คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สิทธิครอบครอง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,083 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การแย่งการครอบครองต้องมีการครอบครองจริงก่อน การโอนสิทธิโดยไม่เข้าครอบครองไม่ถือเป็นการแย่งการครอบครอง
เดิมมารดาโจทก์กับ ล. ครอบครองที่ดินร่วมกัน ต่อมาได้แยกกันครอบครองเป็นสัดส่วน โดยมารดาโจทก์ครอบครองที่พิพาท ล. ครอบครองส่วนที่เหลือ โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทตั้งแต่มารดาโจทก์ยังไม่ถึงแก่กรรมตลอดมาจนถึงปัจจุบัน การที่ ล. ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินทั้งแปลงรวมทั้งที่พิพาทแล้วทำนิติกรรมยกให้จำเลยทั้งสอง โดยทั้ง ล. และจำเลยทั้งสองไม่เคยเข้าครอบครองที่พิพาท ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการแย่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 โจทก์จึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาทมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินต่อเนื่องและการฟ้องแย่งการครอบครองเกิน 1 ปี ไม่ขาดอายุความ
ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์และโจทก์ครอบครองตลอดมา การที่จำเลยไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่พิพาทจึงเป็นเพียงการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ เมื่อจำเลยไม่ได้เข้าไปแย่งการครอบครองที่พิพาท แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยหลังจากจำเลยขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เกินกว่า 1 ปี โจทก์ก็มีสิทธิฟ้องจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5997/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคุ้มครองชั่วคราวต้องเกี่ยวข้องกับประเด็นพิพาทในคดี หากเป็นเรื่องสิทธิครอบครองต้องฟ้องคดีใหม่
การร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาโดยมีคำขอในเหตุฉุกเฉินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254, 266 จะต้องเป็นการขอให้คุ้มครองประโยชน์ของผู้ขอเพื่อให้ทรัพย์สิน สิทธิหรือประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใดที่พิพาทกันในคดีได้รับการคุ้มครองไว้จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องในชั้นบังคับคดีอ้างว่าผู้ร้องมิใช่บริวารของจำเลย ซึ่งมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยชี้ขาดเพียงว่า ผู้ร้องเป็นบริวารของจำเลยหรือไม่ ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่ามีสิทธิครอบครองเหนือที่พิพาทด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ผู้ร้องจะไปว่ากล่าวเอากับโจทก์ต่างหากจากคดีนี้ จึงไม่มีเหตุที่จะนำวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษามาใช้ในชั้นนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5904/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยไม่ชอบ และการดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ใหม่
อ. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จำเลยไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเจ้าพนักงานที่ดินได้ออกให้แล้วด้วยความเข้าใจผิดว่าจำเลยมีสิทธิโจทก์ก็จะขอบังคับจำเลยให้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจากจำเลยเป็นชื่ออ. หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนามิได้เพราะหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน พิพาทออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชอบที่จะเพิกถอนให้ได้เท่านั้น เป็นเรื่องที่ อ.จะไปดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเอง.
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3661/2525).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5904/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดิน: การเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ออกโดยไม่ชอบ และหน้าที่ของผู้มีสิทธิในการดำเนินการออกหนังสือรับรองใหม่
อ. เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่า แม้จำเลยไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเจ้าพนักงานที่ดินได้ออกให้แล้วด้วยความเข้าใจผิดว่าจำเลยมีสิทธิโจทก์ก็จะขอบังคับจำเลยให้ไปจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อจากจำเลยเป็นชื่ออ. หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนามิได้เพราะหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลชอบที่จะเพิกถอนให้ได้เท่านั้น เป็นเรื่องที่ อ.จะไปดำเนินการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทเอง. (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3661/2525).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5624/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้อื่น แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดสิทธิครอบครองเอง
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ การครอบครองที่ดินของจำเลยจึงเท่ากับเป็นการอาศัยสิทธิของโจทก์ แม้จะครอบครองมานานเกินกว่าหนึ่งปีก็หาได้เกิดสิทธิครอบครองของจำเลยเองไม่ หากโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไปโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5624/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินเพื่ออาศัยสิทธิเจ้าของ ไม่เกิดสิทธิครอบครอง แม้ครอบครองนานเกินหนึ่งปี โจทก์มีสิทธิฟ้องขับไล่
จำเลยขออาศัยอยู่ในที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ การครอบครองที่ดินของจำเลยจึงเท่ากับเป็นการอาศัยสิทธิของโจทก์ แม้จะครอบครองมานานเกินกว่าหนึ่งปีก็หาได้เกิดสิทธิครอบครองของจำเลยเองไม่ หากโจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอาศัยอยู่ต่อไปโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5577/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินไม่ปิดอากรแสตมป์ ไม่กระทบการรับฟังเป็นพยานหลักฐาน สิทธิครอบครองย้ายตามการโอน
ประมวลรัษฎากรไม่ได้บังคับว่าสัญญาซื้อขายจะต้องปิดอากรแสตมป์ ดังนั้น แม้สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทจะไม่ปิดอากรแสตมป์ก็รับฟัง เป็นพยานหลักฐานได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๑๑๘.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5577/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ไม่ติดอากรแสตมป์เป็นพยานหลักฐานได้ สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ที่ผู้รับโอน
ประมวลรัษฎากรไม่ได้บังคับว่าสัญญาซื้อขายจะต้องปิดอากรแสตมป์ดังนั้น แม้สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทจะไม่ปิดอากรแสตมป์ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5364/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและสิทธิครอบครองที่ดิน: ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องเนื่องจากจำเลยมีสิทธิครอบครอง
ในวันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ไว้สองวันคือวันที่ 6 และ 20 กันยายน 2528 ดังนั้น ในสมุดนัดความของทนายจำเลยจึงควรจะมีการลงนัดความคดีนี้ไว้ด้วยทั้งสองวันตั้งแต่ในวันชี้สองสถานแล้ว และเมื่อถึงกำหนดนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 6 กันยายน 2528 เมื่อมีการเลื่อนการสืบพยานไปวันที่ 20 กันยายน 2528 และวันที่ 16 ตุลาคม 2528 หากทนายจำเลยเข้าใจว่ามีการยกเลิกการนัดสืบพยานในวันที่ 20 กันยายน 2528 ตามที่อ้างจริงก็น่าจะต้องมีหมายเหตุการยกเลิกไว้ในสมุดนัดความนี้ แต่ปรากฏว่าในภาพถ่ายสมุดนัดความของทนายจำเลยไม่มีการลงนัดความคดีนี้ไว้ในวันดังกล่าวเลย คงลงนัดคดีของศาลอื่นไว้เท่านั้น ที่ทนายจำเลยอ้างว่าที่ขาดนัดพิจารณาเพราะเข้าใจว่ายกเลิกวันนัดแล้วจึงขัดต่อเหตุผลไม่น่าเชื่อ เหตุที่จำเลยทั้งสองยกขึ้นกล่าวอ้างยังไม่เพียงพอฟังว่าไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา
จำเลยทั้งสองยื่นคำร้องขอให้หมายเรียก ว.เข้ามาเป็นจำเลยร่วม หลังจากจำเลยทั้งสองขาดนัดพิจารณาและมีการสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้วจึงไม่มีเหตุสมควรจะให้เรียก ว.เข้ามาเป็นจำเลยร่วม
of 109