พบผลลัพธ์ทั้งหมด 581 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าที่ดินเมื่อมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ และผลกระทบเมื่อกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างเปลี่ยนมือ
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าที่ดินจาก นายหยินเจ้าของที่ แต่ปรากฏว่ามีผู้ละเมิด เข้าไปปลูกห้องแถวในที่เช่าแปลงนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน อยู่ก่อนแล้ว ดังนี้ ผู้เช่ายังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้ปลูกห้องแถวและผู้อยู่ ให้ออกไปจากที่เช่า เพราะเป็นเรื่องผู้เช่าจะว่ากล่าว เอาแก่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญา ให้ส่งมอบการครอบครองที่เช่าให้แก่ตนทั้งหมด
มีผู้เช่าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของทีดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองไปแล้ว เจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้าง ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว
มีผู้เช่าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของทีดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองไปแล้ว เจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้าง ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าและเจ้าของที่ดินกรณีมีผู้บุกรุก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าที่ดินจากเจ้าของที่แต่ปรากฏว่ามีผู้ละเมิดเข้าไปปลูกห้องแถวในที่เช่าแปลงนั้นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินอยู่ก่อนแล้ว ดังนี้ผู้เช่ายังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้ปลูกห้องแถวและผู้อยู่ให้ออกไปจากที่เช่าเพราะเป็นเรื่องผู้เช่าจะว่ากล่าวเอาแก่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญา ให้ส่งมอบการครอบครองที่เช่าให้แก่ตนทั้งหมด
มีผู้เข้าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองไปแล้วเจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้างขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว
มีผู้เข้าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้รับจำนองไปแล้วเจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้างขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่นำสืบ และอำนาจฟ้องของผู้เช่า
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 316/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีเช่านา: เจ้าของนามีสิทธิฟ้องบังคับได้ทันทีเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการอำเภอ
คณะกรรมการอำเภอมีคำสั่งให้ผู้เช่านาคืนนาที่เช่าให้แก่เจ้าของนาตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 แต่ผุ้เช่านาขัดขืนไม่ยอมคืนและยังคงเข้าทำนานั้นอยู่ต่อไปอีก เช่นนี้ เจ้าของนาชอบที่จะเสนอคดีพิพาทนั้นต่อศาลได้ทันที ไม่จำต้องรอให้พ้นกำหนด 20 วันตาม พ.ร.บ.ควยคุมการเช่านา พ.ศ. 2493 มาตรา 14 เพราะกรณีเป็นคนละเรื่องกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงที่ผู้ให้เช่าเดิมยินยอม ผู้เช่าช่วงมีหน้าที่รับผิดต่อผู้ให้เช่าเดิมโดยตรง ไม่ใช่บริวารของผู้เช่า
การเช่าช่วงโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมนั้น ผู้เช่าช่วงย่อมต้องรับผิดต่อให้เช่าเดิมโดยตรงตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 545 ผู้เช่าช่วงจึงหาใช่เป็นบริวารของผู้เช่าไม่
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแต่ลำพัง โดยไม่ได้ฟ้องผู้เช่าช่วงเป็นจำเลยด้วย แม้ศาลจะพิพากษาขับไล่ผู้เช่าออกจากที่เช่าแล้วก็ดี ถ้าการเช่าช่วงนั้น ได้กระทำไปโดยผู้ให้เช่าเดิมยินยอมแล้ว โจทก์จะขอให้ขับไล่ผู้เช่าช่วงในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่าซึ่งเป็นจำเลยไม่ได้ ชอบที่จะว่ากล่าวกันต่างหากจากคดีนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1459/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเพื่อค้า: ค่ากินเปล่าไม่ถือเป็นความเสียหายเมื่อยังสามารถเรียกเก็บจากผู้เช่ารายใหม่ได้
