พบผลลัพธ์ทั้งหมด 823 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อหาต่างกับข้อเท็จจริง การฟ้องต้องระบุรายละเอียดตรงกับความผิดที่เกิดขึ้น
ฟ้องว่าจำเลยยิง ก.ตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเจตนายิง ข. แต่พลาดไปถูก ก. ตายเช่นนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.44 ก็ต้องบรรยายลงไว้ในฟ้องให้ชัดเจน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2145/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความแตกต่างระหว่างข้อเท็จจริงในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ส่งผลต่อการลงโทษทางอาญา
ฟ้องว่าจำเลยยิง ก.ตายโดยเจตนา ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเจตนายิง ข.แต่พลาดไปถูกก.ตายเช่นนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลลงโทษจำเลยตาม กฎหมายอาญา มาตรา 44 ก็ต้องบรรยายลงไว้ในฟ้องให้ชัดเจน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีคอมมิวนิสต์ แต่ไม่มีหลักฐานเรื่องอั้งยี่ ศาลยกฟ้องตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา
ฟ้องว่ามีผู้ตั้งสมาคมปกปิดวิธีการ เพื่อการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ฯลฯ จำเลยรู้แล้วเข้าเป็นสมาชิกและอุดหนุนให้ที่พักอาศัยที่ประชุมชักชวนคนเข้าเป็นสมาชิก ให้เงินเสบียงอาหาร ฯลฯ โดยยืนยันซ้ำว่าเพื่อการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ไม่อ้างถึงอั้งยี่เลยแม้จะอ้าง มาตรา180 มาด้วย ก็ไม่เป็นฟ้องที่จะลงโทษตาม มาตรา180 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องจำเลยรัฐมนตรีโดยไม่แสดงการกระทำละเมิดหรือพันธะตามกฎหมาย ศาลยกฟ้องตามมาตรา 172 ป.วิ.พ.
ฟ้องรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย บรรยายว่าโจทก์เป็นคนไทยแต่เจ้าหน้าที่ให้จดทะเบียนต่างด้าว โจทก์ขอคืนสัญชาติต่อตำรวจท้องที่จนบัดนี้ยังไม่ทราบผลจึงขอให้ศาลไต่สวนสัญชาติ และเบิกถอนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวดังนี้ไม่เป็นฟ้องที่ถูกต้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564-1565/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158
การบรรยายฟ้องในข้อหาฐานเบิดความเท็จนั้นเมื่อมีข้อความครบถ้วนตาม ป.วิ.อาญา ม.158 เกี่ยวกับการกระทำทั้งหลายที่จำเลยกระทำผิด กับบรรยายว่าจำเลยได้สาบาลตัวแล้วเอาความที่รู้ว่าเท็จมาเบิกในข้อสำคัญในคดีและข้อที่ว่าเท็จและความจริงเป็นอย่างไรอันเป็นองค์แห่งความผิดฐานเบิกความเท็จแล้วก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ ก.ม.อันพึงรับไว้พิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564-1565/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของฟ้องฐานเบิกความเท็จ: การบรรยายฟ้องต้องระบุข้อความเท็จและข้อสำคัญในคดี
การบรรยายฟ้องในข้อหาฐานเบิกความเท็จนั้น เมื่อมีข้อความครบถ้วนตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158 เกี่ยวกับการกระทำทั้งหลายที่จำเลยกระทำผิด กับบรรยายว่าจำเลยได้สาบานตัวแล้วเอาความที่รู้ว่าเท็จมาเบิกในข้อสำคัญในคดี และข้อที่ว่าเท็จและความจริงเป็นอย่างไรอันเป็นองค์แห่งความผิดฐานเบิกความเท็จแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายอันจะพึงรับไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1460/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องความผิดสมคบชิงทรัพย์ ไม่จำต้องอ้าง ม.63 และไม่จำต้องระบุชื่อพวก
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกอีกคนหนึ่งที่ยังจับตัวไม่ได้สมคบกันชิงทรัพย์ ขอให้ลงโทษตาม ม.298, 299
ดังนี้ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว ไม่จะต้องอ้างบทมาตรา 63 เพราะได้อ้างมาตราที่บัญญัติว่าเป็นความผิดไว้แล้ว และไม่จำต้องระบุว่าพวกของจำเลยเป็นใคร.
ดังนี้ก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยวิธีพิจารณาแล้ว ไม่จะต้องอ้างบทมาตรา 63 เพราะได้อ้างมาตราที่บัญญัติว่าเป็นความผิดไว้แล้ว และไม่จำต้องระบุว่าพวกของจำเลยเป็นใคร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ที่ดิน กรณีจำเลยแสดงเจตนาถือสิทธิโดยตรงและการขาดฟ้องภายใน 1 ปี
โจทก์เอาที่ดินไปเป็นประกันเงินกู้ของบุตรเขย ต่อมาได้ไปขอไถ่ที่ดินคืน จำเลยผู้ให้กู้อ้างว่าเป็นที่ดินของบุตรเขยโจทก์ บุตรเขยโจทก์ได้ขายให้จำเลยแล้วเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแก่โจทก์แล้วว่าจำเลยไม่เจตนาจะยึดถือที่ดินพิพาทแทนโจทก์ต่อไป ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าโจทก์ไม่ฟ้องเสียใน 1 ปี จำเลยย่อมได้สิทธิครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โจทก์มีสิทธิฟ้องได้ทั้งละเมิดและผิดสัญญา ศาลมีหน้าที่ปรับบทกฎหมายให้เหมาะสมกับข้อเท็จจริง
เมื่อข้อหาของโจทก์เป็นเรื่องละเมิดหรือผิดสัญญาก.ม.ไม่ได้บังคับว่าโจทก์จะต้องเลือกฟ้องทางใดทางหนึ่งโจทก์เพียงบรรยายข้อเท็จจริงกับคำขอบังคับมาก็พอแล้ว ศาลก็มีหน้าที่ต้องวินิจฉัยรับบท ก.ม.แก่คดีนั้นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
โจทก์ฟ้องได้ทั้งละเมิดและผิดสัญญา ศาลปรับบทกฎหมายตามข้อเท็จจริง
เมื่อข้อหาของโจทก์อาจเป็นเรื่องละเมิดหรือผิดสัญญากฎหมาย ไม่ได้บังคับว่าโจทก์จะต้องเลือกฟ้องทางใดทางหนึ่ง โจทก์เพียงบรรยายข้อเท็จจริงกับคำขอบังคับมาก็พอแล้ว ศาลก็มีหน้าที่ต้องวินิจฉัยปรับบทกฎหมายแก่คดีนั้นเอง