พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,182 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2257/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายต่อการเป็นตัวแทน และผลผูกพันตามสัญญา
บริษัทจำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เปิดบัญชีเดินสะพัดกระแสรายวันกับโจทก์ โดย มีเงื่อนไขในการสั่งจ่ายให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้เซ็น สั่งจ่ายพร้อมประทับตราของจำเลยที่ 1โดย ไม่คำนึงถึง ป. กับกรรมการอื่น ซึ่ง เป็นผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 1 ตาม หนังสือรับรองของ กระทรวงพาณิชย์ เมื่อจำเลยที่ 2ในนามของจำเลยที่ 1 ได้ ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีต่อ โจทก์และยินยอมให้โจทก์เพิ่มดอกเบี้ย ในการกู้เบิกเงินเกินบัญชี ทั้งได้ นำเงินฝากเข้าบัญชีและถอนเงินตลอดมา ถือได้ว่าจำเลยที่ 1ยินยอมให้จำเลยที่ 2 เชิด ตัวเองเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินบัญชีจำเลยที่ 1 จึงต้อง ผูกพันรับผิดในการที่จำเลยที่ 2 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 821.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกของตัวแทนธนาคาร: ธนาคารเป็นผู้เสียหายจากการไม่ส่งมอบเงินที่รับชำระหนี้
จำเลยเป็นพนักงานพิธีการสินเชื่อของธนาคาร ก. มีหน้าที่รับชำระหนี้แทนธนาคาร ก. เงินที่จำเลยรับไว้เป็นของธนาคาร ก.จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก ธนาคาร ก. จึงเป็นผู้เสียหาย การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดยักยอกทรัพย์ของตัวแทนธนาคาร: ธนาคารเป็นผู้เสียหายจากการไม่ส่งมอบเงินที่รับชำระหนี้
จำเลยเป็นพนักงานพิธีการสินเชื่อของธนาคาร ก. มีหน้าที่รับชำระหนี้แทนธนาคาร ก. เงินที่จำเลยรับไว้เป็นของธนาคาร ก.จำเลยเบียดบังเอาเงินนั้นไปเป็นของตนโดยทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอก ธนาคาร ก. เป็นผู้เสียหาย
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
การไปรับฝากเงินนอกสถานที่เป็นกิจการของธนาคารที่มอบหมายให้จำเลยกระทำ จำเลยจึงเป็นตัวแทนของธนาคาร ก..
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ประกอบการขนส่งและตัวแทน กรณีเกิดละเมิดจากการขนส่ง
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกคันดังกล่าว แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อรถคันนั้นไป แต่จำเลยก็ยังยื่นขอต่ออายุทะเบียนรถและหาได้บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว แก่ทางราชการไม่กลับยอมให้ ว. ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อจำเลยอีกต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยและ ว. ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคลและ ว. เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าวเมื่อ ว. ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทน จำเลยซึ่งเป็นตัวการต้องร่วมรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427, 820 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3480/2530)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของเจ้าของรถและตัวแทนในการขนส่ง: การร่วมกันกระทำละเมิดและฐานะตัวการ-ตัวแทน
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วยรถบรรทุกคันนั้น แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อรถคันนั้นไป แต่จำเลยก็ยังยื่นขอต่ออายุทะเบียนรถ และหาได้บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัวแก่ทางราชการไม่ กลับยอมให้ ว.ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อจำเลยอีกต่อไปพฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลย และ ว.ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคล และ ว.เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าว เมื่อว.ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้องรับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทน จำเลยซึ่งเป็นตัวการต้องร่วมรับผิดด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427,820
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2161/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของผู้ให้เช่าซื้อรถบรรทุกเมื่อร่วมประกอบการขนส่งและเกิดละเมิด
