พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีมรดกต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการเสียชีวิตของเจ้ามรดก หากเกินกำหนดฟ้องขาดอายุความ
คดีมรดกต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตายหรือนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้รู้หรือควรจะได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดกตามมาตรา1754
โจทก์เป็นสามีผู้ตายเจ้ามรดก. เวลาเจ้ามรดกตายโจทก์ก็รู้และนับแต่วันตายมาถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้วทั้งมรดกที่พิพาทกันโจทก์ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองร่วมกับจำเลย(มารดาผู้ตาย)เช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกปิดบังทรัพย์โจทก์เพียงทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอยู่เมื่อระยะภายใน 1 ปีนี้เองอายุความตาม มาตรา 1754 ไม่บังคับถึงนั้นไม่ได้
โจทก์เป็นสามีผู้ตายเจ้ามรดก. เวลาเจ้ามรดกตายโจทก์ก็รู้และนับแต่วันตายมาถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้วทั้งมรดกที่พิพาทกันโจทก์ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองร่วมกับจำเลย(มารดาผู้ตาย)เช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกปิดบังทรัพย์โจทก์เพียงทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอยู่เมื่อระยะภายใน 1 ปีนี้เองอายุความตาม มาตรา 1754 ไม่บังคับถึงนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้กระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษ: ไม่ติดอายุความตาม ม.78 อาญา
การกักกันตาม พ.ร.บ.กักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งศาลจะพึงลงโทษแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องรับสำหรับเหตุร้ายที่กระทำไป ถึงแม้โทษครั้งหลังที่สุดที่จำเลยได้รับมาจะพ้น 9 ปี 6 เดือนแล้วก็ตามการขอให้กักกันในคดีนี้หาใช่เป็นเรื่องฟ้องความซึ่งมีกำหนดเวลาที่จะฟ้องตาม ก.ม.อาญา ม.78 ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาอีกบทหนึ่งแยกต่างหากจากโทษอาญาเดิม อายุความไม่ครอบคลุม
การกักกันตาม พระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเป็นโทษอาญาสถานหนึ่ง ซึ่งศาลจะพึงลงโทษแก่ผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายเพิ่มขึ้นอีกโสดหนึ่งต่างหากจากโทษอาญาอันผู้มีสันดานเป็นผู้ร้ายจะต้องรับสำหรับเหตุร้ายที่กระทำไป ถึงแม้โทษครั้งหลังที่สุดที่จำเลยได้รับจะพ้นมา 9 ปี 6 เดือนแล้วก็ตามการขอให้กักกันในคดีนี้หาใช่เป็นเรื่องฟ้องความซึ่งมีกำหนดเวลาที่จะฟ้องตามกฎหมายอาญา มาตรา78 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การติดตามทรัพย์สินคืน vs. การฟ้องเรียกค่าเสียหาย: อายุความต่างกัน
โจทก์ฟ้องเรียกเรือนครัวพิพาท++ เมื่อฟังว่าเรือนครัวพิพาทจำเลย++ให้โจทก์ ดังนี้คดีของโจทก์ที่เกี่ยวกับอายุความต้องบังคับตาม ป.พ.พ. ม.1336 เพราะเป็นการติดตามทรัพย์ของตนคืน มิใช่เป็นการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดตาม ป.พ.พ. ม.446.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกทรัพย์คืน: ไม่ใช่ละเมิด แต่เป็นการติดตามทรัพย์
โจทก์ฟ้องเรียกเรือนครัวพิพาทคืน เมื่อฟังว่าเรือนครัวพิพาทจำเลยยกให้โจทก์ ดังนี้คดีของโจทก์ที่เกี่ยวกับอายุความต้องบังคับตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1336 เพราะเป็นการติดตามทรัพย์ของตนคืน มิใช่เป็นการเรียกค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา446
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อทราบทั้งการละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิด
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม ม.448 นั้น ต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลิ่นเล่อก็ดี แต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแหล่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความละเมิด: เริ่มนับเมื่อรู้การละเมิดและตัวผู้ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่มารู้ว่ามีการยักยอก
การนับอายุความ 1 ปีเรื่องละเมิดตาม มาตรา448 นั้นต้องเริ่มนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบจากรายงานของกรรมการถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น หาใช่นับจากวันที่รู้ว่ามีผู้ยักยอกเงินของผู้เสียหายไม่
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
แม้ฟ้องของโจทก์ได้กล่าวหาถึงการกระทำของจำเลยทั้งจงใจและประมาทเลินเล่อก็ดีแต่ในฟ้องก็ได้กล่าวข้อเท็จจริงโดยละเอียดแล้วเป็นการแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาทั้งข้อที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว จึงเป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1926/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับสภาพหนี้และการหยุดอายุความ การฟ้องคดีเกิน 6 เดือนหลังคืนเรือไม่ขาดอายุความ
เมื่อเอกสารที่จำเลยมีไปถึงโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งว่ายอมรับซ่อมเรือให้ตามที่แจ้งมา ก็มีผลเท่ากับยอมรับสภาพตามสิทธิที่โจทก์เรียกร้อง อายุความย่อมสดุดหยุดลงตาม ม.132 ฉนั้นการฟ้องคดีแม้จะเกิน 6 เดือน นับแต่วันได้รับมอบเรือคืนก็หาขาดอายุความตาม ม.533 ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1926/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้และการหยุดอายุความจากการซ่อมเรือ
เมื่อเอกสารที่จำเลยมีไปถึงโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งว่ายอมรับซ่อมเรือให้ตามที่แจ้งมา ก็มีผลเท่ากับยอมรับสภาพตามสิทธิที่โจทก์เรียกร้อง อายุความย่อมสดุดหยุดลงตาม มาตรา 172 ฉะนั้นการฟ้องคดีแม้จะเกิน 6 เดือนนับแต่วันได้รับมอบเรือคืนก็หาขาดอายุความตาม มาตรา 533 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1872/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาระจำยอมโดยอายุความ: สิทธิใช้ทางในที่ดินของผู้อื่นต่อเนื่องกว่า 10 ปี
ทางที่ชาวนาข้างเคียงต่างนำเกวียนผ่านเมื่อสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวมากว่า 10 ปีทางนี้ย่อมตกอยู่ในภาวะจำยอมโดยอายุความ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของจำต้องยอมให้เกวียนผ่านเมื่อสิ้นฤดูเก็บเกี่ยว.