พบผลลัพธ์ทั้งหมด 571 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 782-783/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับชำระหนี้ด้วยสิ่งอื่นแทนเงิน และสิทธิของผู้ค้ำประกันในการขอคืนสัญญา
หนี้การกู้ยืมเงินนั้น ถ้าเจ้าหนี้ยอมรับการชำระหนี้อย่างอื่นแทนการชำระเงิน หนี้นั้นก็เป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้
ผู้ให้กู้ยอมรับเอาข้าวจำนวนหนึ่งเป็นการชำระหนี้เงินกู้แล้วบิดพลิ้วไม่คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันให้ผู้กู้ดังนี้ ผู้ค้ำประกันมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลบังคับผู้ให้กู้คืนหนังสือสัญญากู้และค้ำประกันได้ และศาลรับฟังคำพยานบุคคลที่ลูกหนี้นำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาผัดผ่อนหนี้และการค้ำประกัน: การขยายเวลาชำระหนี้ไม่ทำให้ผู้ค้ำประกันหลุดพ้น
ทำสัญญากู้เงินมีความว่า " จำนวนเงินที่ข้าพเจ้ากู้ไปนี้ ข้าพเจ้าสัญญาจะชำระให้เสร็จภายใน 6 เดือนนับแต่วันทำสัญญาเป็นต้นไป เว้นแต่ผู้ให้กู้จะได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น " และผู้ค้ำประกันทำสัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า " ถ้าผู้กู้ไม่สามารถชำระเงินที่ได้กู้ไปตามคำสั่งของผู้ให้กู้ ข้าพเจ้ายอมรับใช้ให้ทั้งสิ้น " ดังนี้กำหนด 6 เดือนที่ว่าไว้นั้นไม่ใช่เด็ดขาด แต่ผู้ให้กู้อาจสั่งเป็นอย่างอื่นได้ และการค้ำประกันก็เป็นไปทางยอมค้ำประกันตามอำนาจของผู้กู้ขอผัดผ่อนการชำระหนี้ต่อไป และผู้ให้กู้ยอม ก็ตามผู้ค้ำประกันก็ยังไม่หลุดพ้นจากการค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดใช้หนี้หากพิสูจน์ได้ว่าตนเองเป็นเพียงผู้ค้ำประกัน ไม่ใช่ผู้กู้ร่วม
เดิมเจ้าหนี้ฟ้องเรียกเงินกู้จากโจทก์จำเลย ซึ่งปรากฏตามหนังสือสัญญากู้ว่าเป็นผู้กู้ร่วมกับศาลพิพากษาให้โจทก์จำเลยร่วมกันรับผิดใช้เงินกู้รายนี้โจทก์ใช้เงินไปผู้เดียวทั้งหมด แล้วมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยครึ่งหนึ่ง ดังนี้ จำเลยย่อมต่อสู้ได้ว่า ความจริงจำเลยเป็นแต่ผู้ค้ำประกันมิใช่เป็นผู้กู้ร่วมกับโจทก์ ๆ หามีสิทธิเรียกให้จำเลยใช้เงินจำนวนนี้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันรายเดียวกัน แม้ผู้ค้ำประกันเซ็นไม่พร้อมกัน และปิดอากรแสตมป์ 1 บาท ถือใช้ได้
สัญญากู้ฉะบับเดียวมีผู้ค้ำประกัน 2 คน แม้ผู้ค้ำประกันจะเซ็นชื่อไม่พร้อมกัน ก็เป็นเรื่องค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันสัญญาฉบับเดียวกัน ปิดอากรแสดมป์เพียง 1 บาท ก็บริบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันรายเดียวกัน แม้ผู้ค้ำประกันเซ็นไม่พร้อมกัน และปิดอากรแสตมป์ 1 บาท ก็ถือว่าบริบูรณ์แล้ว
สัญญากู้ฉบับเดียวมีผู้ค้ำประกัน 2 คน แม้ผู้ค้ำประกันจะเซ็นชื่อไม่พร้อมกัน ก็เป็นเรื่องค้ำประกันในหนี้รายเดียวกันสัญญาฉบับเดียวกัน ปิดอากรแสตมป์เพียง 1 บาท ก็บริบูรณ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมแพ้คดีหลังแถลงต่อศาล การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงภายหลังย่อมไม่รับฟังได้ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด
คู่ความได้แถลงต่อศาล โดยจำเลยแถลงว่า ถ้าโจทก์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ว่าโจทก์ได้ให้จำเลยกู้เงินไปจริงตามฟ้องจำเลยยอมแพ้คดีถ้าโจทก์ไม่ยอมสาบานโจทก์ยอมแพ้ครั้นถึงกำหนดนัด โจทก์ไม่ยอมสาบาน ศาลชั้นต้นจดรายงานพิจารณาไว้ชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาน จึงเป็นอันว่าโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย (ที่1) ในครั้งนั้นมิได้มีการกล่าวอ้างที่หลงเข้าใจผิดแต่ประการใด ต่อมาอีกหลายวัน โจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าเข้าใจผิดในคำสาบานดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2486
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แปลงหนี้ใหม่-ผ่อนเวลาชำระหนี้: ผลกระทบต่อผู้ค้ำประกัน
ซื้อเชื่อโคต่อกัน แล้วมาทำเป็นสัญญารับใช้หนี้ ถือว่าเป็นแปลงหนี้ใหม่ เจ้าหนี้ไม่ฟ้องลูกหนี้เมื่อหนี้ถึงกำหนดนั้น ไม่ถือว่าเป็นการผ่อนเวลาชำระหนี้ให้ลูกหนี้ ผู้ค้ำประกันจึงไม่หลุดพ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลำดับการบังคับคดีหนี้ตามคำพิพากษา: ลูกหนี้หลักก่อนผู้ค้ำประกัน
คดีเดิมศาลพิพากษาว่าให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินค่าเช่าตามฟ้อง ถ้าไม่สามารถจะใช้ก็ให้จำเลยที่ 2 ใช้แทน แต่โจทก์ยังมิได้บังคับจำเลยที่ 1 จึงให้งดการบังคับจำเลยที่ 2 ดังนี้เป็นการชั่วคราวเมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้บังคับผู้รับมรดกจำเลยที่ 1 แล้วแต่กองมรดกไม่มีทรัพย์จะชำระหนี้ได้ ก็บังคับจำเลยที่ 2 ได้ เพราะชั้นนี้เป็นความรับผิดฐานเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา ไม่ใช่ฐานเป็นผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีตามคำพิพากษา: ลำดับการบังคับแก่ลูกหนี้ก่อนแล้วจึงบังคับแก่ผู้ค้ำประกัน
++พิพากษาของศาลมีคำบังคับ++ไว้ว่าให้จำเลยที่ 1 ++ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่สามารถจะใช้ได้ก็ให้จำเลยที่ 2 ใช้แทนจนครบดังนี้เมื่อโจทก์มิได้บังคับเอาแก่จำเลยที่ 1 และไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 1 และกองมฤดกของจำเลยที่ 1 ไม่สามารถชำระหนี้ได้ โจทก์บังคับเอา+จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้++การบังคับมิได้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้และค้ำประกัน: ความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
สัญญากู้และค้ำประกัน