จำเลยเป็นเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุและได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลด้วย รถบรรทุกคันดังกล่าว แม้จำเลยจะให้ ว. เช่าซื้อ รถคันนั้นไป แต่ จำเลยก็ยังยื่นขอต่อ อายุทะเบียนรถ และหาได้ บอกเลิกการประกอบการขนส่งที่เป็นสิทธิเฉพาะตัว แก่ทางราชการไม่กลับยอมให้ ว. ขับรถคันเกิดเหตุไปประกอบการขนส่งในชื่อ จำเลยอีกต่อไป พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยและ ว. ร่วมกันประกอบการขนส่งส่วนบุคคลและ ว. เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการดังกล่าวเมื่อ ว. ขับรถไปกระทำละเมิดอันต้อง รับผิดชดใช้ให้โจทก์ภายในขอบอำนาจแห่งฐานะ ตัวแทน จำเลยซึ่ง เป็น ตัวการต้อง ร่วม รับผิดด้วย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 427820(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3480/2530).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำเลยห้างหุ้นส่วนจำกัด โดยผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเป็นบุคคลอื่น
การที่โจทก์กล่าวในฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ซึ่ง เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดออกเช็ค โดย มีจำเลยที่ 2 ซึ่ง เป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดลงลายมือชื่อสั่งจ่ายและประทับตราของจำเลยที่ 1แม้ข้อเท็จจริงตาม ทางพิจารณาจะได้ความว่า ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย มิใช่จำเลยที่ 2 ก็เป็นเพียงข้อแตกต่างในรายละเอียดของการบรรยายฟ้องอันเกี่ยวกับตัว ผู้ทำการแทนนิติบุคคลเท่านั้น มิใช่ข้อแตกต่างในข้อสาระสำคัญอันจะเป็นเหตุให้ศาลลงโทษจำเลยที่ 1 ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษี: หลักฐานการซื้อขายดอกฝ้ายไม่น่าเชื่อถือ, การยอมรับการประเมินของตัวแทนโจทก์
โจทก์ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมทอฝ้าย ปั่นฝ้าย และจำหน่ายฝ้าย โจทก์อ้างว่า ในปี พ.ศ. 2509-2520 โจทก์ซื้อดอกฝ้ายจากพ่อค้า ชาวไร่ และสหกรณ์ในหลายจังหวัดเป็นเงิน 48 ล้านบาทเศษและ 43 ล้านบาทเศษตามลำดับ โดยซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาที่ปรากฏในวารสารฝ้ายและสิ่งทอ แต่ใบเสร็จรับเงินที่โจทก์นำมาแสดงเป็นแบบพิมพ์ที่โจทก์จัดทำขึ้นเอง โจทก์จึงมีโอกาสที่จะกรอกแบบพิมพ์เหล่านี้ให้ผิดไปจากความเป็นจริงได้โดยง่าย เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบเกี่ยวกับราคาดอกฝ้ายไม่มีน้ำหนัก ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อดอกฝ้ายตามราคาที่อ้าง การที่จำเลยสุ่มตัวอย่างราคาดอกฝ้ายตามใบเสร็จรับเงินในแต่ละเดือนแล้วนำราคามาถัวเฉลี่ยเป็นราคาดอกฝ้ายนั้น ถือเป็นวิธีการที่มีเหตุผล เมื่อปรากฏว่าราคาถัวเฉลี่ยของดอกฝ้ายดังกล่าวมีราคาต่ำกว่าราคาดอกฝ้ายที่โจทก์อ้างข้างต้น จึงถือตามราคาถัวเฉลี่ยดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ้างงานโดยคณะกรรมการอาคารชุด: ไม่อาจถือเป็นตัวแทนจำเลยที่ 1 และไม่อยู่ภายใต้ประกาศคุ้มครองแรงงาน
เดิมจำเลยที่ 1 จ้างเหมาบริษัทเอกชนดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดและรักษาความปลอดภัยในบริเวณเคหะชุมชนคลองจั่น ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2526 จำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 ซึ่งเป็นคณะกรรมการอาคารชุดเคหะชุมชนคลองจั่นรับงานดังกล่าวมาดำเนินการเอง จำเลยที่ 1 เพียงแต่ให้เงินอุดหนุนเท่านั้น ส่วนการบริหารงานจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 มีอำนาจอิสระอย่างเด็ดขาดไม่จำต้องฟังคำสั่งของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ก็ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในการบริหารงาน กรณีไม่อาจถือว่าจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงไม่เป็นนายจ้างของโจทก์ทั้งสิบห้าซึ่งจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 จ้างเข้ามาทำงานดังกล่าว และแม้กิจการของจำเลยที่ 1 เป็นกิจการที่แสวงกำไรในทางเศรษฐกิจก็หาทำให้กิจการของจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 กลายเป็นกิจการที่แสวงกำไรในทางเศรษฐกิจไปด้วยไม่ การจ้างงานของจำเลยที่ 2 ถึง ที่ 61 จึงไม่อยู่ในบังคับของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1481/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง: คณะกรรมการอาคารชุดไม่ใช่ตัวแทนจำเลยที่ 1 แม้มีการสนับสนุนทางการเงิน
เดิมจำเลยที่ 1 เป็นผู้ดำเนินการเกี่ยวกับการรักษาความสะอาดและรักษาความปลอดภัยในบริเวณเคหะชุมชนคลองจั่น ต่อมาจำเลยที่ 1ได้อนุมัติให้คณะกรรมการอาคารชุดเคหะชุมชนคลองจั่นซึ่งมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 61 เป็นกรรมการไปดำเนินการและรับผิดชอบในการบริหารงานจำเลยที่ 2 ถึงที่ 61 มีอำนาจอิสระอย่างเด็ดขาดไม่จำต้องฟังคำสั่งของจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้เข้าเกี่ยวข้องเพียงแต่ให้เงินอุดหนุนเท่านั้น จึงไม่อาจถือว่าจำเลยที่ 2ถึงที่ 61 เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 ในการดำเนินการดังกล่าว การจ้างงานระหว่างจำเลยที่ 2 ถึงที่ 61 กับโจทก์เพื่อทำงานรักษาความสะอาด และรักษาความปลอดภัยในบริเวณเคหะชุมชน เป็นการจ้างงานที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงกำไรในทางเศรษฐกิจ