พบผลลัพธ์ทั้งหมด 638 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเองเหนือกว่าบันดาลโทสะ: การกระทำที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยเขาไถนาด้วยกันเมื่อไถนาเสร็จแล้วมีการเลี้ยงสุราอาหารผู้ตายกินอิ่มแล้วเดินไปที่จำเลย ตีศีรษะจำเลย 2 ทีแล้ววิ่งหนี จำเลยวิ่งไล่ไปทันที่คูน้ำข้างถนน เข้าปล้ำกัน ปรากฏว่าผู้ตายมีบาดแผลถูกแทง 6 แห่ง เป็นบาดแผลสาหัส 2 แห่ง ผู้ตายขาดใจตายในวันนั้น ดังนี้ เป็นเรื่องจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะหาใช่เป็นเรื่องป้องกันไม่
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำคุก15 ปี ลดโทษตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 จำคุก15 ปี ลดโทษตามมาตรา 59 หนึ่งในสาม คงจำคุก 10ปี ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะจึงลดโทษให้ตามมาตรา 55 อีกกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 ปี ดังนี้จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตได้หากมีเหตุผลและความจำเป็น
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานเพิ่งจะมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเอาในวันนัดสืบพยาน เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืน หากเป็นด้วยความจำเป็นจริงๆ แล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ตามคำร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1333-1334/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มเติมฟ้องคดีอาญา: ศาลอนุญาตได้แม้ไม่มีเหตุผลสนับสนุน หากเห็นสมควร
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจร ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่าเหตุเกิด ณ ที่ใด จำเลยจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าฟ้องของโจทก์ไม่สมบูรณ์ ในวันเดียวกันนั้นโจทก์จึงขอเพิ่มเติมฟ้องระบุว่า เกิดเหตุที่ตำบลใด ดังนี้ แม้ในคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องจะไม่แสดงเหตุอันสมควรที่จะขอเพิ่มเติมฟ้อง ศาลก็พิจารณาว่ามีเหตุอันสมควรได้เองและอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 801/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาและเหตุผลในการลดโทษ
เกิดต่อว่าโต้เถียงกันเรื่องเล็กน้อย แล้วจำเลยเอามีดของผู้ตายที่วางไว้ใช้ทางแบนตีศีรษะผู้ตายก่อน 2-3 ที เกิดต่อสู้กอดปล้ำกัน จำเลยแทงผู้ตายขณะกอดปล้ำกันชุลมุนเพียง 1 ที่ ผู้ตายตาย ดังนี้ฟังว่า จำเลยมิได้เจตนาฆ่ามีความผิดเพียงมาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า: การแทงผู้อื่นเพียงครั้งเดียว โดยไม่ปรากฏเหตุผลและอาวุธที่ใช้
จำเลยได้ลอบแทงผู้ตายทางข้างหลังเพียงครั้งเดียว(โดยไม่ปรากฏสาเหตุ) แผลทะลุใน ผู้ตายอยู่ได้ 30 นาที ก็ขาดใจตาย อาวุธที่จำเลยใช้ทำร้ายไม่ปรากฏชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ดังนี้ถึงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าผู้ตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1653/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดสืบพยานประเด็นและการยกฟ้องคดีอาญา: ศาลต้องพิจารณาเหตุผลก่อนยกฟ้อง
โจทก์ขาดนัดในชั้นสืบพยานประเด็น เมื่อปรากฏว่าได้สืบพยานโจทก์ไปแล้ว 2 ปากรวมทั้งตัวโจทก์ และโจทก์ก็ได้ยื่นคำร้องก่อนในวันเดียวกับที่ศาลพิพากษาเรื่องโจทก์ขาดนัดว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ขอให้นัดสืบพยานจำเลยเช่นนี้ยังไม่สมควรจะยกฟ้องโจทก์
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่า ให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 181 บัญญัติให้นำเอามาตรา 166 อันเป็นบทบัญญัติในชั้นไต่สวนมูลฟ้องมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาได้โดยอนุโลม ซึ่งหมายความว่า ให้ใช้ได้ตามควรแก่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดกฎหมายฝิ่น แม้มีเหตุผลเรื่องการจับกุมลูกจ้าง ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นเพื่อพ้นผิดได้
ผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นได้พาฝิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายในร้านออกนอกร้านฝิ่นไปเก็บไว้ที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นจะกล่าวอ้างว่าเพราะ ตำรวจจับลูกจ้างในร้านฝิ่นไปหมดนั้น ย่อมไม่ใช่เหตุฉุกเฉินร้ายแรงถึงขนาดที่จะอ้างเป็นความจำเป็นให้พ้นผิดได้ และจะอ้างว่าไม่มีเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 43 ก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน: พิจารณาจากพฤติการณ์และเหตุผลประกอบ
ตำรวจกำลังกอดปล้ำจับผู้กระทำผิดอยู่ จำเลยมาถึงก็ใช้ปืนยิงไป 1 นัดถูกตำรวจถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตาย และจำเลยกับผู้ตายก็เป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกันจำเลยคงมีความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาตามมาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 494/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในการทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาเหตุผลและความสมควรในการกระทำ
ฟ้องโจทก์กล่าวว่า จำเลยที่ 1 มีมีดซุยฝ่ายหนึ่ง จำเลย ที่ 2,3,4 อีกฝ่ายหนึ่ง ต่างสมัครใจเข้าวิวาททำร้ายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยที่ 1 ใช้มีดซุยแทงจำเลยที่2,3,4ใช้ขวานและไม้ตะบองตีจำเลยที่ 1ถึงบาดเจ็บ จำเลยที่ 3 มีแผลถูกแทงที่หน้าอก 1 แห่งบาดเจ็บสาหัส ดังนี้ ฟ้องของโจทก์พอเข้าใจได้ว่าจำเลยที่ 1 ใช้มีดซุยแทงถูกจำเลยที่ 3 ที่หน้าอก 1 แห่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106-2108/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีร้านค้าจากค่าเช่า ต้องมีเหตุผลแสดงว่าค่าเช่าที่ประเมินสูงกว่าค่าเช่าจริง
ผู้เสียภาษีฟ้องข้าหลวงประจำจังหวัดในเรื่องประเมินภาษีและเรียกภาษีที่เก็บเกินไปคืน และข้าหลวงประจำจังหวัดคนใหม่ขอเข้าเป็นจำเลยแทน ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ศาลย่อมรับพิจารณาคดีที่ฟ้องกันนั้น
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.
การประเมินภาษีร้านค้าจากเงินค่าเช่านั้นเจ้าพนักงานประเมินจะต้องมีเหตุผล เป็นข้อเท็จจริงที่จะแสดงว่า ร้านค้านั้น ๆ สมควรให้เช่าได้ในจำนวนเงินสูงกว่าค่าเช่าจริง จะเอาค่าเช่าของร้านค้ารายหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ฉะเพาะรายมาเป็นมาตรฐานว่าค่าเช่ารายอื่นต่ำเกินสมควรนั้นไม่ได้.