พบผลลัพธ์ทั้งหมด 486 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1234/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในประเด็นสัญญาเช่าซื้อ: การเรียกร้องค่าเช่าที่ดินที่จำเลยให้เช่าต่อ
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อ โดยอ้างว่าโจทก์ครอบครองที่ดินที่จำเลยให้โจทก์เช่าซื้อแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมให้โจทก์ได้รับค่าเช่าที่ดินที่บุคคลอื่นเช่าที่ดินที่โจทก์เช่าซื้อนั้น จึงขอให้จำเลยส่งเงินค่าเช่าที่ดินที่จำเลยรับจากผู้เช่าให้โจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้องโดยเหตุว่าจำเลยมิได้ผิดสัญญา เพราะที่ดินที่เช่าซื้อยังเป็นของจำเลย การเช่ามิได้โอนไปยังโจทก์ การครอบครองที่ดินที่เช่าซื้อเป็นคนละส่วนกับการที่จะได้รับค่าเช่าเพราะมิได้มีสัญญาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์มาฟ้องจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้ออีก โดยอ้างว่าจำเลยไม่ส่งมอบการครอบครองที่ดินไม่โอนสิทธิที่จำเลยให้บุคคลอื่นเช่าที่ดินให้โจทก์ จำเลยคงเก็บค่าเช่าจากผู้เช่าซ้อนค่าเช่าซื้อตลอดมา ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยส่งมอบที่ดินให้โจทก์ครอบครองตามสัญญาเช่าซื้อ ให้ใช้ค่าเสียหายระหว่างเช่าซื้อจนกว่าจะส่งมอบที่ดินให้โจทก์ ดังนี้เห็นได้ว่าเป็นประเด็นเดียวกันกับคดีก่อนคือ จำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อหรือไม่ ในข้อที่ไม่ยอมให้โจทก์ได้รับเงินค่าเช่าจากผู้เช่า โจทก์จะเรียกเงินนี้ว่าค่าเช่าหรือค่าเสียหายก็ไม่มีผลต่างกัน เพราะเป็นข้ออ้างว่าจำเลยไม่ชำระหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อ ในกรณีเดียวกันนั่นเองจึงเป็นฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ: สิทธิของผู้ให้เช่าในการบอกเลิกสัญญาเมื่อผู้เช่าไม่ใช้สิทธิซื้อ และความชอบธรรมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
สัญญาเช่าเคหะมีข้อความว่า " ถ้าผู้ให้เช่าตกลงขายทรัพย์สินที่เช่าให้แก่ผู้ใดก่อนครบกำหนดการเช่าตามสัญญาแล้ว ผู้ให้เช่าจะแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้า เพื่อผู้เช่าเตรียมตัวออกจากทรัพย์สินที่เช่าเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือน และผู้ให้เช่าจะต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบด้วยว่า จะตกลงขายให้แก่ผู้ใด เป็นเงินเท่าใด เพื่อผู้เช่าจะได้มีโอกาสตกลงซื้อได้ก่อนในเมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควร" ถ้าโจทก์ผู้ให้เช่าได้ปฏิบัติตามสัญญานี้แล้ว จำเลยเพิกเฉย ไม่จัดการอย่างใด ถือได้ว่าตอนนี้จำเลยเลือกเอาในทางไม่ซื้อที่ดินเป็นการยอมออกจากที่ดินตามที่ได้เคยตกลงกันไว้ในสัญญา ความยินยอมตามสัญญาข้อนี้ถือได้ว่า เป็นความยินยอมตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2489 มาตรา 16 ข้อ 5 ไม่ใช่ความยินยอม ที่ขัดหรือหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ แต่อย่างใด โจทก์มีสิทธิให้จำเลยเลิกใช้ทรัพย์สินที่เช่านี้ได้ตามข้อสัญญา (ควรดูฎีกาที่ 1597/2494) (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2503)
แม้ว่าจะพ้นกำหนด 1 ปี ตามสัญญาเช่าเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยยังเช่ากันอยู่ตราบใดข้อความในสัญญาเช่าเดิมก็ยังคงใช้บังคับกันได้อยู่
แม้ว่าจะพ้นกำหนด 1 ปี ตามสัญญาเช่าเดิม แต่เมื่อโจทก์จำเลยยังเช่ากันอยู่ตราบใดข้อความในสัญญาเช่าเดิมก็ยังคงใช้บังคับกันได้อยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1192/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อย่อมมีผลเหนือกว่าบทบัญญัติทั่วไป แม้จะสอดคล้องกับกฎหมาย
