พบผลลัพธ์ทั้งหมด 804 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2437/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน การอ้างข้อตกลงใหม่หลังผิดสัญญาไม่เป็นเหตุให้ระงับบังคับคดี
ศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วต่อมาจำเลยผิดสัญญาประนีประนอมยอมความศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดหรืออายัดทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 คำร้องของจำเลยที่ 4 ที่อ้างว่ามีข้อตกลงเกี่ยวกับการบังคับคดีใหม่กับโจทก์ เป็นการกระทำนอกศาลเมื่อโจทก์ปฏิเสธ จำเลยที่ 4 จึงจะยกมาเป็นเหตุไม่ให้ศาลดำเนินการบังคับคดีต่อไปหาได้ไม่ ศาลยกคำร้องของจำเลยที่ 4 ได้โดยไม่ต้องทำการไต่สวนเสียก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2388/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเหนือกว่า พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา แม้จะเข้าข่ายการเช่า
โจทก์ไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีอาญากับจำเลยฐานบุกรุกแล้วโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันว่า โจทก์ยอมให้จำเลยทำประโยชน์ในที่พิพาทต่อไปอีกหนึ่งปี โดยจำเลยยอมจ่ายค่าเช่าให้โจทก์ 4,000 บาท ดังนี้ จำเลยต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น จะอ้างพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 5 มาเพื่อขยายเวลาเช่าออกไปเป็น 6 ปีหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาด ไม่สร้างผลผูกพันทางกฎหมาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานตรวจแรงงานได้ทำคำเตือนถึงโจทก์ เพราะเห็นว่าโจทก์ฝ่าฝืนประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน โดยไม่จ่ายค่าทำงานในวันหยุดแก่ลูกจ้างคำเตือนนี้มิใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดอันมีผลทางกฎหมาย แม้จะกำหนดให้โจทก์ชำระเงินแก่ลูกจ้างโจทก์หาจำต้องปฏิบัติตามไม่คำเตือนดังกล่าวจึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์แต่อย่างใดและไม่ใช่กรณีที่โจทก์จำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลขอให้เพิกถอนคำเตือนของจำเลยโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1903/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเตือนของพนักงานตรวจแรงงานไม่ใช่คำวินิจฉัยที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย นายจ้างไม่ต้องปฏิบัติตามหากเห็นว่าไม่ถูกต้อง
พนักงานตรวจแรงงานได้ออกคำเตือนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานให้บริษัทโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายค่าชดเชยแก่ ฉ. ลูกจ้างโจทก์ คำเตือนนี้ไม่มีลักษณะเป็นคำวินิจฉัยชี้ขาดที่มีผลบังคับในกฎหมาย ทั้งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ก็มิได้ระบุกรณีฝ่าฝืนคำเตือนว่าเป็นผิดอาญา การออกคำเตือนจึงไม่ใช่การโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ และไม่ใช่กรณีที่จำเป็นต้องใช้สิทธิทางศาลบริษัทโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้เพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1860/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปลอมแต่มีผลผูกพันบางส่วน: ศาลใช้สัญญาเดิมก่อนแก้ไขเป็นหลัก
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ 2,000 บาท จำเลยให้การว่าความจริงจำเลยกู้เพียง 1,000 บาท ได้ลงชื่อไว้ในแบบพิมพ์ซึ่งได้ลงจำนวนเงินไว้แล้ว แต่ไม่กรอกข้อความ จำนวนเงินในสัญญากู้ได้มีการแก้ไขจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท โดยจำเลยมิได้รู้เห็นยินยอม ดังนี้ แม้เอกสารสัญญากู้ได้ถูกแก้และเป็นเอกสารปลอม แต่ก่อนมีการแก้เอกสารนี้เป็นเอกสารที่สมบูรณ์ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 1,000 บาท ตามสัญญาที่ทำไว้เดิมก่อนมีการแก้ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกา 761/2509 ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1837/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับละเมิดของเด็กเยาว์ต้องได้รับอนุญาตศาลจึงจะมีผลผูกพัน
บิดาเด็กชาย บ. โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบิดาเด็กชาย ว. ผู้ทำละเมิดต่อผู้เยาว์โดยมิได้รับอนุญาตจากศาลมูลละเมิดที่เด็กชาย ว. ก่อขึ้นหามีผลระงับไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความอันเป็นโมฆะไม่และไม่มีผลผูกพันเด็กชาย บ. โจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้โจทก์จะมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างในศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1713-1714/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำท้าพิสูจน์ลายมือชื่อที่มีผลเฉพาะคู่ความที่ตกลงกัน และหน้าที่การนำสืบพยานของโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ทำไว้ ก่อนสืบพยาน โจทก์กับจำเลยที่ 1ตกลงท้าพิสูจน์ลายมือของจำเลยที่ 2 ในเอกสารที่ตกลงกันโดยจำเลยที่ 2 มิได้ตกลงตามคำท้าด้วย หากผลปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายแพ้ตามคำท้า ข้อตกลงท้ากันระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 คงมีผลบังคับเฉพาะในระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น หามีผลบังคับถึงจำเลยที่ 2 ด้วยไม่เพราะกระบวนพิจารณาที่จำเลยที่ 1กระทำไปเป็นที่เสื่อมเสียแก่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคู่ความร่วมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 59(1) โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบให้ฟังได้ตามที่โจทก์กล่าวอ้างดังนั้น คดีระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 จึงต้องมีการสืบพยานกันต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1498/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าทายการรังวัด: ผลผูกพันตามสัญญาและการยุติข้อพิพาท
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยให้รื้อถอนบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยให้การว่าที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนอยู่ ไม่ได้อยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ดังฟ้องคู่ความตกลงท้ากันให้เจ้าพนักงานที่ดินสอบเขตโฉนดที่ดินของโจทก์ ถ้าปรากฏว่าเรือนที่จำเลยปลูกอยู่ ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ดังกล่าว หรือแต่บางส่วน จำเลยยอมแพ้ถ้าสอบแล้วปรากฏว่าเรือนที่จำเลยอยู่ไม่ได้ปลูกอยู่ไม่ได้ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้เป็นเรื่องที่คู่ความยอมรับข้อเท็จจริงกันในศาลโดยมีเงื่อนไขให้ถือเอาการรังวัดสอบเขตของเจ้าพนักงานที่ดินเป็นข้อแพ้ชนะระหว่างกัน ฉะนั้น เมื่อเจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการรังวัดส่งแผนที่มายังศาลปรากฏว่าเรือนที่จำเลยปลูกอยู่ปลูกอยู่ในเขตที่ดินของโจทก์ อันเป็นการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คู่ความตกลงท้ากันครบถ้วนแล้ว ศาลก็ต้องพิพากษาคดีไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้น จำเลยจะอ้างว่าเนื้อที่ดินที่เจ้าพนักงานรังวัดสอบเขตเกินไปจากเนื้อที่ในโฉนด 54 ตารางวา กรณีเป็นที่สงสัยว่าเรือนของจำเลยปลูกอยู่ในที่ดินส่วนที่เกินจะต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปหาได้ไม่ เพราะที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่เท่าใดไม่เป็นประเด็นในคำท้า ข้อเท็จจริงแห่งคดีเป็นอันยุติไปตามคำท้านั้นแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมเงินต้องมีลายมือชื่อผู้ยืมจึงมีผลผูกพันทางกฎหมาย
แม้จำเลยจะเขียนชื่อจำเลยไว้ที่หัวกระดาษถัดลงมามีข้อความแสดงการยืมเงินรายการแสดงการชำระหนี้หลายครั้งและมีรายการแสดงยอดเงินคงเหลือ แต่ไม่มีลายมือชื่อจำเลยถือไม่ได้ว่าชื่อจำเลยที่เขียนไว้ที่หัวกระดาษเป็นการลงลายมือชื่อเอกสารดังกล่าวจึงมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคแรกโจทก์จะอาศัยเอกสารดังกล่าวฟ้องร้องบังคับให้จำเลยรับผิดใช้เงินยืมหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1172-1173/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์ฟ้องบังคับให้จำเลยจัดการโอนทรัพย์ซ้ำไม่ได้
เดิมจำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์โดยโจทก์ตกลงจะไปโอนที่ดิน 3 แปลง ซึ่งรวมทั้งที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 ให้แก่จำเลยที่ 2 เป็นการใช้หนี้ให้ภายในกำหนด 5 วัน ศาลพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงถูกผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว ต่อมาโจทก์จัดการโอนที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 ให้แก่จำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาตามยอมและจำเลยที่ 2 โอนต่อไปให้จำเลยที่ 1 แล้วโจทก์กลับมาฟ้องคดีนี้ขอให้บังคับให้จำเลยที่ 2 จัดการโอนที่ดินพิพาทแปลงที่ 5 กลับคืนให้โจทก์อีกย่อมมีผลเท่ากับว่าโจทก์ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาโดยฝ่าฝืน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 และมาตรา 145 โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยเช่นนั้น