คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าทดแทน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 634 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์จากการบังคับคดี: เจ้าหนี้ภาษีอากรมีสิทธิแม้หนี้เป็นค่าทดแทน
แม้หนี้ตามคำพิพากษาจะเป็นหนี้ค่าทดแทนซึ่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ ข้อ 62 จะกำหนดว่าเงินทดแทนไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ตาม ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีอากร ย่อมมีสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยเลี้ยงช่างซ่อมสะพานถือเป็นค่าจ้างฐานคำนวณค่าทดแทนกรณีประสบอันตราย
ลูกจ้างเป็นช่างเหล็ก ปกติทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยเลี้ยง แต่ความรู้ความสามารถของลูกจ้างเป็นงานประเภทที่จะต้องไปซ่อมสะพานรถไฟตามเส้นทางรถไฟต่างจังหวัดอันเป็นงานประจำของตน ฉะนั้น เมื่อขณะประสบอันตรายลูกจ้างออกไปทำงานที่หน่วยงานสะพานต่างจังหวัดเป็นเวลาถึงหกเดือนเศษ ได้รับเบี้ยเลี้ยงเป็นการประจำจนกว่างานจะแล้วเสร็จ เห็นได้ชัดว่านายจ้างจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่ลูกจ้างเป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทน การทำงานในเวลาปกติของวันทำงานโดยแท้ เบี้ยเลี้ยงนี้จึงเป็นค่าจ้างอันจะต้องนำมาเป็นฐานคำนวณค่าทดแทนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1776/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยเลี้ยงช่างเหล็กที่ปฏิบัติงานซ่อมสะพานต่างจังหวัด ถือเป็นค่าจ้างฐานคำนวณค่าทดแทน
ลูกจ้างเป็นช่างเหล็ก ปกติทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยเลี้ยง แต่ความรู้ความสามารถของลูกจ้างเป็นงานประเภทที่จะต้องไปซ่อมสะพานรถไฟตามเส้นทางรถไฟต่างจังหวัดอันเป็นงานประจำของตน ฉะนั้น เมื่อขณะประสบอันตรายลูกจ้างออกไป ทำงานที่หน่วยงานสะพานต่างจังหวัดเป็นเวลาถึงหกเดือนเศษ ได้รับเบี้ยเลี้ยงเป็นการประจำจนกว่างานจะแล้วเสร็จ เห็นได้ชัดว่า นายจ้างจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่ลูกจ้างเป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทน การทำงานในเวลาปกติของวันทำงานโดยแท้ เบี้ยเลี้ยงนี้จึงเป็น ค่าจ้างอันจะต้องนำมาเป็นฐานคำนวณค่าทดแทนด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองแรงงาน: การตายจากการทำงานถือเป็นการประสบอันตราย นายจ้างต้องจ่ายค่าทดแทน
ลูกจ้างไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน ได้ออกปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกา โดยทำการล้างหินอัดหินตามทางรถไฟซึ่งเป็นที่กลางแจ้ง ต้องก้ม ๆ เงย ๆ พอถึงเวลา 10.30 นาฬิกา อากาศร้อนอบอ้าว เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างโดยตรง
การที่จำเลยซึ่งเป็นอธิบดีกรมแรงงานสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าทดแทนเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่พนักงานเงินทดแทนสั่งโดยที่นายจ้างแต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเงินทดแทนนั้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณา ของศาล จึงนำเอาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก ไปใช้บังคับหรือเทียบเคียงมิได้ ดังนั้น เมื่อจำเลยเห็นว่าสิ่งที่พนักงานเงินทดแทนสั่งไปผิดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ก็ย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างเสียชีวิตจากการทำงาน: อำนาจของอธิบดีกรมแรงงานในการแก้ไขคำสั่ง
ลูกจ้างไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน ได้ออกปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 6 นาฬิกา โดยทำการล้างหินอัดหินตามทางรถไฟซึ่งเป็นที่กลางแจ้ง ต้องก้ม ๆ เงย ๆ พอถึงเวลา 10.30 นาฬิกา อากาศร้อนอบอ้าว เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการตายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้างโดยตรง การที่จำเลยซึ่งเป็นอธิบดีกรมแรงงานสั่งให้นายจ้าง จ่ายค่าทดแทนเพิ่มขึ้นจากจำนวนที่พนักงานเงินทดแทนสั่งโดยที่ นายจ้างแต่ฝ่ายเดียวอุทธรณ์คำสั่งของพนักงานเงินทดแทนนั้นเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร มิใช่การดำเนินกระบวนพิจารณา ของศาล จึงนำเอาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 วรรคแรก ไปใช้บังคับหรือเทียบเคียงมิได้ ดังนั้น เมื่อจำเลยเห็นว่าสิ่งที่พนักงานเงินทดแทนสั่งไปผิดข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ก็ย่อมมีอำนาจที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิใช้ทางจำเป็นในที่ดินที่ถูกล้อม การชดใช้ค่าทดแทนไม่ใช่เงื่อนไขเบื้องต้น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1349 วรรคหนึ่ง บัญญัติให้เจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมมีสิทธิผ่านที่ดินที่ล้อมอยู่ไปสู่ทางสาธารณะได้ก็เนื่องจากถือเอาความจำเป็นของเจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมเป็นสำคัญ ส่วนค่าทดแทนตามวรรคสี่เป็นเพียงค่าชดเชยการใช้ทางผ่านเท่านั้นและก็มิได้บังคับให้เจ้าของที่ดินที่ถูกล้อมต้องปฏิบัติหน้าที่เสียก่อน แล้วจึงจะใช้สิทธิได้ ฉะนั้น โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เปิดทางจำเป็นได้โดยมิจำต้องเสนอชดใช้ค่าทดแทน เป็นหน้าที่ของจำเลยจะต้องเรียกร้องขึ้นมาเอง การใช้สิทธิของโจทก์ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้หาอาจถือได้ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยมิชอบและไม่สุจริตไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 648/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้ที่ดินของผู้อื่นเพื่อวางสิ่งอำนวยความสะดวก ต้องเสนอค่าทดแทนตามสมควร มิฉะนั้นไม่มีสิทธิ
จำเลยเจ้าของที่ดินจะต้องยอมให้โจทก์ปักเสาและพาดสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของตนต่อเมื่อได้รับค่าทดแทนตามสมควรแล้ว เมื่อโจทก์ไม่ได้เสนอค่าทดแทนให้จำเลย โจทก์จึงไม่มีสิทธิกระทำดังกล่าวได้ และคดีไม่มีประเด็นเรื่องค่าทดแทน การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยให้โจทก์ชำระค่าตอบแทนแก่จำเลย จึงเป็นเรื่องนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทดแทนจากอุบัติเหตุการทำงาน นายจ้างต้องปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทน หากไม่พอใจต้องอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด
โจทก์ฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ให้ลูกจ้างขับรถให้จำเลยแล้วเกิดอุบัติเหตุลูกจ้างถึงแก่ความตาย ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเกี่ยวกับความประมาทจึงไม่จำต้องบรรยายว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
ส่วนจำเลยถ้าไม่พอใจคำสั่งเงินทดแทนดังกล่าว ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่ออธิบดีกรมแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หากจำเลยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งเงินทดแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 529/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าจากเหตุชู้สาวและการประพฤติชั่วเป็นเหตุให้ได้รับความอับอาย การพิสูจน์ความสัมพันธ์ชู้สาว และการใช้ดุลพินิจกำหนดค่าทดแทน
โจทก์บรรยายฟ้องพอสรุปได้ว่า จำเลยที่ 2 เข้าไปหลับนอนในบ้านของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ประพฤติชั่วเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรงจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวเป็นที่ทราบกันทั่วไปซึ่งโจทก์จะได้เสนอหลักฐานในชั้นพิจารณา ดังนี้ เป็นคำฟ้องที่บรรยายถึงเหตุหย่าตาม ป.พ.พ. ม. 1516(2) แล้ว
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภริยาให้จำเลยที่ 2 เข้าไปหลับนอนในร้านของจำเลยที่ 1 เมื่อโจทก์ไปพบก็มีการไปเจรจากันที่สถานีตำรวจโดยจำเลยที่ 1 ตกลงจะไปอยู่กินฉันสามีภรรยากับจำเลยที่ 2 แต่ตกลงกันเรื่องค่าเสียหายและการเลี้ยงดูบุตรไม่ได้ดังนี้ พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยทั้งสองมีความสัมพันธ์กันในทางชู้สาว ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ประพฤติชั่วเป็นเหตุให้โจทก์อับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง ศาลกำหนดค่าทดแทนให้โจทก์ตามควรแก่พฤติการณ์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตายจากการทำงาน: การมอบหมายงานกีฬาให้ลูกจ้างถือเป็นงานของหน่วยงาน ลูกจ้างถึงแก่ความตายขณะปฏิบัติงาน หน่วยงานต้องจ่ายค่าทดแทน
ผู้ตายเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคมกระทรวงคมนาคมมีนโยบายให้แข่งกีฬาสำหรับหน่วยงานภายใน จำเลยที่ 2 ได้รับนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติและมอบให้ผู้ตายเป็นผู้ควบคุมการฝึกซ้อมและลงเป็นคู่ซ้อมทีมแบดมินตันของจำเลยที่ 2 การที่ผู้ตายได้ปฏิบัติตามที่จำเลยที่ 2 สั่งและมอบหมายจึงเป็นการทำงานให้แก่จำเลยที่ 2 เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายในขณะควบคุมและฝึกซ้อมกีฬาแบดมินตันให้แก่จำเลยที่ 2 จึงเป็นการตายเนื่องจากการทำงานให้แก่จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 1 จึงมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์
of 64