ข้อสัญญาว่า ผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดใด ผู้ให้เช่าซื้อเลิกสัญญาและริบเงินที่ชำระแล้วได้นั้นใช้บังคับได้ ไม่ขัดกับ มาตรา 574 ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ใช้เมื่อคู่สัญญาไม่ตกลงกันไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อกับเช่าทรัพย์เป็นคนละประเภทกัน ไม่อาจนำบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการเช่าทรัพย์มาใช้บังคับกับสัญญาเช่าซื้อได้
การเช่าซื้อกับเช่าทรัพย์เป็นเอกเทศสัญญาคนละประเภทจะนำพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันไปใช้ในการเช่าซื้อไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย vs. สัญญาเช่าซื้อ: การวินิจฉัยจากลักษณะของสัญญาและข้อตกลง
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันว่า จำเลยจะขายโรงเรือนพิพาทเป็นเงิน 42000 บาทแก่โจทก์ โดยจะไปโอนกรรมสิทธิกันตามกฎหมาย เมื่อได้ชำระเงินเสร็จแล้ว ในวันทำสัญญาชำระเงิน 12000 บาทภายในสิ้นเดือนกรกฎา, สิงหา, และกันยา ศกนั้น ชำระอีกงวดละหมื่นบาท และมีเงื่อนไขว่าถ้านายหมาจั๊วผู้เช่าไม่สามารถจะใช้เรือนโรงนี้ประกอบการค้าฝิ่นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคมจำเลยจะยอมซื้อคืนด้วยราคาเดิม โดยระหว่างนั้นจำเลยถูกเจ้าของที่ฟ้องขับไล่เรือนโรงรายนี้อยู่ ดังนี้ สัญญานี้จึงเป็นสัญญาจะขาย ไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1204/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะขาย vs. สัญญาเช่าซื้อ: การโอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระเงินครบถ้วน
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันว่า จำเลยจะขายโรงเรือนพิพาทเป็นเงิน 42000 บาทแก่โจทก์ โดยจะไปโอนกรรมสิทธิ์กันตามกฎหมาย เมื่อได้ชำระเงินเสร็จแล้ว ในวันทำสัญญาชำระเงิน 12000 บาทภายในสิ้นเดือนกรกฎา,สิงหา,และกันยาศกนั้น ชำระอีกงวดละหมื่นบาท และมีเงื่อนไขว่าถ้านายหมาจั๊วผู้เช่าไม่สามารถจะใช้เรือนโรงนี้ประกอบการค้าฝิ่นจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม จำเลยจะยอมซื้อคืนด้วยราคาเดิม โดยระหว่างนั้นจำเลยถูกเจ้าของที่ฟ้องขับไล่เรือนโรงรายนี้อยู่ ดังนี้ สัญญานี้จึงเป็นสัญญาจะขาย ไม่ใช่สัญญาเช่าซื้อ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน vs. สัญญาเช่าซื้อ: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า "ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ" เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมฤดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปีย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ vs. สัญญาจะซื้อขาย: การขาดอายุความฟ้องร้อง
ตามสัญญากล่าวว่า 'ผู้เช่าซื้อยอมให้ผู้ให้เช่าเรียกร้องราคาที่นาเมื่อหนึ่งเมื่อใดได้ ในเมื่อผู้ให้เช่าต้องการ' เช่นนี้ไม่ได้ตกลงกันว่าจะใช้เงินกันเป็นจำนวนเท่านั้นเท่านี้คราว ไม่เป็นสัญญาเช่าซื้อ แต่เป็นสัญญาจะซื้อขาย
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
สัญญาจะซื้อขายที่ดินกันนั้น ถ้าผู้ซื้อไม่ฟ้องขอให้ผู้รับมรดกผู้ขายโอนที่ดินภายใน 1 ปี ย่อมขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อระงับจากเหตุสุดวิสัย: การยึดทรัพย์โดยกองทหาร
โจทก์จำเลยทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์กัน ระหว่างคู่สัญญากำลังปฏิบัติตามสัญญานั้นอยู่ กองทหารญี่ปุ่นได้ยึดเอารถยนต์ที่เช่ากันนั้นไปเสียดังนี้สัญญาเช่าย่อมระงับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 572/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทสัญญาเช่าซื้อ/ซื้อขาย ไม่เป็นปัญหาความสงบเรียบร้อยของประชาชน อุทธรณ์ต้องห้าม
ข้อความที่คู่ความยกขึ้นอ้างอิงจะเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายปัญหามีว่า จะเป็นสัญญาเช่าซื้อหรือเป็นสัญญา ซื้อขายนั้น ไม่ใช่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน อ้างฎีกาที่ 1153/2480