พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,021 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 166/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการบอกเลิกสัญญาและการชำระค่าปรับ กรณีส่งมอบงานล่าช้า สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว สัญญาจ้างระหว่างโจทก์กับจำเลยย่อมระงับลง โจทก์ จำเลยจึงต้อง กลับคืนสู่ฐานะ ดั่งที่เป็นอยู่เดิม ดังนั้น โจทก์จึงหามีสิทธิที่จะได้รับเงินค่าปรับตาม สัญญาจากจำเลยอีกต่อไป โจทก์คงมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายดังที่ระบุไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสี่ เท่านั้น จำเลยส่งมอบงานงวดที่ 9 ให้แก่โจทก์เมื่อพ้นกำหนดเวลาตาม สัญญาไป 97 วัน โจทก์จึงจ่ายเงินค่าจ้างงานงวดดังกล่าวให้จำเลยไม่เต็มโดย หักค่าปรับที่ส่งมอบงานล่าช้าตาม สัญญาวันละ 2,000 บาท ออกโดยจำเลยมิได้โต้แย้งไว้ ถือได้ว่าจำเลยได้ ชำระค่าปรับในการส่งมอบงานงวดที่ 9 ล่าช้าให้แก่โจทก์ไปแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดค่าปรับก็เป็นอันขาดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 วรรคแรกศาลไม่ชอบที่จะหยิบยกค่าปรับส่วนนี้มาลดให้จำเลยอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บอกเลิกสัญญาก่อนเช็คถึงกำหนด: จำเลยไม่ต้องรับผิดตามเช็คค่าที่ดิน
เดิมโจทก์ จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันโดยจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อชำระเป็นค่าซื้อที่ดินบางส่วน ต่อมา เมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อกันแล้ว จำเลยก็ไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์อีก โจทก์ไม่อาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายถูกบอกเลิก เช็คชำระค่าที่ดินส่วนหนึ่ง ไม่มีหน้าที่ชำระเงิน
เดิมโจทก์ จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันโดยจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อชำระเป็นค่าซื้อที่ดินบางส่วนต่อมาเมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อกันแล้วจำเลยก็ไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์อีก โจทก์ไม่อาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน ย่อมไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็ค
เดิมโจทก์ จำเลยทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกันโดยจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทให้แก่โจทก์เพื่อชำระเป็นค่าซื้อที่ดินบางส่วนต่อมา เมื่อโจทก์จำเลยต่างบอกเลิกสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินต่อกันแล้ว จำเลยก็ไม่มีหน้าที่ชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์อีก โจทก์ไม่อาจนำเช็คพิพาทมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 591/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขาย, สิทธิริบประกัน, และการเรียกค่าปรับรายวันเมื่อผิดสัญญา
จำเลยทำสัญญาขายเครื่องอะไหล่อากาศยานแก่โจทก์รวม 6 ฉบับมีข้อตกลงว่า เมื่อครบกำหนดส่งมอบสิ่งของตามสัญญาแล้ว ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อ หรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องหรือไม่ครบจำนวน ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือสัญญาค้ำประกันเป็นจำนวนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามแต่ผู้ซื้อเห็นสมควร และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่งแล้วแต่กรณีภายในเวลากำหนดนับแต่วันที่บอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้ส่งมอบสิ่งของถูกต้องครบถ้วน ในระหว่างที่มีการปรับ ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบประกันกับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ดังนี้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาและมีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังโจทก์แล้วการที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกให้ชำระเงินตามสัญญาค้ำประกันจากธนาคารเป็นการแสดงเจตนาว่า โจทก์ยอมรับการบอกเลิกสัญญาของจำเลยอันมีผลให้สัญญาสิ้นสุดลงตามเจตนาของคู่สัญญา โจทก์มีสิทธิริบประกันได้โดยไม่จำต้องบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลยอีก ตามสัญญาดังกล่าว ในกรณีที่จำเลยส่งมอบสิ่งของล่าช้าหรือไม่ครบถ้วน นอกจากโจทก์จะมีสิทธิริบประกันแล้ว ยังมีสิทธิปรับจำเลยในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่จำเลยส่งมอบครบถ้วนหรือวันเลิกสัญญาแต่ถ้าจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเลย โจทก์ได้ใช้สิทธิเลิกสัญญาและริบประกันแล้ว แสดงว่าโจทก์ไม่ประสงค์ให้ปฏิบัติตามสัญญาต่อไป จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยไม่ส่งมอบสิ่งของตามสัญญา 3 ฉบับแรกให้แก่โจทก์เลย โจทก์จึงหามีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันไม่ส่วนสัญญา 3 ฉบับหลังเมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยยังส่งมอบสิ่งของไม่ครบถ้วน ต่อมาจำเลยส่งของตามสัญญาอีกแม้ว่าบางรายการจะมีคุณภาพไม่ตรงกับที่กำหนดในสัญญาหรือส่งมอบล่าช้าก็เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าขณะนั้นโจทก์มิได้มีเจตนาจะเลิกสัญญา ดังนั้น เมื่อต่อมามีการเลิกสัญญาทั้ง 3 ฉบับ จำเลยจึงต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันนับแต่วันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันบอกเลิกสัญญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่า, คำมั่นสัญญา, การบอกเลิกสัญญา, สิทธิในการฟ้องบังคับสัญญา, การเช่าช่วง
แม้สัญญาเช่าข้อ 7 มีใจความว่า ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าเข้ายึดครอบครองที่เช่าโดยพลัน และมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีโดยผู้เช่ายอมให้ถือว่าสัญญาเช่าระงับไป และข้อ 8 มีใจความว่า เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดี หรือผู้เช่าผิดสัญญาข้อใดก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าสัญญาเช่าระงับสิ้นสุดลงก็ตาม เมื่อผู้เช่าผิดสัญญาเช่าโดยนำทรัพย์ที่เช่าไปให้เช่าช่วง แต่ผู้ให้เช่ามิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าว สัญญาเช่าจึงไม่ระงับไปเอง
ผู้ให้เช่ามีหนังสือบอกกล่าวถึงผู้เช่าให้มาทำสัญญาเช่าต่ออีกในอัตราค่าเช่าใหม่ แสดงว่าผู้ให้เช่าไม่ยอมให้ผู้เช่าต่อสัญญาเช่าในอัตราค่าเช่าที่ได้ระบุไว้ในคำมั่นท้ายสัญญาเช่าเมื่อครบอายุสัญญาเช่า ผู้เช่าจึงมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับผู้ให้เช่าปฏิบัติตามคำมั่นจะให้เช่าก่อนครบกำหนดในสัญญาเช่าได้
ผู้ให้เช่ามีหนังสือบอกกล่าวถึงผู้เช่าให้มาทำสัญญาเช่าต่ออีกในอัตราค่าเช่าใหม่ แสดงว่าผู้ให้เช่าไม่ยอมให้ผู้เช่าต่อสัญญาเช่าในอัตราค่าเช่าที่ได้ระบุไว้ในคำมั่นท้ายสัญญาเช่าเมื่อครบอายุสัญญาเช่า ผู้เช่าจึงมีอำนาจฟ้องขอให้บังคับผู้ให้เช่าปฏิบัติตามคำมั่นจะให้เช่าก่อนครบกำหนดในสัญญาเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 450/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำมั่นสัญญาเช่าต่ออายุ การบอกเลิกสัญญา และอำนาจฟ้องบังคับสัญญา
แม้สัญญาเช่าข้อ 7 มีใจความว่า ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าเข้ายึดครอบครองที่เช่าโดยพลัน และมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าทันทีโดยผู้เช่ายอมให้ถือว่า สัญญาเช่าระงับไป และข้อ 8 มีใจความว่าเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าก็ดีหรือผู้เช่าผิดสัญญาข้อใดก็ดี ผู้เช่ายอมให้ถือว่าสัญญาเช่าระงับสิ้นสุดลงก็ตาม เมื่อผู้เช่าผิดสัญญาเช่าโดยนำทรัพย์ที่เช่าไปให้เช่าช่วง แต่ผู้ให้เช่ามิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาเพราะเหตุดังกล่าวสัญญาเช่าจึงไม่ระงับไปเอง ผู้ให้เช่ามีหนังสือบอกกล่าวถึงผู้เช่าให้มาทำสัญญาเช่าต่ออีกในอัตราค่าเช่าใหม่ แสดงว่าผู้ให้เช่าไม่ยอมให้ผู้เช่าต่อสัญญาเช่าในอัตราค่าเช่าที่ได้ระบุไว้ในคำมั่นท้ายสัญญาเช่าเมื่อครบอายุสัญญาเช่า ผู้เช่าจึงมีอำนาจฟ้อง ขอให้บังคับผู้ให้เช่าปฏิบัติตามคำมั่นจะให้เช่าก่อนครบกำหนดในสัญญาเช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4452/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายที่ดิน: การปฏิบัติตามสัญญาไม่ใช่เงื่อนไขบอกเลิก และการโอนที่ดินโดยไม่สุจริต
การบอกเลิกสัญญาโดยบทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 387 เป็นเรื่องที่คู่สัญญาอีกฝ่ายไม่ปฏิบัติการชำระหนี้แต่การที่จำเลยมีหนังสือสอบถามโจทก์ซึ่งเป็นคู่สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินว่า ถ้าประสงค์จะปฏิบัติตามสัญญาก็ให้ติดต่อจำเลยภายใน 15 วันนั้น ไม่ใช่ให้โจทก์ชำระหนี้ตามข้อตกลงในสัญญา ดังนั้น แม้โจทก์จะมิได้ติดต่อจำเลยมาตามกำหนด จำเลยก็จะถือเอาเหตุนี้มาใช้บอกเลิกสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายเนื่องจากสินค้าไม่เป็นไปตามสัญญา และสิทธิในการเรียกร้องค่าปรับ
สัญญาซื้อขายทองเหลืองหล่อ ข้อ 8 วรรคแรกระบุว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้อง ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ วรรคสองระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกัน หรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกสัญญาค้ำประกันก็ได้ ข้อ 9 วรรคแรก ระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วน และวรรคสองระบุว่า ในระหว่างที่มีการปรับนั้น ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา และริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกสัญญาค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 กับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ให้แก่โจทก์ ทั้งๆ ที่โจทก์ได้ให้โอกาสจำเลยส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีคุณสมบัติตามสัญญาแล้ว โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิเรียกให้ชำระเงินตามสัญญาจากธนาคารแล้วในวันเดียวกัน กรณีจึงต้องด้วยข้อ 8 วรรคสอง ซึ่งโจทก์มีสิทธิที่จะริบหลักประกัน หรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกสัญญาค้ำประกันได้เท่านั้น แม้ก่อนที่โจทก์จะบอกเลิกสัญญา จำเลยได้ส่งมอบทองเหลืองหล่อให้โจทก์หลายครั้งก็ตาม แต่โจทก์ก็ไม่ได้รับเอาไว้เนื่องจากเป็นการส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเลย จึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญา และโจทก์ได้ยอมรับไว้โดยจะใช้สิทธิปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 9 โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายเนื่องจากผิดสัญญา และสิทธิในการริบหลักประกันหรือเรียกค่าปรับรายวัน
สัญญาซื้อขายทองเหลืองหล่อ ข้อ 8 วรรคแรกระบุว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบสิ่งของที่ตกลงขายให้แก่ผู้ซื้อหรือส่งมอบสิ่งของทั้งหมดไม่ถูกต้องผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ วรรคสองระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคาร ผู้ออกสัญญาค้ำประกันก็ได้ ข้อ 9 วรรคแรกระบุว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 8 ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบนับแต่วันถัดจากวันครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำสิ่งของมาส่งให้แก่ผู้ซื้อจนถูกต้องครบถ้วนและวรรคสองระบุว่า ในระหว่างที่มีการปรับนั้น ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาและริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกสัญญาค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 กับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง นอกเหนือจากการปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญาด้วยก็ได้ เมื่อจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ให้แก่โจทก์ ทั้ง ๆ ที่โจทก์ได้ให้โอกาสจำเลยส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีคุณสมบัติตามสัญญาแล้วโจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและใช้สิทธิเรียกให้ชำระเงินตามสัญญาจากธนาคารแล้วในวันเดียวกันกรณีจึงต้องด้วยข้อ 8 วรรคสอง ซึ่งโจทก์มีสิทธิที่จะริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกสัญญาค้ำประกันได้เท่านั้นแม้ก่อนที่โจทก์จะบอกเลิกสัญญา จำเลยได้ส่งมอบทองเหลืองหล่อให้โจทก์หลายครั้งก็ตาม แต่โจทก์ก็ไม่ได้รับเอาไว้เนื่องจากเป็นการส่งมอบทองเหลืองหล่อที่มีส่วนผสมและคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามที่สัญญากำหนดไว้ย่อมถือได้ว่าจำเลยมิได้ส่งมอบสิ่งของตามสัญญาเลย จึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยส่งมอบสิ่งของให้โจทก์ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้องตามสัญญา และโจทก์ได้ยอมรับไว้โดยจะใช้สิทธิปรับเป็นรายวัน ในอัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบตามที่ระบุไว้ในสัญญาข้อ 9 โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าปรับเป็นรายวันจากจำเลย