พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุวรรคของมาตรา 340 ในความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้อง
จำเลยกระทำผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน แต่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี โดยไม่ระบุมาตรา 340 วรรคใดนั้น ไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ถูกต้องเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 340 ตรี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน: การระบุวรรคของมาตรา 340 ในคำพิพากษา
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นคนร้ายปล้นทรัพย์โดยจำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนติดตัวเพื่อกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 วรรคสอง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 340 โดยไม่ได้ระบุวรรคใด นั้นไม่ถูกต้อง สมควรระบุเสียให้ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1764/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนา: การย้อนกลับมาก่อเหตุด้วยอาวุธปืนหลังการโต้เถียง ไม่ถือเป็นการป้องกันตัว
จำเลยมีอาชีพขับรถยนต์สามล้อรับจ้าง บ. กับพวกจะว่าจ้างรถของจำเลยให้ไปส่ง แต่ได้เกิดโต้เถียง กับจำเลย บ. ได้ตบท้ายทอยจำเลยทำให้จำเลยโกรธ จำเลยขับรถยนต์สามล้อออกไปห่าง40 เมตรแล้ว แต่กลับไปหยุดรถแล้วลงจากรถเอาอาวุธปืนสั้นเดิน เข้าไปหา บ. กับพวกแล้วยิง บ. 2 นัด จากนั้นจำเลยวิ่งหนีไปที่รถยนต์สามล้อของจำเลยผู้ตายและ บ. กับพวกวิ่งตามไปโดยไม่มีอาวุธ จำเลยยิงปืนมาอีก 2 นัด ถูกผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตายเช่นนี้เหตุที่จำเลยถูก บ. ตบ ท้ายทอยและการถกเถียง ได้สิ้นสุดกันไปแล้ว จำเลยก็ได้ขับรถออกไปห่างไกลจนไม่มีภยันตรายแล้ว การที่จำเลยย้อน กลับมาโดยมีอาวุธปืนติดมือมาด้วยแสดงให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจมาทำร้าย บ. กับพวกเนื่องจากมีสาเหตุกันมาก่อน การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจึงเป็นการฆ่าผู้ตายโดยเจตนา จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุขึ้นเองจะอ้างว่ากระทำไปโดยเป็นการป้องกันหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนของสมาชิก อพป. เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
จำเลยเป็นสมาชิก อพป. มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน ได้รับแจกอาวุธปืนคาร์บินและกระสุนปืนของกลาง ซึ่งเป็นของทางราชการไว้ใช้ประจำตัว เพื่อปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้าน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานมีและพาอาวุธปืน ฯ.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีอาญา: พยานแวดล้อม, คำรับสารภาพ, และการพิสูจน์ความผิดฐานมีอาวุธปืน
เมื่อประจักษ์พยานโจทก์มาเบิกความต่อศาล แต่รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนร้าย คำเบิกความนั้นย่อมเป็นพยานชั้นหนึ่ง แม้คำให้การชั้นสอบสวนของประจักษ์พยานนั้นจะมีใจความว่า จำได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายก็เป็นเพียงพยานชั้นสอง ศาลต้องฟังคำเบิกความในชั้นพิจารณาเป็นสำคัญ
แม้คดีไม่มีประจักษ์พยาน ศาลก็รับฟังพยานแวดล้อมกรณีหลังเกิดเหตุของโจทก์ ประกอบกับคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยลงโทษจำเลยได้
เมื่อคดีฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายยิงผู้ตายในรถโดยสารประจำทางโดยไม่ปรากฏว่า จำเลยหยิบฉวยอาวุธปืนจากที่ใดในรถโดยสารประจำทางมายิงโดยปัจจุบันทันที ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่า จำเลยพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยต้องมีความผิดฐานพาอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ไม่มีอาวุธปืนอันเป็นวัตถุพยานมาแสดงเป็นหลักฐาน และไม่มีพยานมาพิสูจน์ความผิดว่าอาวุธปืนที่จำเลยยิงผู้ตายเป็นอาวุธปืนประเภทตามฟ้องหรือไม่ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้.(ที่มา-เนติ)
แม้คดีไม่มีประจักษ์พยาน ศาลก็รับฟังพยานแวดล้อมกรณีหลังเกิดเหตุของโจทก์ ประกอบกับคำให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยลงโทษจำเลยได้
เมื่อคดีฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนร้ายยิงผู้ตายในรถโดยสารประจำทางโดยไม่ปรากฏว่า จำเลยหยิบฉวยอาวุธปืนจากที่ใดในรถโดยสารประจำทางมายิงโดยปัจจุบันทันที ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่า จำเลยพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยต้องมีความผิดฐานพาอาวุธปืน ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ไม่มีอาวุธปืนอันเป็นวัตถุพยานมาแสดงเป็นหลักฐาน และไม่มีพยานมาพิสูจน์ความผิดว่าอาวุธปืนที่จำเลยยิงผู้ตายเป็นอาวุธปืนประเภทตามฟ้องหรือไม่ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้.(ที่มา-เนติ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตได้ ถือเป็นกรรมเดียว
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ ฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้กับฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้นั้น เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกัน บทมาตราที่บัญญัติให้เป็นความผิดก็เป็นมาตราเดียวกัน วัตถุที่ต้องห้ามนั้นไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน กฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกัน ฉะนั้น การมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ในขณะเดียวกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตได้ ถือเป็นกรรมเดียวเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯฐานมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้กับฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้นั้นเจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้เป็นความผิดในลักษณะเดียวกันบทมาตราที่บัญญัติให้เป็นความผิดก็เป็นมาตราเดียวกันวัตถุที่ต้องห้ามนั้นไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนกฎหมายถือว่าเป็นวัตถุประเภทเดียวกันฉะนั้นการมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ในขณะเดียวกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไม่ถือเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย
การกระทำซึ่งจะเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตาม ป.อ.มาตรา68ต้องเป็นการกระทำโดยเจตนาจำเลยเอาอาวุธปืนออกมาขู่ผู้ตายและทำปืนลั่นโดยประมาทถูกผู้ตายถึงแก่ความตายไม่ใช่กระทำโดยเจตนาการกระทำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการป้องกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่แจ้งการโอน ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ต้องริบ หากเป็นปืนที่มีทะเบียน
จำเลยซื้ออาวุธปืนลูกซองยาวของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนมาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนโดยมิได้มีการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้อง ความผิดของจำเลยเป็นความผิดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากนายทะเบียนทอ้งที่เท่านั้น อาวุธปืนดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 54/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้ออาวุธปืนที่มีทะเบียนโดยไม่แจ้งโอน การริบของกลาง
จำเลยซื้ออาวุธปืนลูกซองยาวของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนมาจากผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนโดยมิได้มีการโอนทางทะเบียนให้ถูกต้อง ความผิดของจำเลยเป็นความผิดในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนจากนายทะเบียนท้องที่เท่านั้นอาวุธปืนดังกล่าวจึงมิใช่ทรัพย์สินที่มีไว้เป็นความผิดอันจะพึงต้องริบตาม ป.อ.มาตรา32.