คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อายุความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5,764 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์มรดกตกแก่ทายาทชั้นบุตร น้องชายไม่มีสิทธิอ้างอายุความตัดฟ้องได้
เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นบุตรของเจ้ามรดก จำเลยเป็นแต่เพียงน้องของเจ้ามรดกและไม่ปรากฎว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้ใดทรัพย์มรดกจึงตกได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นบุตร จำเลยเป็นน้องเป็นทายาทอยู่ในอันดับถัดไปจึงไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกตาม ป.พ.พ.ม. 1630 ฉนั้นจำเลยจึงยกอายุความมรดก ป.พ.พ.ม. 1754 ขึ้นมาตัดฟ้องโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบสิทธิในทรัพย์มรดกตามลำดับทายาท และข้อยกเว้นเรื่องอายุความมรดก
เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นบุตรของเจ้ามรดก จำเลยเป็นแต่เพียงน้องของเจ้ามรดก และไม่ปรากฏว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้ใดทรัพย์มรดกจึงตกได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นบุตร จำเลยเป็นน้องเป็นทายาทอยู่ในอันดับถัดไปจึงไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1630 ฉะนั้นจำเลยจึงยกอายุความมรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1754 ขึ้นมาตัดฟ้องโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1137/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในทรัพย์มรดกตกแก่ทายาทชั้นบุตร น้องชายไม่มีสิทธิ แม้จะอ้างอายุความมรดกก็ใช้ไม่ได้
เมื่อได้ความว่าโจทก์เป็นบุตรของเจ้ามรดก จำเลยเป็นแต่เพียงน้องของเจ้ามรดก และไม่ปรากฏว่าเจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้แก่ผู้ใดทรัพย์มรดกจึงตกได้แก่โจทก์ซึ่งเป็นทายาทชั้นบุตร จำเลยเป็นน้องเป็นทายาทอยู่ในอันดับถัดไปจึงไม่มีสิทธิในทรัพย์มรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1630 ฉะนั้นจำเลยจึงยกอายุความมรดกตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1754 ขึ้นมาตัดฟ้องโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินปล่อยป่า: อายุความครอบครอง, ลักษณะที่ดินไม่ใช่สวน, การครอบครองโดยเปิดเผย
ที่ดินซึ่งมีกอไผ่สีสุกขึ้นเองเต็ม รกและหนาเหมือนป่าจนทำนาและสวน หรือปลูกเรือนไม่ได้ ไม่ใช่ที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 แย่งครอบครอง 1 ปี ก็เอาคืนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินรกร้างไม่เข้าข่ายที่สวน อายุความครอบครองปรึกษากันได้
ที่ดินซึ่งมีกอไผ่สีสุกขึ้นเองเต็ม รกและหนาเหมือนป่าจนทำนาและสวน หรือปลูกเรือนไม่ได้ ไม่ใช่ที่สวนตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จบทที่ 42 แย่งครอบครอง 1 ปี ก็เอาคืนไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีภาษีและการสมรู้ร่วมคิดในความผิดฐานไม่ทำบัญชีตามกฎหมาย
จำเลยผู้ทำการโรงสีไม่ได้ทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร ม.201 อันมีโทษตาม ม.208 แต่ขณะพิจารณาคดีได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 บังคับ พ.ร.บ.นี้ได้ยกเลิกและบัญญัติเรื่องการทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกใหม่ตาม ม.40 โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ม.87 ทวิขึ้นใหม่และมีบทลงโทษตาม ม.93 ซึ่งมีโทษเบากว่า การกระทำของจำเลยจึงต้องนำ ม.87 ทวิ และ ม.93 มาใช้บังคับและต้องนำอายุความสำหรับบทลงโทษตาม ก.ม. ที่ใช้อยู่ในขณะพิจารณาคดีซึ่งมีโทษเบากว่ามาใช้บังคับแก่คดีด้วย
หน้าที่ทำบัญชีตาม พ.ร.บ.บัญชีนั้นเป็นหน้าที่เฉพาะบุคคลตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. การบัญชี ม.7 บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่ทำบัญชีจะเรียกว่าเป็นผู้ละเว้นกระทำไม่ได้ และจะช่วยสมรู้หรือสมคบในการไม่กระทำตามหน้าที่คนอื่นไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 ผู้เดียว โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ด้วยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ฎีกา ถ้าเป็นเหตุในลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 1ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีภาษี และความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดในคดีบัญชี การยกฟ้องจำเลยที่ 2
จำเลยผู้ทำการโรงสีไม่ได้ทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 201 อันมีโทษตาม มาตรา 208แต่ขณะพิจารณาคดีได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 บังคับแล้ว พระราชบัญญัตินี้ได้ยกเลิกและบัญญัติเรื่องการทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกใหม่ตาม มาตรา 40 โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร มาตรา 87ทวิขึ้นใหม่และมีบทลงโทษตาม มาตรา 93 ซึ่งมีโทษเบากว่า การกระทำของจำเลยจึงต้องนำ มาตรา 87ทวิและ มาตรา 93 มาใช้บังคับและต้องนำอายุความสำหรับบทลงโทษ ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะพิจารณาคดีซึ่งมีโทษเบากว่ามาใช้บังคับแก่คดีด้วย
หน้าที่ทำบัญชีตาม พระราชบัญญัติบัญชีนั้นเป็นหน้าที่เฉพาะบุคคลตามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติการบัญชี มาตรา 7บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่ทำบัญชีจะเรียกว่าเป็นผู้ละเว้นกระทำไม่ได้ และจะช่วยสมรู้หรือสมคบในการไม่กระทำตามหน้าที่ของคนอื่นก็ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 ผู้เดียว โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ฎีกาถ้าเป็นเหตุในลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1031/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและหน้าที่ทำบัญชี: ศาลยกฟ้องฐานสมรู้ร่วมคิดหากไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายเฉพาะ
จำเลยผู้ทำการโรงสีไม่ได้ทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 201 อันมีโทษตาม มาตรา 208แต่ขณะพิจารณาคดีได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ.2496 บังคับแล้ว พระราชบัญญัตินี้ได้ยกเลิกและบัญญัติเรื่องการทำบัญชีข้าวและข้าวเปลือกใหม่ตาม มาตรา 40 โดยแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร มาตรา 87ทวิขึ้นใหม่และมีบทลงโทษตาม มาตรา 93 ซึ่งมีโทษเบากว่า การกระทำของจำเลยจึงต้องนำ มาตรา 87ทวิและ มาตรา 93 มาใช้บังคับและต้องนำอายุความสำหรับบทลงโทษ ตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะพิจารณาคดีซึ่งมีโทษเบากว่ามาใช้บังคับแก่คดีด้วย
หน้าที่ทำบัญชีตาม พระราชบัญญัติบัญชีนั้นเป็นหน้าที่เฉพาะบุคคลตามที่ระบุไว้ใน พระราชบัญญัติการบัญชี มาตรา 7บุคคลอื่นที่ไม่มีหน้าที่ทำบัญชีจะเรียกว่าเป็นผู้ละเว้นกระทำไม่ได้ และจะช่วยสมรู้หรือสมคบในการไม่กระทำตามหน้าที่ของคนอื่นก็ไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ที่ 2 ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 1 ผู้เดียว โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ด้วย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานสมรู้กระทำผิดกับจำเลยที่ 1 ดังนี้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้อุทธรณ์ฎีกาถ้าเป็นเหตุในลักษณะคดีแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาให้เป็นผลดีแก่จำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1027/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยอายุความ และสิทธิของผู้เช่าในตลาดทำเลการค้า
การที่จำเลยยกห้องแถวให้แก่โจทก์ ถึงจะมิได้ทำหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม กฎหมาย ก็ดี แต่โจทก์ได้ถือสิทธิเป็นเจ้าของมากว่า 10ปี แม้จำเลยครอบครองอยู่ก็โดยอาศัยอำนาจของโจทก์ดังนี้ ห้องแถวนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ตามมาตรา 1368,1382
เช่าห้องพิพาททำการค้าอยู่ในตลาดในทำเลการค้า การเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและผู้ให้เช่าได้บอกกล่าวให้ผู้เช่าออกแล้ว ดังนี้ผู้เช่าหาได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯไม่
การที่ศาลกำหนดให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเดือนละ 20 บ.ตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกจากห้องเช่าให้โจทก์นั้น ก็เป็นจำนวนเท่ากับอัตราค่าเช่านั่นเอง เมื่อจำเลยวางศาลไว้แล้วเท่าใดแล้วก็ไม่ต้องใช้อีกเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 977/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับรองบุตรนอกกฎหมายและการบังคับใช้สัญญาประนีประนอม แม้ขาดอายุความมรดก
ประนีประนอม,การรับรองบุตรมฤดก,อายุความ
บุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้ไปแจ้งทะเบียนสำมะโนครัวว่า เป็นบุตรและใช้นามสกุลของบิดา และบิดาได้อุปการะบุตรมาอันเป็นพฤติการณ์ที่รู้อยู่กันทั่วไป ดังนี้ได้ชื่อว่าบิดาได้รับรองแล้ว และถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานของบิดาและมีสิทธิรับมรดกแทนที่บิดาได้
แม้คดีจะขาดอายุความมฤดกแล้วแต่ทายาททำสัญญาประนีประนอมแบ่งทรัพย์มฤดกแก่กัน สัญญานั้นย่อมใช้บังคับได้
of 577