พบผลลัพธ์ทั้งหมด 703 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการรับฟ้องและลงโทษอาญา: การรับฟ้องตามมาตรา 118 รวมถึงมาตรา 158 และการลงโทษตามบทที่มีอัตราโทษหนัก
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จและทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118,158,268, 270 ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งให้รับฟ้องเฉพาะข้อหาฐานแจ้งความเท็จ ส่วนข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสระภาพให้ยกเสีย ดังนี้ย่อมรวมถึงให้รับฟ้องตามมาตรา 158 ที่โจทก์ขอมาในฟ้องด้วย เพราะมาตรา 158 ก็เป็นบทเรื่องแจ้งความเท็จหากพิเศษกว่ามาตรา118 ขึ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีซ้ำซ้อน: ศาลไม่รับฟ้องคดีเดิม หากมีคดีอาญาเดียวกันถูกพิจารณาและมีคำพิพากษาแล้ว แม้ฟ้องก่อน
เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหาว่าสมคบกันฆ่าบุตรโจทก์ตายโดยไม่เจตนาตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ศาลจึงสั่งนัดไต่สวน ในระหว่างนั้นอัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกันนี้ หาว่าจำเลยกับบุตรเจ้าทุกข์วิวาทกันและ บุตรเจ้าทุกข์ตาย ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253
จำเลยรับสารภาพตามที่อัยการฟ้อง ศาลจึงพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 คดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ สำหรับ คดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ฟ้องไว้ก่อนนั้น แม้จะได้ยื่นคำฟ้องไว้ก่อน แต่ศาลก็ยังมิได้ไต่สวนและประทับฟ้อง กรณีจึงต้องด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) ศาลจึงต้องไม่รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2496)
จำเลยรับสารภาพตามที่อัยการฟ้อง ศาลจึงพิพากษาในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า จำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 253 คดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ สำหรับ คดีที่เจ้าทุกข์เป็นโจทก์ฟ้องไว้ก่อนนั้น แม้จะได้ยื่นคำฟ้องไว้ก่อน แต่ศาลก็ยังมิได้ไต่สวนและประทับฟ้อง กรณีจึงต้องด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) ศาลจึงต้องไม่รับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2496)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 110/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการยักยอกทรัพย์และการใช้เงินคืน แม้มีการฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้อื่น
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานยักยอกทรัพย์และขอให้จำเลยคืน หรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยักยอกไปด้วยนั้น แม้จะปรากฎว่าได้มีการฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยยักยอกไปนั้นจากผู้อื่น ซึ่งอาจต้องรับผิดด้วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อปรากฎว่าความจริงยังมิได้รับใช้เงิน จำเลยก็ยังคงต้องรับผิดใช้เงินที่จำเลยได้ยักยอกไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษทางอาญาตามฟ้อง: ศาลไม่ลงโทษฐานประมาท หากโจทก์ไม่ประสงค์
ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าคนและฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บสาหัสแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยกระทำให้เขาเกิดบาดเจ็บสาหัสโดยประมาท ดังนี้ ศาลจะลงโทษจำเลยฐานประมาทไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในฐานนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาในความผิดสมคบกันลักทรัพย์ และผลของการรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทั้งสามสมคบกันลักทรัพย์ของผู้มีชื่อ ขอให้ลงโทษ จำเลยคนหนึ่งรับสารภาพตามฟ้อง ส่วนจำเลยอีกสองคนปฏิเสธ ครั้นเมื่อพิจารณาไป ศาลสงสัยพยานโจทก์จึงปล่อยจำเลยทั้ง 2 คนที่ปฏิเสธไป ส่วนจำเลยที่รับสารภาพนั้น ศาลย่อมพิพากษาลงโทษฐานลักทรัพย์โดยมีพรรคพวกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญา: หน้าที่การสืบพยานเมื่อจำเลยอ้างได้รับการนิรโทษกรรม
โจทก์ฟ้องว่าขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญาและขอให้เพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 72 จำเลยให้การรับว่าข้อเคยต้องโทษตามฟ้องนั้น จำเลยได้รับนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พ.ศ. 2489 แล้ว ดังนี้เท่ากับเถียงว่าเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ โจทก์จึงต้องมีหน้าที่นำสืบ เมื่อโจทก์จำเลยต่างไม่สืบพยาน ศาลก็เพิ่มโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยถูกยั่ว การลดโทษทางอาญาจากเหตุยั่วยุ
พี่สะใภ้ขอแรงเพื่อนบ้านให้มาช่วยถากถางที่พิพาทซึ่งจำเลยมั่นใจว่าเป็นที่ของจำเลยจำเลยจึงเอาปืนติดตัวไปพูดห้าม แต่พี่สะใภ้กลับโต้เถียงว่าเป็นที่ของพี่สะใภ้ และยังด่าจำเลยเป็นคำหยาบและด่าถึงพ่อแม่จำเลย จำเลยบันดาลโทสะขึ้นมาจึงเอาปืนที่ติดตัวไปนั้นยิงพี่สะใภ้ตาย ดังนี้ ถือว่าเป็นการกระทำโดยถูกยั่ว ได้ลดโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษอาญาเนื่องจากเคยต้องโทษและกระทำผิดซ้ำภายใน 5 ปี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานหลักทรัพย์และขอให้เพิ่มโทษฐานไม่เข็ดหลาบ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยเคยต้องโทษฐานรับของโจรมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ละครั้งมีกำหนดจำคุกเกินกว่า 6 เดือน ดังปรากฏตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง พ้นโทษครั้งสุดท้ายมากระทำความผิดในคดีนี้อีกภายใน 5 ปีไม่เข็ดหลาบ ขอให้ลงโทษและเพิ่มโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 74
จำเลยให้การรับว่า เคยต้องโทษมาหลายครั้งตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และพ้นโทษครั้งสุดท้ายมายังไม่เกิน 5 ปีจริงดังฟ้องโจทก์ ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ตามใบแดงแจ้งโทษจำเลยเคยต้องโทษมา 5 ครั้งๆที่ 5 ต้องโทษฐานรับของโจรจำทุก 8 เดือนพ้นโทษมายังไม่เกิน 3 ปี ก็มากระทำผิดคดีนี้อีก ก็ต้องฟังว่าคำรับของจำเลยแปลความได้ว่ารับรวมทั้งพ้นโทษตามใบแดงแจ้งโทษด้วย จึงเพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตารา 73 ได้
จำเลยให้การรับว่า เคยต้องโทษมาหลายครั้งตามใบแดงแจ้งโทษท้ายฟ้อง และพ้นโทษครั้งสุดท้ายมายังไม่เกิน 5 ปีจริงดังฟ้องโจทก์ ดังนี้เมื่อปรากฏว่า ตามใบแดงแจ้งโทษจำเลยเคยต้องโทษมา 5 ครั้งๆที่ 5 ต้องโทษฐานรับของโจรจำทุก 8 เดือนพ้นโทษมายังไม่เกิน 3 ปี ก็มากระทำผิดคดีนี้อีก ก็ต้องฟังว่าคำรับของจำเลยแปลความได้ว่ารับรวมทั้งพ้นโทษตามใบแดงแจ้งโทษด้วย จึงเพิ่มโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตารา 73 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยินยอมให้ผู้ไม่มีใบอนุญาตขับรถ: ความรับผิดทางอาญาและ พ.ร.บ.รถยนต์
จำเลยยินยอมให้ผู้อื่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ขับรถยนต์คันที่จำเลยขับ โดยจำเลยนั่งไปด้วยแล้วผู้นั้นขับโดยประมาท เป็นเหตุให้รถชนกับรถคันอื่น มีคนบาดเจ็บสาหัส ดังนี้
จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับ และจะปรับเอาผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกคั่นหนึ่งต่างหาก ซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้รับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้
จะเอาผิดแก่จำเลยฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสไม่ได้ เพราะจำเลยมิได้ขับ และจะปรับเอาผิดฐานขับรถโดยประมาททำให้คนบาดเจ็บสาหัสก็ไม่ได้ เพราะความผิดในฐานที่ทำให้คนบาดเจ็บสาหัสโดยประมาทเป็นการกระทำอีกคั่นหนึ่งต่างหาก ซึ่งเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้รับเอง จะถือว่าเป็นการสมคบหรือสมรู้กันกระทำมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลูกพืชรุกล้ำทางหลวงไม่เป็นความผิดทางอาญา
จำเลยปลูกพืชผลทำสวนครัวรุกล้ำเข้าไปในทางหลวง เป็นเหตุให้ขัดข้องแก่ความสะดวกในการไปมาของสาธารณชนนั้น ยังไม่ต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(1),(2) (อ้างฎีกาที่ 411/2494)