คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิกถอน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,035 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3384/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการเพิกถอนการขายทอดตลาด: จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 8 วันนับแต่ทราบเหตุ
จำเลยฎีกาว่า ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้แบ่งแยกที่ดินทางด้านทิศเหนือให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่โจทก์และจำเลยต้องนำเจ้าพนักงานไปรังวัดแบ่งแยกให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับยึดที่ดินทั้งแปลงและขายทอดตลาดไปนั้น เป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองจำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีนั้นเสีย ไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นจำเลยทราบการยึดที่ดินทั้งแปลงของเจ้าพนักงานบังคับคดีตั้งแต่วันที่โจทก์นำยึด แต่เพิ่งมายื่นคำร้องในภายหลังครบกำหนด 8 วันมาช้านานแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ (จำเลยเพิ่งยกปัญหาว่าการยึดและการขายทอดตลาดเป็นการนอกเหนือคำพิพากษาศาลชั้นต้นในชั้นฎีกา เดิมศาลชั้นต้นสั่งไม่รับในประเด็นข้อนี้ แต่ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งให้รับ เพราะเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 2629/2534) ในวันขายทอดตลาดจำเลยได้มาดูแลการขาย แต่กลับไปก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเขียนรายงานการขายทอดตลาดที่ดินให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุด แสดงว่าจำเลยได้ทราบในวันนั้นเองว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินไปในราคาที่อ้างว่าต่ำกว่าราคาปกติจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันดังกล่าว ทั้งตามคำร้องของจำเลยก็ไม่ได้มีข้อความอันเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้อนี้จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3354/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดิน ส.ค.1 โดยการส่งมอบการครอบครองสมบูรณ์ ทำให้ข้อกำหนดพินัยกรรมเดิมเพิกถอนได้
ที่ดินพิพาทเป็นที่ดิน ส.ค.1 เมื่อยังไม่ได้รับคำรับรองจากนายอำเภอว่าได้ทำประโยชน์แล้ว จึงไม่สามารถจดทะเบียนโอนให้แก่กันได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ดังนั้นการโอนไปซึ่งการครอบครองนั้นย่อมทำได้โดยส่งมอบ เมื่อ อ.ส่งมอบการครอบครองให้แก่ห.ซึ่งเป็นมารดาโจทก์ครอบครองที่ดินพิพาทไว้แทนโจทก์ การยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ดังกล่าวจึงสมบูรณ์ ถือได้ว่า ก. ผู้ทำพินัยกรรมได้โอนไปโดยสมบูรณ์ซึ่งทรัพย์สินอันเป็นวัตถุแห่งข้อกำหนดพินัยกรรมด้วยความตั้งใจ ข้อกำหนดพินัยกรรมเกี่ยวกับที่ดินพิพาทที่ ก.ทำไว้แต่เดิมเพื่อยกที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยนั้น เป็นอันเพิกถอนไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1696

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3273/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการฝากเงินของผู้ชำระบัญชีที่ไม่สุจริตในคดีล้มละลาย
จำเลยเป็นบริษัทเงินทุนถูกกระทรวงการคลังสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเงินทุนอันเป็นเหตุให้บริษัทจำเลยต้องเลิกไปตามกฎหมาย ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นผู้ชำระบัญชี รวบรวมทรัพย์สินได้เงินสดจำนวนหนึ่ง โจทก์ยื่นฟ้องขอให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลายเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2527 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2527ผู้คัดค้านที่ 1 ในฐานะผู้ชำระบัญชีของบริษัทจำเลย ได้นำเงินสดของบริษัทจำเลยไปฝากไว้กับธนาคารผู้คัดค้านที่ 2 ถือได้ว่าเป็นการกระทำเกี่ยวกับทรัพย์สินของบริษัทจำเลยตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 114 ขณะรับฝากเงินผู้คัดค้านที่ 2 ทราบอยู่แล้วว่าบริษัทจำเลยเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ซึ่งจะต้องถูกเพิกถอน การที่ผู้คัดค้านที่ 2 จะได้รับประโยชน์จากการฝากเงินของจำเลยหรือไม่ มิใช่ข้อสาระสำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2588/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการจำนองก่อนล้มละลาย: วันที่จดทะเบียนสำคัญกว่าวันยื่นคำขอ
