พบผลลัพธ์ทั้งหมด 831 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2985/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาเกินกำหนดตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
พระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ.2520 มาตรา 2,3 ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้ในศาลจังหวัด ซึ่งยังมิได้ มีศาลแขวงเปิดทำการ สำหรับคดีอาญาที่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไมเกิน หกพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เจ้าพนักงานจับจำเลยในกระทงความผิด ฐานควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรยนต์โดยใช้ประกาศนียบัตรที่สิ้นอายุพร้อมกับกระทงความผิดฐานดูดทรายในแม่น้ำเจ้าพระยาอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันโดยมิได้รับอนุญาต เมื่อกระทงความผิดฐานควบคุมเรือยนต์และเครื่องจักรยนต์โดยใช้ประกาศนียบัตรสิ้นอายุกฎหมายกำหนดอัตราโทษไว้จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท จึงต้องนำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้กับความผิดกระทงนี้ โดยพนักงานสอบสวนต้องส่งจำเลยให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องในกระทงความผิดนี้ภายใน 72 ชั่วโมงนับแต่มีการจับกุมหรือต้องขอผัดฟ้องไว้ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499 เมื่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการมิได้ขอผัดฟ้อง และนำตัวจำเลยมาฟ้องหลังจากที่จับกุมในข้อหาดังกล่าวเกินกำหนดเวลาในมาตรา 7 โดยมิได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการตามมาตรา 9 จึงเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติในมาตรา 7 และ 9 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนต้องยื่นฟ้องภายใน 30 วัน หรือขอผัดฟ้อง หากพ้นกำหนดต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการ
การฟ้องคดีเด็กและเยาวชนจะต้องอยู่ในบังคับของมาตรา 24 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ทั้งสิ้น กล่าวคือจะต้องยื่นฟ้องต่อศาลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เด็กหรือเยาวชนถูกจับกุม หรือได้รับอนุญาตจากศาลให้ผัดฟ้องได้เป็นคราว ๆ ไป หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะฟ้องคดีได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการแม้จะเป็นการฟ้องคดีตามคำชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 10/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2430/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนในการฟ้องคดีอาญา: เจตนาทุจริตและฐานความผิด
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยกับ ฮ. ได้กระบือ 3 ตัวของผู้เสียหายมาไว้ในครอบครอง แล้วจำเลยกับ ฮ. ร่วมกันเอากระบือของผู้เสียหายดังกล่าว ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย จำเลยทุจริต ใช้ จ้าง วาน ฮ. ไปหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อส่งมอบกระบือให้ ได้กระบือมาโดยเจตนาฉ้อโกงแต่แรก หรือมิฉะนั้นมีเจตนาทุจริตคิดยักยอกกระบือที่ผู้เสียหายมอบให้ ภายหลังที่ได้กระบือมาครอบครอง ดังนี้เป็นการบรรยายว่า จำเลยได้กระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง มิใช่กระทำความผิดสองฐานในคราวเดียวกัน ฟ้องของโจทก์ไม่ขัดกัน จำเลยมีความตั้งใจอย่างไรเป็นเรื่องในใจของจำเลย ซึ่งจำเลยควรเข้าใจข้อหาได้ดีว่าโจทก์ฟ้องจำเลยว่ากระทำความผิดอย่างใด ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2151/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขาย, การผิดสัญญา, เบี้ยปรับ, การลดเบี้ยปรับ, และการฟ้องคดีที่มิเคลือบคลุม
โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด การฟ้องคดีไม่จำเป็นต้องบรรยายมาในคำฟ้องด้วยว่าโจทก์มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าอะไร เพราะวัตถุประสงค์ของโจทก์จะประกอบกิจการค้าอะไรมิใช้ข้อหาอันกฎหมายบังคับต้องบรรยายให้ชัดแจ้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 โจทก์บรรยายฟ้องข้อหาว่าจำเลยผิดสัญญาซื้อขายรวมทั้งอ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหานั้นแล้ว ซึ่งจำเลยก็ให้การต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ฟ้องโจทก์ จึงไม่เคลือบคลุม
สัญญาซื้อขายค่าความยินยอมและกิจการซักรีด ไม่ใช่ตราสารหรือเอกสารตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ในประมวลรัษฎากร ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องปิดอากรแสตมป์ จึงไม่ต้องปิดอากรแสตมป์และรับฟังเป็นพยานหลักฐานฟ้องคดีนี้ได้
โจทก์จำเลยมีข้อสัญญากันว่าหากจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่างวดติดต่อกัน 3 งวด โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและจำเลยยินยอมเสียค่าปรับจำนวนหนึ่งกับชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง โจทก์ก็มีสิทธิเลิกสัญญา จำเลยนอกจากจะต้องใช้ค่างวดที่ค้างชำระ และค่าซ่อมแซมทรัพย์สินอันเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งแล้ว จำเลยจะต้องเสียค่าปรับหรือเบี้ยปรับอันเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าตามข้อกำหนดในสัญญาด้วย แต่เมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับตามสัญญาส่วนนี้กำหนดไว้สูงไป ก็ชอบที่จะลดเบี้ยปรับลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
สัญญาซื้อขายค่าความยินยอมและกิจการซักรีด ไม่ใช่ตราสารหรือเอกสารตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ในประมวลรัษฎากร ซึ่งกฎหมายบังคับให้ต้องปิดอากรแสตมป์ จึงไม่ต้องปิดอากรแสตมป์และรับฟังเป็นพยานหลักฐานฟ้องคดีนี้ได้
