พบผลลัพธ์ทั้งหมด 671 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พิจารณาจากความโกรธเคืองและการเตรียมการ
ใช้ปืนยิงคนโดยมีความโกรธเคืองอันเนื่องจากสาเหตุไม่พอใจที่เกิดขึ้นก่อนเพียง 2 ชั่วโมง ถือว่าเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สำคัญผิดในข้อเท็จจริง & การป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ ทำให้ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยเป็นลูกเลี้ยงผู้ตายอยู่เรือนเดียวกับผู้ตาย คืนเกิดเหตุจำเลยนอนเฝ้าเรือนอยู่คนเดียวที่ระเบียง ส่วนผู้ตายไปเที่ยว สัก 4 น. มีคนจะขึ้นมาบนเรือน จำเลยได้ร้องถามไปคนนั้นก็ไม่ตอบ
จำเลยสำคัญว่าเป็นคนร้ายจะขึ้นมาลักทรัพย์บนเรือนจึงตีไป 2 - 3 ที คนนั้นตกบันไดไป เอาตะเกียงมาส่องดูจึงรู้ว่าเป็นนายทองบิดาเลี้ยง ซึ่งเป็นที่รักของจำเลย จำเลยว่าถ้ารู้ว่าเป็นนายทองก็จะไม่ตี ดั่งนี้ เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงและเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์สมควรแก่เหตุ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องไม่ลงโทษจำเลย.
จำเลยสำคัญว่าเป็นคนร้ายจะขึ้นมาลักทรัพย์บนเรือนจึงตีไป 2 - 3 ที คนนั้นตกบันไดไป เอาตะเกียงมาส่องดูจึงรู้ว่าเป็นนายทองบิดาเลี้ยง ซึ่งเป็นที่รักของจำเลย จำเลยว่าถ้ารู้ว่าเป็นนายทองก็จะไม่ตี ดั่งนี้ เป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริงและเป็นการป้องกันตัวและทรัพย์สมควรแก่เหตุ ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องไม่ลงโทษจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1863/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าพนักงานมีผลต่อความผิดตามมาตรา 145 อาญา ต้องพิจารณาช่วงเวลาที่กระทำผิด
จำเลยเป็นเลขาธิการมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถูกฟ้องก่อนที่ใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2499 ว่าเป็นเจ้าพนักงานกระทำการอันไม่ควรทำ ละเว้นการอันไม่ควรละเว้นโดยเจตนาจะให้เกิดการเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งอ้างว่าผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 145 นั้นไม่เป็นผิด เพราะก่อนใช้พระราชบัญญัติธรรมศาสตร์ มาตรา 2499 ถือว่าจำเลยเป็นพนักงานของนิติบุคคลธรรมดาไม่ใช่เจ้าพนักงานตาม มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของที่ดินตัดกิ่งไม้ล้ำแนวเขตและการพิจารณาเจตนาในความผิดอาญา
ในทางแพ่ง ถ้าจำเลยได้บอกกล่าวโจทก์เสียก่อนและให้เวลาพอสมควรแล้ว จำเลยก็อาจตัดกิ่งไม้ของโจทก์ที่ยื่นล้ำที่ของจำเลยเข้าไปนั้นได้
ส่วนในทางอาญา ต้องพิจารณาเจตนาของจำเลยเป็นเรื่อง ๆ ไป ถ้าตามพฤติการณ์ที่ปรากฎเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาทำผิดทางอาญา แม้จำเลยไม่ได้บอกกล่าวโจทก์เสียก่อน จำเลยก็ตัดกิ่งไม้ที่ยื่นรุกล้ำเข้ามาในที่ของตนได้เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยเพียงแต่กระทำการป้องกันกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้โดยทั่ว ๆ ไป หากแต่จำเลยมิได้ปฏิบัติการให้ครบถ้วน ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 1347 เท่านั้น.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2501)
ส่วนในทางอาญา ต้องพิจารณาเจตนาของจำเลยเป็นเรื่อง ๆ ไป ถ้าตามพฤติการณ์ที่ปรากฎเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาทำผิดทางอาญา แม้จำเลยไม่ได้บอกกล่าวโจทก์เสียก่อน จำเลยก็ตัดกิ่งไม้ที่ยื่นรุกล้ำเข้ามาในที่ของตนได้เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยเพียงแต่กระทำการป้องกันกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้โดยทั่ว ๆ ไป หากแต่จำเลยมิได้ปฏิบัติการให้ครบถ้วน ตามวิธีการที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 1347 เท่านั้น.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2501)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 692/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานประกอบการพิสูจน์ความผิดอาญา: พยานบอกเล่า, พยานผู้เห็นเหตุการณ์, และการรับฟังคำให้การของผู้ตาย