การจำนองที่ได้กระทำไว้ในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนมีการขอให้ล้มละลายซึ่งจะต้องถูกเพิกถอนตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 นั้น มาตรา 115 ถือเอาวันที่จดทะเบียนจำนองเป็นวันนับระยะเวลาดังกล่าว มิใช่ถือเอาวันที่ลูกหนี้และผู้รับจำนองไปแจ้งความจำนงขอจดทะเบียนจำนอง เพราะว่าจำนองเป็นสัญญาอย่างหนึ่งซึ่งมีผลเมื่อมีการจดทะเบียนการจำนอง ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 115 ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้เพิกถอนการกระทำของลูกหนี้ได้โดยอาศัยเพียงลูกหนี้ได้กระทำโดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งได้เปรียบเหนือเจ้าหนี้อื่น หาได้บัญญัติถึงความสุจริตและมีค่าตอบแทนของผู้ถูกเพิกถอนไม่ จึงไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นข้อนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2566/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดที่ดินและการเพิกถอน หากราคาประเมินต่ำกว่าตลาดและชำระหนี้ได้ ศาลต้องไต่สวนข้อเท็จจริง
เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยที่ 3 จำนวน2 แปลง จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องว่าที่ดินแปลงที่ 2 มีราคาเพียงพอชำระหนี้ ขอให้ระงับการขายที่ดินแปลงที่ 1 กับอ้างว่าการประเมินราคาและการขายทอดตลาดที่ดินทั้งสองแปลงต่ำกว่าราคาท้องตลาดทำให้จำเลยที่ 3 เสียหาย หากเป็นจริงก็ชอบที่จะขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนคำร้องของ จำเลยที่ 3 เสียก่อนที่จะพิจารณาสั่ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาด: สิทธิของผู้ซื้อและผลกระทบต่อการฟ้องเพิกถอนการฉ้อฉล
การขายทอดตลาดฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสองนั้นถ้าศาลสั่งเพิกถอนการขาย มีผลเสมือนไม่มีการขาย แม้มีการโอนทรัพย์นั้นให้ผู้ซื้อ แล้วก็จะต้องเพิกถอนการโอนไม่ว่าผู้รับโอนจะสุจริตหรือเสียค่าตอบแทนหรือไม่ แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการเพิกถอนการขายทอดตลาด ผู้ซื้อมีสิทธิรับโอนทั้งมีสิทธิโอนให้ผู้อื่นโจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉล ตาม ป.พ.พ. มาตรา 237 ยังไม่ได้การรับโอนและการโอนไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 ดังนี้โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องผู้ซื้อและผู้รับโอนต่อ ๆ มาซึ่งทรัพย์นั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเพิกถอนการขายทอดตลาด: สิทธิผู้ซื้อจากการบังคับคดี vs. การเพิกถอนการขายที่ยังไม่มีคำสั่ง
การร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดย อ้างว่าได้ดำเนินการโดย ฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง นั้นหากศาลมีคำสั่งให้เพิกถอนการขาย ย่อมมีผลทำให้เสมือนไม่มีการขายแม้จะมีการโอนทรัพย์ให้ผู้ซื้อไปแล้ว ก็จะต้องเพิกถอนการโอนนั้นหรือหากผู้ซื้อได้โอนให้แก่บุคคลอื่นก่อนแล้วไม่ว่าจะโอนไปกี่ทอดและไม่ว่าผู้รับโอนจะสุจริตหรือเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ก็จะต้องเพิกถอนการโอนหมดเพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน แต่ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำสั่งให้เพิกถอนการขาย ตราบนั้นก็ยังต้องถือว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปโดยชอบ ผู้ซื้อย่อมมีสิทธิรับโอนทรัพย์นั้นมาและโอนต่อ ๆ ไปได้ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินอ้างว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปโดยมิชอบศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องเป็นคดีใหม่ขอให้เพิกถอนการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ดังนั้น เมื่อศาลยังไม่มีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดในคดีดังกล่าว จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิรับโอนที่ดินแปลงนี้ตามคำสั่งศาล และมีสิทธิโอนต่อให้แก่จำเลยที่ 2 ได้ เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีสิทธิรับโอนย่อมไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ ทั้งจำเลยที่ 1 ยังมิได้เป็นลูกหนี้ของโจทก์ที่โจทก์จะฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 ได้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการโอนทรัพย์จากการขายทอดตลาดและการไม่มีอำนาจฟ้องหากยังไม่มีคำสั่งเพิกถอน
คดีร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีโดยอ้างว่าได้ดำเนินการโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง นั้น หากศาลไต่สวนแล้วเห็นว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปโดยมิชอบก็จะมีคำสั่งให้เพิกถอนการขาย ซึ่งมีผลทำให้เสมือนไม่มีการขาย แม้จะมีการโอนทรัพย์ให้ผู้ซื้อไปแล้ว ก็จะต้องเพิกถอนการโอนนั้นหรือหากผู้ซื้อได้โอนให้แก่บุคคลอื่นก่อนแล้วไม่ว่าจะโอนไปกี่ทอดและไม่ว่าผู้รับโอนจะสุจริตหรือเสียค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ก็จะต้องเพิกถอนการโอนหมดเพราะผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำสั่งให้เพิกถอนการขายตราบนั้นก็ยังต้องถือว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปโดยชอบผู้ซื้อย่อมมีสิทธิรับโอนทรัพย์มาได้และมีสิทธิโอนต่อ ๆ ไปได้ ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ว่า โจทก์ยื่นคำร้องในคดีหมายเลขแดงที่ 265/2528ของศาลชั้นต้นขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินรายนี้อ้างว่าการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นไปโดยมิชอบ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องเป็นคดีนี้ เมื่อศาลยังไม่มีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดในคดีดังกล่าว จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้ซื้อจากการขายทอดตลาดย่อมมีสิทธิรับโอนที่ดินแปลงนี้ตามคำสั่งศาลและมีสิทธิโอนต่อให้แก่จำเลยที่ 2 เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 2 มีสิทธิรับโอนก็ย่อมไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์แต่อย่างไรและจำเลยที่ 1 ก็ยังมิได้เป็นลูกหนี้ของโจทก์ในการที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนการฉ้อฉลได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2122/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดต้องอ้างเหตุเจ้าพนักงานบังคับคดีฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ใช่แค่ราคาต่ำ
กรณีที่จะสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้นั้นต้องเป็นกรณีต้องด้วยมาตรา 296 วรรคสอง แห่ง ป.วิ.พ. คือเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง และเกิดการเสียหายแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีบุคคลดังกล่าวจึงจะมีสิทธิยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลก่อนการบังคับคดีเสร็จลง ขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน แต่ตามคำร้อง ของ จำเลยที่ 2 ซึ่งยื่นภายหลังที่มีการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทเพื่อให้เพิกถอนการขายทอดตลาด มิได้กล่าวอ้างเลยว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งตาม ป.วิ.พ.แต่อย่างใด เพียงแต่กล่าวอ้างว่าราคาทรัพย์พิพาทที่ผู้เข้าประมูลสู้ราคาประมูลต่ำไป จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1749/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนการขายทอดตลาดที่มิได้กระทำโดยตรงไปตรงมาเนื่องจาก collusion และความเกี่ยวข้องกับศาล
เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงจากการขายทอดตลาดว่า ผู้เข้าสู้ราคาสมคบกันกดราคาให้ต่ำจากราคาปกติไปมาก และผู้เข้าสู้ราคาทั้งหมดทำงานเกี่ยวข้องกับศาล ทำให้มีเหตุน่าเชื่อว่าการประมูลซื้อทรัพย์ของผู้ประกันในการขายทอดตลาดจะไม่ได้กระทำอย่างตรงไปตรงมา เป็นการฝ่าฝืนบทบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 308 เมื่อความปรากฏต่อศาลโดยชัดแจ้ง ศาลย่อมมีอำนาจสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่กระทำโดยไม่ชอบนั้นเสียเองได้ เพื่อให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมตามที่เห็นสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 และ 296 วรรคสอง
of 104