พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน: การพิจารณาอายุความตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จและกฎหมายปัจจุบันเมื่อที่ดินมีประวัติครอบครองก่อนมีการออกกฎหมาย
ที่พิพาทแม้โจทก์จะได้เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกมาแล้ว และในดคีอาญานั้นแม้ศาลจะได้พิจารณายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดทางอาญาโดยมิได้กล่าวถึงสิทธิในทางแพ่งแต่อย่างใด ต่อมาโจทก์จึงฟ้องคดีแพ่งขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท ดังนี้การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หรือจำเลยต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 47
เมื่อที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อนประกาศใช้ ป.พ.พ.บรรพ 4 และ พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 แล้ว ดังนี้แม้ที่พิพาทจะเป็นที่มือเปล่าก็ตาม ก็ต้องนำกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 มาใช้บังคับคดีโดยถืออายุความสละที่ดิน 9 ปี 10 ปีไม่ใช่อายุความ 1 ปี ตามนัยฎีกาที่ 759/2494.
(ฎีกาที่ 759/2494)
เมื่อที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อนประกาศใช้ ป.พ.พ.บรรพ 4 และ พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2479 แล้ว ดังนี้แม้ที่พิพาทจะเป็นที่มือเปล่าก็ตาม ก็ต้องนำกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 มาใช้บังคับคดีโดยถืออายุความสละที่ดิน 9 ปี 10 ปีไม่ใช่อายุความ 1 ปี ตามนัยฎีกาที่ 759/2494.
(ฎีกาที่ 759/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1570/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินพิพาท: อายุความสละที่ดิน 9/10 ปีใช้บังคับก่อน พ.ร.บ.ออกโฉนดฯ และข้อจำกัดการนำข้อเท็จจริงจากคดีอาญามาใช้ในคดีแพ่ง
ที่พิพาทแม้โจทก์จะได้เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาว่าจำเลยบุกรุกมาแล้ว และในคดีอาญานั้นแม้ศาลจะได้พิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดทางอาญาโดยมิได้กล่าวถึงสิทธิในทางแพ่งแต่อย่างใด ต่อมาโจทก์จึงฟ้องคดีแพ่งขอให้ศาลบังคับจำเลยและบริวารออกจากที่พิพาท ดังนี้การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์หรือจำเลยต้องเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอันว่าด้วยความรับผิดของบุคคลในทางแพ่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 47
เมื่อที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 และ พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 แล้ว ดังนี้แม้ที่พิพาทจะเป็นที่มือเปล่าก็ตาม ก็ต้องนำกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่42 มาใช้บังคับคดี โดยถืออายุความสละที่ดิน 9 ปี10 ปี ไม่ใช่อายุความ 1 ปี ตามนัยฎีกาที่ 759/2494 (ฎีกาที่ 759/2494)
เมื่อที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนมาก่อนประกาศใช้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 4 และ พระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน(ฉบับที่ 6) พ.ศ.2479 แล้ว ดังนี้แม้ที่พิพาทจะเป็นที่มือเปล่าก็ตาม ก็ต้องนำกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่42 มาใช้บังคับคดี โดยถืออายุความสละที่ดิน 9 ปี10 ปี ไม่ใช่อายุความ 1 ปี ตามนัยฎีกาที่ 759/2494 (ฎีกาที่ 759/2494)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การโต้แย้งอายุความของจำเลยตัดสิทธิการอ้างเหตุเพิ่งรู้เรื่องละเมิดของโจทก์
ในฟ้องโจทก์บรรยายว่าโจทก์เพิ่งทราบเหตุละเมิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2498 คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความในคำให้การจำเลยตัดฟ้องว่าโจทก์ทราบเหตุเรื่องนี้แล้วไม่ฟ้องเกิน 1 ปีแล้วคดีขาดอายุความ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งไว้แล้ว จะถือว่ารับตามฟ้องโจทก์ไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1568/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: จำเลยโต้แย้งการฟ้องเกินกำหนดอายุความได้ แม้โจทก์บรรยายวันที่ทราบเหตุ
ในฟ้องโจทก์บรรยายว่าโจทก์เพิ่งทราบเหตุละเมิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2498 คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ ในคำให้การจำเลยตัดฟ้องว่าโจทก์ทราบเหตุเรื่องนี้แล้วไม่ฟ้องเกิน 1 ปีแล้วคดีขาดอายุความ ดังนี้ ถือว่าจำเลยได้โต้แย้งไว้แล้ว จะถือว่ารับตามฟ้องโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตพยานเพิ่มเติมและการยกเหตุอายุความในชั้นฎีกา ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยระบุเอกสารเป็นพยานเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น การที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยโดยมิได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นวินิจฉัยอีกเป็นพิเศษ ต้องแปลว่าศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อนี้แล้ว เพราะเมื่อพยานหลักฐานของจำเลยที่เกี่ยวกับประเด็นโดยตรงไม่พอฟังแล้ว พยานเอกสารอันไม่เกี่ยวกับประเด็นก็ย่อมไม่สามารถช่วยคดีจำเลยซึ่งไม่มีน้ำหนักอยู่แล้ว ให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกได้
เรื่องอายุความเป็นปัญหาข้อกฏหมาย แต่เมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม มาตรา 249 วรรค1.
เรื่องอายุความเป็นปัญหาข้อกฏหมาย แต่เมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม มาตรา 249 วรรค1.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1484/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตพยานเพิ่มเติมและการยกอายุความในชั้นฎีกา ศาลยืนตามศาลอุทธรณ์
จำเลยระบุเอกสารเป็นพยานเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตโดยเห็นว่าไม่เกี่ยวกับประเด็น การที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของฝ่ายจำเลยโดยมิได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นวินิจฉัยอีกเป็นพิเศษ ต้องแปลว่าศาลอุทธรณ์ได้พิจารณาเห็นชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นในประเด็นข้อนี้แล้ว เพราะเมื่อพยานหลักฐานของจำเลยที่เกี่ยวกับประเด็นโดยตรงไม่พอฟังแล้ว พยานเอกสารอันไม่เกี่ยวกับประเด็น ก็ย่อมไม่สามารถช่วยคดีจำเลยซึ่งไม่มีน้ำหนักอยู่แล้ว ให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกได้
เรื่องอายุความเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
เรื่องอายุความเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยเพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกา จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1387/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของวัดในการฟ้องคดี, ความถูกต้องของพินัยกรรม, และอายุความกรณีทรัพย์สินของวัด
วัดเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายเจ้าอาวาสมีสิทธิฟ้องคดีในนามของวัดได้ และมีอำนาจมอบให้ผู้อื่นเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแทนตนได้
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิมพินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม มาตรา 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก
พยานลงชื่อในพินัยกรรมต่อหน้าผู้ทำพินัยกรรม ต่อมาอีก 3 วันผู้ทำพินัยกรรมจึงได้ลงลายพิมพ์นิ้วมือของตนต่อหน้าพยานชุดเดิมพินัยกรรมนั้นถูกต้องตาม มาตรา 1656
โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นของวัดซึ่งแต่แรกตกอยู่ที่เจ้าอาวาสองค์เก่าซึ่งมรณภาพไปแล้ว และอ้างว่าบัดนี้จำเลยยึดถือไว้โดยไม่มีอำนาจ คดีย่อมไม่มีปัญหาเรื่องอายุความมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภาระจำยอมโดยอายุความและการซื้อขายโดยไม่สุจริต ผู้ซื้อต้องผูกพันตามสิทธิที่มีอยู่เดิม
โจทก์ใช้ทางเดินผ่านที่โฉนด 2787 ไปออกทางสาธารณะมาเกิน 10 ปีโดยถือวิสาสะหรือเจ้าของยินยอมไม่โต้แย้ง โจทก์ย่อมได้มาซึ่งสิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ เมื่อจำเลยซื้อที่โฉนด 2787 โดยรู้ถึงสิทธินี้ของโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้ไปจดทะเบียนภาระจำยอมนี้ไว้ จำเลยก็ปิดทางเดิมหาได้ไม่จำเลยจะยกเอาการจดทะเบียนโอนซื้อมาใช้ยันแก่โจทก์ไม่ได้ เพราะเป็นไปโดยไม่สุจริต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอมโดยอายุความและการซื้อที่ดินโดยไม่สุจริต ผู้ซื้อต้องผูกพันตามสิทธิเดิม
โจทก์ใช้ทางเดินผ่านที่โฉนด 2787 ไปออกทางสาธารณะมาเกิน 10 ปีโดยถือวิสาสะหรือเจ้าของยินยอมไม่โต้แย้ง โจทก์ย่อมได้มาซึ่งสิทธิภาระจำยอมโดยอายุความ เมื่อจำเลยซื้อที่โฉนด 2787 โดยรู้ถึงสิทธินี้ของโจทก์ แม้โจทก์จะมิได้ไปจดทะเบียนภาระจำยอมนี้ไว้ จำเลยก็ปิดทางเดิมหาได้ไม่ จำเลยจะยกเอาการจดทะเบียนโอนซื้อมาใช้ยันแก่โจทก์ไม่ได้ เพราะเป็นไปโดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากการครอบครองที่พิพาทหลังคดีถึงที่สุด และอายุความในการฟ้องละเมิด
การที่คู่ความฝ่ายหนึ่งครอบครองที่พิพาทอยู่ระหว่างคดีนั้น คู่ความฝ่ายที่ครอบครองจะยกเอาสิทธิแห่งการครอบครองดังกล่าวนี้มายันคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา 2-3 ปี จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น
โจทก์ประมูลซื้อที่ได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วถูกจำเลยฟ้องกล่าวหาว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจริตไปยึดที่จำเลยมาขาย ขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์สู้คดี แต่มิได้ฟ้องแย้งเรียกค่าเสียหายในการที่จำเลยยังคงครอบครองที่นั้น ปล่อยจนคดีถึงที่สุด ซึ่งล่วงเลยมา 2-3 ปี จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดศาลให้ค่าเสียหายเพียง 1 ปี นอกนั้นขาดอายุความศาลไม่บังคับให้
คดีเรื่องก่อนจำเลยฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่เป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าเป็นของโจทก์ ได้สู้คดีกัน ในที่สุดโจทก์ชนะคดีเมื่อชนะคดีแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายที่จำเลยเข้าครอบครองที่นั้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคนละประเด็น