ห้องเช่าอยู่ในทำเลการค้าผู้เช่าเปิดห้องเป็นร้านค้า ใช้ชื่อว่า"วีระ" ทำการตัดเสื้อผ้าขาย รับสอนการเย็บเสื้อผ้า เสียภาษีโรงค้า และประเภทร้านค้า ภาษีป้ายดังนี้เป็นเรื่องเช่าเพื่อประกอบกิจการค้าและธุรกิจ ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่า โดยเรียกค่าเสียหายคือเงินค่ากินเปล่า ซึ่งมีผู้มาบอกให้ ถ้าผู้เช่าออกจากห้องนั้นไปด้วยนั้น เงินค่ากินเปล่าเป็นค่าทดแทนในการเข้าครอบครอง ผู้ให้เช่ายังมีโอกาสที่จะเรียกเงินค่ากินเปล่าจากผู้ที่จะเข้าครอบครองในภายหน้าได้ จึงยังไม่ถือว่าผู้ให้เช่าได้รับความเสียหายในข้อนี้ จึงเรียกจากผู้เช่าไม่ได้
ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากห้องเช่า โดยเรียกค่าเสียหายคือเงินค่ากินเปล่า ซึ่งมีผู้มาบอกให้ ถ้าผู้เช่าออกจากห้องนั้นไปด้วยนั้น เงินค่ากินเปล่าเป็นค่าทดแทนในการเข้าครอบครอง ผู้ให้เช่ายังมีโอกาสที่จะเรียกเงินค่ากินเปล่าจากผู้ที่จะเข้าครอบครองในภายหน้าได้ จึงยังไม่ถือว่าผู้ให้เช่าได้รับความเสียหายในข้อนี้ จึงเรียกจากผู้เช่าไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าเมื่อมีการซื้อขายที่ดิน ผู้รับโอนย่อมได้รับสิทธิและหน้าที่เดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท โดยอ้างว่า โจทก์ซื้อกรรมสิทธิจากเจ้าของเดิมจำเลยเป็นผู้อาศัย จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นผู้เช่าจากเจ้าของเดิมไม่ใช่อาศัย จำเลยไม่ได้คัดค้านว่าโจทก์ไม่มีกรรมสิทธิในที่พิพาทโอนกรรมสิทธิมาเป็นของผู้ใดไม่ทราบ หากโอนมาเป็นของโจทก์ๆ ย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ ซึ่งมีต่อผู้เช่าด้วยเท่านั้น ดังนี้ จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องนำโฉนดหรือหนังสือสัญญาซื้อขายมาแสดงต่อศาล เพราะไม่มีประเด็นในคดีว่า โจทก์ไม่ได้รับโอนที่ดินพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1113/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของคนต่างด้าวในการฟ้องร้องคดีที่ดินมรดก ผู้เช่าไม่อาจโต้แย้งสิทธิผู้ให้เช่า
คนต่างด้าวจะมีกรรมสิทธิในที่ดินได้เพียงใด หรือไม่เป็นเรื่องระหว่างรัฐกับคนต่างด้าวเมื่อคนต่างด้าวได้รับมรดกที่ดินของบุตรมา คนต่างด้าวผู้เป็นบิดา ก็ย่อมมีสิทธิเหนือที่ดินนั้นและย่อมมีสิทธิฟ้องผู้เช่าที่ดินนั้นเมื่อผู้เช่าผิดสัญญาเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีขับไล่ผู้ครอบครองห้องเช่าที่เข้ามาในฐานะบริวารของผู้เช่าเดิม: เป็นคดีมโนสาเร่ตาม ป.ม.วิ.แพ่ง ม.189(1)
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้องเช่าของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ผู้เช่าออกจากห้องเช่าไปแล้ว จำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่จำเลยต่อสิว่าจำเลยเป็นผู้เช่าเอง ดังนี้ ย่อมเป็นคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าตามความหมายของป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 189(1) เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 874/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เช่า vs. ผู้ครอบครอง: คดีขับไล่และการบังคับใช้มาตรา 189(1) ว.พ.พ.
โจทก์ฟ้องกล่าวว่าจำเลยเข้าอยู่ในห้องเช่าของโจทก์ในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ผู้เช่าออกจากห้องเช่าไปแล้วจำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าจำเลยเป็นผู้เช่าเองดังนี้ ย่อมเป็นคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 189(1)เช่นเดียวกัน