คำให้การพยานชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่าเมื่อไม่ได้ตัวผู้ให้การมาเบิกความที่ศาล เพราะตายเสียก่อน ก็อาจใช้ได้แต่มีน้ำหนักน้อย และใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 240/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องอาญาฐานกีดขวางทางสาธารณะ จำเป็นต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดและขออนุญาตหรือไม่
การฟ้องขอให้ลงโทษตามก.ม.อาญา ม.336(2) นั้นโจทก์จะต้องบรรยายในฟ้องด้วยว่า จำเลยมิได้รับอนุญาตอันชอบด้วย ก.ม.มิฉนันย่อมจะเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ลงโทษจำเลยไม่ได้
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
ที่ชายทะเลซึ่งน้ำท่วมถึงนั้นหาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินหรือทางสาธารณะเสมอไปไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยแทนกันไม่ได้ในความผิดอาญา แม้จะได้รับมอบหมายจากเจ้าของกระบือ
ในความผิดทางอาญานั้นบุคคลจะเป็นจำเลยแทนกันไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยแทนกันไม่ได้ในความผิดอาญา แม้จะทำหน้าที่แทนเจ้าของกระบือ
ในความผิดทางอาญานั้นบุคคลจะเป็นจำเลยแทนกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาความผิดอาญา: การวางขวากกีดขวางทางเดินและการพิสูจน์เจตนาทำร้าย
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อ ก.ม.
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่าง ๆ ประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใดแล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก.
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่าง ๆ ประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใดแล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 136/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินภาษีและการปลอมแปลงเอกสารราชการ จำเลยมีความผิดตามกฎหมายอาญา
บรรยายฟ้องว่าจำเลยยักยอกเงินค่าภาษีโรงค้ารายนายฉลองไป600 บาท แต่ต่อมานำส่งเสีย 57.60 บาท จำเลยยักยอกไปเพียง542.40 บาท ดังนี้จัดว่าชัดเจนพอให้จำเลยเข้าใจข้อหาฐานยักยอกได้ดีตาม มาตรา158 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หาเคลือบคลุมไม่
แม้ข้อเท็จจริงทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยยักยอกเงินค่าภาษีรายนายฉลองไป 600 บาท มิใช่ 542.40 บาท ดังข้อหาให้จำเลยรับผิดตามฟ้องก็ดีการฟังข้อเท็จจริงดังนี้เพราะเงิน 57.60 บาท ที่จำเลยนำส่งเป็นค่าภาษีรายนายช่อล้องมิใช่รายนายฉลองฉะนั้นเงินค่าภาษีรายนายฉลองที่จำเลยยักยอกจึงคงมี 600 บาทจึงถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับฟ้องเช่นนี้หาเป็นเหตุให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192ได้ไม่
ถึงจำเลยจะมีหน้าที่เขียนต้นขั้วใบเสร็จรับเงินด้วยตนเองก็ดีแต่ถ้าจำเลยตกเติมแก้ไขต้นขั้วใบเสร็จนั้นโดยมีเจตนาปลอมแปลงจากเดิมให้เข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นและอาจเกิดการเสียหายขึ้นได้ดังนี้จำเลยก็หาพ้นความรับผิดฐานปลอมหนังสือไม่
การที่จะวินิจฉัยข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว
แม้ข้อเท็จจริงทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยยักยอกเงินค่าภาษีรายนายฉลองไป 600 บาท มิใช่ 542.40 บาท ดังข้อหาให้จำเลยรับผิดตามฟ้องก็ดีการฟังข้อเท็จจริงดังนี้เพราะเงิน 57.60 บาท ที่จำเลยนำส่งเป็นค่าภาษีรายนายช่อล้องมิใช่รายนายฉลองฉะนั้นเงินค่าภาษีรายนายฉลองที่จำเลยยักยอกจึงคงมี 600 บาทจึงถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาต่างกับฟ้องเช่นนี้หาเป็นเหตุให้ยกฟ้องโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192ได้ไม่
ถึงจำเลยจะมีหน้าที่เขียนต้นขั้วใบเสร็จรับเงินด้วยตนเองก็ดีแต่ถ้าจำเลยตกเติมแก้ไขต้นขั้วใบเสร็จนั้นโดยมีเจตนาปลอมแปลงจากเดิมให้เข้าใจผิดเป็นอย่างอื่นและอาจเกิดการเสียหายขึ้นได้ดังนี้จำเลยก็หาพ้นความรับผิดฐานปลอมหนังสือไม่
การที่จะวินิจฉัยข้อกฎหมายนั้นศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว