มี จำเลยที่ 4 เป็นผู้รับก็มี แสดงว่าจำเลยที่ 4 ทำในนามของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1735/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมการบริษัทผู้ลงนามเช็คต้องรับผิดในฐานะผู้สั่งจ่าย แม้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทน
ผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คต้องรับผิดตามเช็ค จะอ้างว่าทำในฐานะตัวแทนของบริษัทจำกัดที่ตนเป็นกรรมการ จึงไม่รับผิดเป็นส่วนตัวไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประมาทเลินเล่อร่วม รถชนรับผิดกึ่งหนึ่ง
จำเลยประมาทเลินเล่อ และเกิดเหตุรถชนกันขึ้นโดยคนขับรถของโจทก์ประมาทเลินเล่อด้วย ศาลให้จำเลยรับผิดกึ่งหนึ่งตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดของเจ้าของต่อการกระทำของตัวแทนที่ปรากฏแก่บุคคลภายนอก และผลของการยอมรับสารภาพหนี้ต่ออายุความ
เมื่อโจทก์ได้เชิด บ. หรือรู้แล้วยังยอมให้ บ. เชิดตัวเองออกแสดงว่าเป็นตัวแทนของโจทก์ โจทก์ย่อมต้องรับผิดต่อจำเลยผู้สุจริตซึ่งมิได้ล่วงรู้ถึงความจริงเสมือนว่า บ. เป็นตัวแทนของโจทก์
จำเลยได้ตกลงซื้อรถพิพาทจาก บ. เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2511 ยังชำระเงินไม่ครบ ต่อมาจำเลยได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2512 ว่าจำเลยได้รับรถพิพาทไปในวันนั้นเอง การกระทำของจำเลยเช่นนี้ฟังตระหนักเป็นปริยายได้ว่าจำเลยยอมรับสารภาพแล้วว่ายังเป็นหนี้ค่าซื้อรถพิพาทกับโจทก์อยู่ในวันนั้น โจทก์ฟ้องเรียกค่ารถยนต์และค่าเสียหายเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2514 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
of 69