โจทก์จำเลยมีข้อสัญญากันว่าหากจำเลยผิดนัดไม่ชำระค่างวดติดต่อกัน 3 งวด โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาและจำเลยยินยอมเสียค่าปรับจำนวนหนึ่งกับชดใช้ค่าเสียหายทั้งสิ้น เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาโดยไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง โจทก์ก็มีสิทธิเลิกสัญญา จำเลยนอกจากจะต้องใช้ค่างวดที่ค้างชำระ และค่าซ่อมแซมทรัพย์สินอันเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งแล้ว จำเลยจะต้องเสียค่าปรับหรือเบี้ยปรับอันเป็นค่าเสียหายส่วนหนึ่งที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าตามข้อกำหนดในสัญญาด้วย แต่เมื่อศาลเห็นว่าเบี้ยปรับตามสัญญาส่วนนี้กำหนดไว้สูงไป ก็ชอบที่จะลดเบี้ยปรับลงได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2119/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาค้ำประกันการขายลดตั๋วเงิน: ฟ้องคดีภายใน 10 ปีนับจากวันครบกำหนดตามสัญญา
เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 1 รับผิดในมูลหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วเงินที่จำเลยที่ 1 ทำไว้ต่อโจทก์ และให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ค้ำประกันการขายลดตั๋วเงินดังกล่าว หาได้ฟ้องจำเลยให้รับผิดในมูลหนี้ตามตั๋วแลกเงินไม่สัญญาขายลดตั๋วเงินไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะดังนั้น จึงต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 คือมีกำหนดอายุความ 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์หลังฟ้องคดี การระงับคดีอาญาเฉพาะการร้องทุกข์ ไม่กระทบต่อคดีที่ฟ้องต่อศาล
การถอนคำร้องทุกข์ที่จะทำให้คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้นต้องเป็นการถอนโดยเจตนาที่จะไม่เอาความแก่จำเลยอีกต่อไป แต่การที่โจทก์ขอถอนคำร้องทุกข์โดยเหตุที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานหลักฐานของโจทก์อีก จึงคงระงับไปแต่เฉพาะเรื่องการร้องทุกข์ ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลไว้แล้วนั้นหาระงับไปไม่ ศาลย่อมดำเนินคดีต่อไปได้ เสมือนว่าไม่มีการร้องทุกข์มาก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 162/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องระงับเมื่อมีการฟ้องคดีอาญาเดียวกัน และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว แม้ฟ้องก่อน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงไว้ก่อนในข้อหาบุกรุกทำให้เสียทรัพย์ คดีอยู่ระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้อง อัยการศาลมณฑลทหารบกที่ 3 (อัยการจังหวัดนครราชสีมา) ฟ้องจำเลยในมูลกรณีเดียวกันต่อศาลมณฑลทหารบกที่ 3 (ศาลจังหวัดนครราชสีมา) ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อนว่าจำเลยมิได้กระทำความผิด คดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ เห็นว่า การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านอันเป็นเคหะสถานและฆ่าสุกรของโจทก์นั้น เป็นการกระทำที่ประสงค์ต่อผลในการลักสุกรหรือฆ่าสุกร การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อปรากฏว่าจำเลยถูกฟ้องเกี่ยวกับการกระทำครั้งเดียวกันนี้ในข้อหาพยายามลักทรัพย์ และศาลได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้ว แม้โจทก์จะได้ยื่นฟ้องคดีไว้ก่อนคดีดังกล่าวก็ตาม แต่คดีที่อัยการฟ้องนั้นศาลได้มีคำพิพากษาก่อน สิทธิจของโจทก์ที่ได้ฟ้องไว้แล้วย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีเงินทดแทนเกินกำหนด 30 วันตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นเหตุให้หมดสิทธิฟ้อง
ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องอัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบการจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทนและการอุทธรณ์ ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2516 ข้อ 25 ว่า ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน ให้ยื่นฟ้องต่อศาลได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี้ออกโดยอาศัยอำนาจที่ให้ไว้ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ย่อมมีสภาพบังคับเป็นกฎหมาย ดังนั้น ถ้าโจทก์ไม่พอใจคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทน โดยจะยื่นฟ้องต่อศาล โจทก์จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าว เมื่อโจทก์ฟ้องคดีเกินกว่าสามสิบวัน นับแต่วันที่ทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โจทก์ก็ไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสัญญาจ้างทำของ และเขตอำนาจศาล: คดีเกิดที่ไหน ฟ้องที่ไหน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยว่าจ้างโจทก์ต่อตัวถังรถยนต์ราคา 50,000 บาท จำเลยมอบเงินให้โจทก์ไปแล้ว 15,000 บาท ที่เหลือ 35,000 บาท จำเลยชำระเป็นเช็ค แต่เช็คขึ้นเงินไม่ได้ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินค่าต่อตัวถังรถยนต์ที่ค้างชำระ ดังนี้เป็นการฟ้องตามมูลสัญญาจ้างทำของ กรณีต้องบังคับในเรื่องอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ตามมูลสัญญาจ้างทำของ โจทก์จึงมีอำนาจขออนุญาตฟ้องที่ศาล ซึ่งมูลคดีเกิดขึ้นในเขตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 (2)
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ตามมูลสัญญาจ้างทำของ โจทก์จึงมีอำนาจขออนุญาตฟ้องที่ศาล ซึ่งมูลคดีเกิดขึ้นในเขตได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1046/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีซื้อขายที่ดิน: ทราบถึงการเสียชีวิตของผู้ขายแล้วฟ้องเกิน 1 ปี
โจทก์ทราบว่า ป. ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 แต่โจทก์มาฟ้องคดีในปี 2519 เพื่อบังคับให้ทายาทของ ป. โอนที่ดินตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ ป. ทำไว้กับโจทก์ คดีโจทก์ขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม