คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5937/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณค่าเสียหายในคดีละเมิดและการรับผิดชอบค่าอุปการะเลี้ยงดูของผู้เยาว์
โจทก์ทั้งสามต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวของโจทก์แต่ละคนตามลำพังฟ้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการกระทำละเมิด แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ตาม แต่ก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกันเป็นราย ๆ ไปเกี่ยวกับค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสามในส่วนของค่าปลงศพ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชำระเป็นเงินจำนวน 60,000 บาท ส่วนค่าขาดไร้อุปการะของโจทก์ที่ 1 และที่ 2 ศาลล่างทั้งสองมิได้กำหนดให้ คดีระหว่างจำเลยที่ 2 กับโจทก์ที่ 1 และที่ 2 จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248วรรคหนึ่ง
พ.บิดาโจทก์ที่ 3 ได้หย่าขาดจากผู้ตายและตกลงให้ผู้ตายเป็นผู้ปกครองโจทก์ที่ 3 ดังนี้ ผู้ตายจึงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่โจทก์ที่ 3 ในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ ถึงแม้ พ.จะให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูก็หาทำให้ผู้ตายหมดภาระหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่โจทก์ที่ 3 ไม่จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดในส่วนนี้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5937/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องค่าเสียหายจากละเมิดและข้อยกเว้นการฎีกาในข้อเท็จจริงตามทุนทรัพย์
โจทก์ทั้งสามต่างใช้สิทธิเฉพาะตัวของโจทก์แต่ละคนตามลำพังฟ้องให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการกระทำละเมิดแม้จะฟ้องรวมกันมาก็ตามแต่ก็ต้องถือทุนทรัพย์ของโจทก์แต่ละคนแยกกันเป็นรายๆไปเกี่ยวกับค่าเสียหายของโจทก์ทั้งสามในส่วนของค่าปลงศพศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชำระเป็นเงินจำนวน60,000บาทส่วนค่าขาดไร้อุปการะของโจทก์ที่1และที่2ศาลล่างทั้งสองมิได้กำหนดให้คดีระหว่างจำเลยที่2กับโจทก์ที่1และที่2จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาทซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา248วรรคหนึ่ง พ. บิดาโจทก์ที่3ได้หย่าขาดจากผู้ตายและตกลงให้ผู้ตายเป็นผู้ปกครองโจทก์ที่3ดังนี้ผู้ตายจึงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามสมควรแก่โจทก์ที่3ในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ถึงแม้พ. จะให้ค่าอุปการะเลี้ยงดูก็หาทำให้ผู้ตายหมดภาระหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่โจทก์ที่3ไม่จำเลยที่2จึงต้องรับผิดในส่วนนี้อยู่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5894/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อทราบถึงการละเมิดและตัวผู้รับผิดชอบ
ตามรายงานการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งของคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งที่รายงานให้ ส.ในฐานะนายกเทศมนตรีของเทศบาลโจทก์ทราบถึงการกระทำละเมิดของจำเลยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2532 ระบุชัดว่า ผู้ใดเป็นผู้ต้องรับผิดชอบทางแพ่งต่อโจทก์ และเป็นผู้แทนโจทก์ตาม พ.ร.บ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 39 ฉะนั้นจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2532 โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2534 จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5894/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีละเมิด: การรับรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิด
นายกเทศมนตรีเป็นผู้แทนโจทก์ตามพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ. 2496 มาตรา 39 และตามรายงานการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งก็ระบุชัดถึงผู้ต้องรับผิดชอบทางแพ่งต่อโจทก์จึงฟังได้ว่าโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่ปรากฏในรายงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5894/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิด: การรู้ถึงการละเมิดและตัวผู้รับผิดชอบ
ตามรายงานการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งของคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดทางแพ่งที่รายงานให้ส. ในฐานะนายกเทศมนตรีของเทศบาลโจทก์ทราบถึงการกระทำละเมิดของจำเลยเมื่อวันที่10พฤศจิกายน2532ระบุชัดว่าผู้ใดเป็นผู้ต้องรับผิดชอบทางแพ่งต่อโจทก์และเป็นผู้แทนโจทก์ตามพระราชบัญญัติเทศบาลพ.ศ.2496มาตรา39ฉะนั้นจึงฟังได้ว่าโจทก์ได้รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในวันที่10พฤศจิกายน2532โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่31พฤษภาคม2534จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5888/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ค่าเสียหายจากการขุดดินละเมิด ศาลแก้คำพิพากษาให้ชำระค่าถมดินและสร้างเขื่อนตามสภาพจริง
คำขอท้ายฟ้องของโจทก์กำหนดให้จำเลยกระทำการชำระหนี้หลายอย่างทีละอย่างก่อนหลังตามลำดับ เมื่อไม่สามารถกระทำอย่างแรกแล้วให้กระทำอย่างหลัง เมื่อการชำระหนี้อย่างแรกยังไม่ตกเป็นพ้นวิสัยการกำหนดให้จำเลยทั้งสามและจำเลยร่วมร่วมกันชำระหนี้เป็นเงินซึ่งเป็นการชำระหนี้อย่างหลังไปเสียทีเดียว จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 202

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5827/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยไม่ต้องรับผิดละเมิดต่อโจทก์จากการยึดรถของเจ้าพนักงานตำรวจ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ยอมส่งตัวลูกจ้างที่ขับรถยนต์พิพาทไปเกิดอุบัติเหตุไปให้พนักงานสอบสวนและไม่นำรถยนต์พิพาทไปมอบให้พนักงานสอบสวนต่อมาเมื่อโจทก์และจำเลยเลิกสัญญาเช่าต่อกัน และจำเลยมอบรถยนต์พิพาทให้โจทก์แล้วเจ้าพนักงานตำรวจได้มายึดรถยนต์พิพาทไป การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เพราะไม่สามารถนำรถยนต์พิพาทไปให้เช่าได้ ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ดังนี้ การที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถยนต์พิพาทของโจทก์ไป เป็นการกระทำของเจ้าพนักงานตำรวจตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย มิใช่การกระทำของจำเลย จำเลยมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5806/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดกรรมการ – สิทธิเรียกร้องแทนเจ้าหนี้
โจทก์ฟ้องขอใช้สิทธิเรียกร้องแทนบริษัท บ. โดยอ้างว่าก่อนที่จำเลยจะพ้นจากการเป็นกรรมการบริษัท บ. จำเลยเบียดบังทรัพย์สินของบริษัท บ.ไปโดยทุจริต บริหารงานหรือจัดการทรัพย์สินของบริษัท บ.ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท บ. ซึ่งเท่ากับกล่าวอ้างว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อบริษัท บ. บริษัท บ.ชอบจะฟ้องร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยได้ โจทก์เป็นเจ้าหนี้ของบริษัท บ.ชอบจะใช้สิทธิตาม ป.พ.พ. มาตรา 1169 ฟ้องเรียกร้องบังคับเอาจากจำเลยแทนบริษัท บ.เท่าที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัท บ.อยู่ การเรียกร้องดังกล่าวเป็นการเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่กระทำละเมิดต่อบริษัท บ.มีอายุความตามมาตรา 448 เมื่อการกระทำละเมิดเกิดขณะจำเลยเป็นกรรมการบริษัท บ.อยู่ คือก่อนวันที่ 17 กันยายน 2525 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยลาออกจากบริษัท บ. โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 23 กันยายน 2535 พ้นกำหนดสิบปีนับแต่วันที่จำเลยได้กระทำละเมิดแล้ว คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5806/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดกรรมการบริษัท: เริ่มนับแต่วันกระทำละเมิด หรือวันที่พ้นตำแหน่ง
จำเลยซึ่งเป็นกรรมการบริษัทกระทำละเมิดต่อบริษัทบริษัทชอบที่จะฟ้องร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่บริษัทรู้ถึง การกระทำละเมิดและรู้ว่าจำเลยต้องใช้สินไหมทดแทนหรือภายในกำหนดสิบปีนับแต่วันกระทำละเมิดโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทชอบที่จะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 ฟ้องเรียกร้องบังคับเอาจากจำเลยแทนเท่าที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัทเมื่อจำเลยกระทำละเมิดขณะที่เป็นกรรมการบริษัท คือก่อนวันที่ 17 กันยายน 2525 โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 23กันยายน 2535 ซึ่งพ้นกำหนดสิบปีนับแต่วันที่จำเลยกระทำผิดคดีของโจทก์จึงขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5806/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดจากกรรมการบริษัท: นับแต่วันกระทำละเมิด หรือ วันพ้นตำแหน่ง?
โจทก์ฟ้องขอใช้สิทธิเรียกร้องแทนบริษัทบ. โดยอ้างว่าก่อนที่จำเลยจะพ้นจากการเป็นกรรมการบริษัทบ. จำเลยเบียดบังทรัพย์สินของบริษัทบ.ไปโดยทุจริตบริหารงานหรือจัดการทรัพย์สินของบริษัทบ. ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทบ.ซึ่งเท่ากับกล่าวอ้างว่าจำเลยละเมิดต่อบริษัทบ.บริษัทบ.ชอบจะฟ้องร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยได้โจทก์เป็นเจ้าหนี้ของบริษัทบ.ชอบจะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1169ฟ้องเรียกร้องบังคับเอาจากจำเลยแทนบริษัทบ.เท่าที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องแก่บริษัทบ.อยู่การเรียกร้องดังกล่าวเป็นการเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยที่กระทำละเมิดต่อบริษัทบ.มีอายุความตามมาตรา448เมื่อการกระทำละเมิดเกิดขณะจำเลยเป็นกรรมการบริษัทบ.อยู่คือก่อนวันที่17กันยายน2525ซึ่งเป็นวันที่จำเลยลาออกจากบริษัทบ. โจทก์ยื่นฟ้องวันที่23กันยายน2535พ้นกำหนดสิบปีนับแต่วันที่จำเลยได้กระทำละเมิดแล้วคดีของโจทก์จึงขาดอายุความ
of 278