คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags: แจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2481

เจตนาแจ้งความเท็จเกี่ยวกับกรรมสิทธิในทรัพย์สิน - ศาลยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยรู้ว่าข้อมูลเท็จ

เอาทรัพย์สินเดิมของภรรยาไปเป็นหลักทรัพย์ประกันต้องหาต่ออำเภอโดยกล่าวว่าเป็นทรัพย์ซึ่งตนมีกรรมสิทธิเด็ดขาดแต่ผู้เดียว ทั้งนี้โดยเข้าใจว่าตนมีสิทธิในทรัพย์สินเหนือภรรยาดังนี้ ยังไม่พอจะ+ว่ามีเจตนาแจ้งความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2481

การแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตำรวจโดยระบุตัวผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 158

ความผิดตาม ม.158 ไม่หมายถึงเรื่องฟ้องเท็จศาลอย่างเดียว การฟ้องเรียนเท็จต่อเจ้าพนักงานตำรวจโดยระบุเจาะตัวผู้ถูกหา ก็เป็นผิดตามมาตรานี้
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าเจ้าทุกข์เมาสุราเถื่อนไปอำเภอตามคำสั่งของผู้ใหญ่บ้านกับไปบอกตำรวจว่าเจ้าทุกข์มีสุราเถื่อนดังนี้ ต้องผิดฐานร้องเรียนเท็จตามมาตรา 158
อ้างฎีกาที่ 169/2479 และที่ 392/2480

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2481

แจ้งความเท็จเพิ่มเติมทรัพย์สินชิงทรัพย์: เป็นกรรมต่อเนื่องลงโทษเดียว

จำเลยไปแจ้งความเท็จต่อตำรวจว่าถูกตีชิง แล้วรุ่งขึ้นไปแจ้งความเพิ่มเติมระบุจำนวนทรัพย์ที่อ้างว่าถูกตีชิงไปดังนี้ เป็นกรรมเดียวแต่ต่างวาระกัน ลงโทษจำเลยเพียงกะทงเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2481

หน้าที่นำสืบความเท็จของการแจ้งความ: ปัญหาข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมาย

กรณีที่ถือว่าเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2481

การค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้นและแจ้งความเท็จต่อบุคคลสามัญ

ผู้ใหญ่บ้านและกำนันไปค้นบ้านจำเลยโดยไม่มีหมาย แล้วไต่ถามจำเลยถึงเรื่องที่ไปค้นนั้น จำเลยได้+ผู้ใหญ่บ้านด้วยคำเท็จดัง+ ยังไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2481

การแจ้งความเท็จ: สถานะผู้ต้องหาสำคัญกว่าการระบุฐานะพยาน

จำเลยให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวนด้วยความรู้สึกอันแท้จริงว่าตนอยู่ในฐานะเปนผู้ต้องหา+เจ้าพนักงานจะแจ้งให้จำเลยทราบว่าจำเลยให้การ+ฐานะเปนพะยานและจด+ปากคำให้การจำเลยลงในแบบฟอร์มคำให้การก็ตามจำเลยก็ไม่มีความผิดฐานแจ้งความเท็จ อ้างฎีกาที่ 263/2472 และที่ 1276/2479

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2481

แจ้งความเท็จโดยสุจริตเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน: ไม่เป็นความผิด

จำเลยยื่นคำร้องขอประกันบุคคลต่อศาลอ้างว่ามีกรรมสิทธิ์ที่ดินอยู่แปลงหนึ่ง แต่ปรากฎที่ดินนั้นจำเลยเพิ่งยื่นคำร้องจับจองได้รับใบเหยียบย่ำแต่จำเลยเชื่อโดยสุจริตที่เป็นของจำเลยดังนี้จำเลยไม่มีผิดฐานแจ้งความ+

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1115/2481

แจ้งความเท็จต้องระบุรายละเอียดการแจ้งความเท็จและเจตนาของผู้แจ้ง

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งความเท็จทำให้เสื่อมเสียอิศรภาพและทำให้เสียทรัพย์ โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยโกรธเคืองโจทก์ จึงจับโจทก์ส่งตำรวจหาว่าโจทก์ขุดมันและสับฟันรั้วสวนของจำเลย โจทก์ต้องถูกคุมขังอยู่ 3 วันจึงมีประกันไป โจทก์ต้องเสียทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้อง ภายหลังเจ้าพนักงานเห็นว่าคดีไม่มีมูลจึงปล่อยโจทก์ดังนี้ ฟ้องของโจทก์ไม่มีมูล ที่ศาลจะรับไว้พิจารณาต้องยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1015/2481

การแจ้งความเท็จและการถูกขังคุกไม่เข้าข่ายความผิดตาม ม.160 วรรค 2 หากไม่ได้รับการพิพากษาให้ติดโทษ

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยแจ้งความเท็จโจทก์ต้อง+ในเรือนจำ 5 วันจึงมีประกันดังนี้ จะลงโทษจำเลย+ม.160 วรรค 2 แห่ง ก.ม.+ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2480

อำนาจศาลฎีกาแก้ไขโทษจำเลยในคดีที่จำเลยแจ้งความเท็จ

ในคดีที่ฎีกาได้ฉะเพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขลดโทษจำเลยได้ตามที่เห็นสมควร

คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags แจ้งความเท็จ

คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
แจ้งความเท็จ