คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หน้าที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 709 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งกระทรวงที่ขัดกฎหมาย ไม่อาจใช้บังคับกับบุคคลทั่วไป นายทะเบียนต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
คำสั่งกระทรวงที่มิได้อาศัยอำนาจตามบทกฎหมายนั้น ย่อมเป็นเพียงระเบียบภายในระหว่างเจ้าหน้าที่ของกระทรวงด้วยกันเท่านั้น จะใช้บังคับแก่บุคคลทั่วไปไม่ได้ ฉะนั้น เมื่อจำเลยมีหน้าที่ตามกฎหมาย ให้รับจดทะเบียนสมรส ก็ย่อมจะอ้างคำสั่งที่ขัดต่อกฎหมายมาเป็นเหตุไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 580/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใส่ความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นเจ้าพนักงานในหน้าที่ แม้ส่งถึงบุคคลที่สามก็มีความผิดตามกฎหมาย
หนังสือใส่ความผู้อื่นนั้นแม้จะส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวก็ถือว่าใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 326 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
เมื่อปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาและได้ร่วมเป็นองค์คณะตัดสินคดีที่ทำให้จำเลยแพ้ และจำเลยได้กล่าวข้อความซึ่งเป็นการดูหมิ่นโจทก์ในฐานะที่เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกาย่อมเป็นความผิดต่อมาตรา 198ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน: หน้าที่ปกครองรักษาทรัพย์ตามมาตรา 147 และความผิดฐานลักทรัพย์ (มาตรา 158)
่จำเลยเป็นตำรวจกองบังคับการตำรวจรถไฟมีหน้าที่อารักขาพนักงานรถไฟ สืบสวนคดี และถ่ายรูปประกอบคีดในเขตการรถไฟ แต่กองบังคับการไม่มีปืนพกและกล้องถ่ายรูปใช้ จึงให้จำเลยเบิกจากกองกำกับการตำรวจรถไฟเพื่อใช้ในราชการ เจ้าหน้าที่ได้มอบปืนพก 1 กระบอก และกล้องรูป 1 กล้อง ให้แก่ จำเลยไปเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลย ต่อมาจำเลยหลบหนีราชการและได้เบียดบังเอาปืนและกล้องถ่ายรูปนั้นไว้เป็นของตนโดยทุจริต ดังนี้ จำเลยมิใช่เจ้าพนักงานซึ่ง ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 147 แห่ง ประมวลกฎหมายอาญา จำเลยจึงไม่ผิดตามมาตราซึ่ง แต่ผิดตามมาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของเจ้าพนักงาน: การจำกัดความรับผิดตาม ม.147 และความผิดตาม ม.158
จำเลยเป็นตำรวจกองบังคับการตำรวจรถไฟมีหน้าที่อารักขาพนักงานรถไฟสืบสวนคดี และถ่ายรูปประกอบคดีในเขตการรถไฟแต่กองบังคับการไม่มีปืนพกและกล้องถ่ายรูปใช้จึงให้จำเลยเบิกจากกองกำกับการตำรวจรถไฟเพื่อใช้ในราชการ เจ้าหน้าที่ได้มอบปืนพก 1 กระบอกและกล้องถ่ายรูป 1 กล้องให้แก่จำเลยไปเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของจำเลย ต่อมาจำเลยหลบหนีราชการและได้เบียดบังเอาปืนและกล้องถ่ายรูปนั้นไว้เป็นของตนโดยทุจริตดังนี้จำเลยมิใช่เจ้าพนักงานซึ่ง ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 147แห่งประมวลกฎหมายอาญา จำเลยจึงไม่ผิดตามมาตรานี้แต่ผิดตามมาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 379/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นติชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานโดยสุจริต ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329
การฟ้องให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทจะต้องได้ความว่าจำเลยจงใจเจตนาใส่ความเพื่อให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง
การที่โจทก์ไปเก็บเงินมาจากพ่อค้าแม่ค้า โดยวิธีที่ไม่งาม นอกเหนือระเบียบแบบแผนการบริหารราชการ ส่งให้เห็นไปได้ว่า โจทก์ทำการทุจริตในหน้าที่ จำเลยจึงร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงชี้ว่าจำเลยเจตนาร้าย กลั่นแกล้ง ตรงข้ามกลับฟังได้ว่า จำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เพื่อป้องกันส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับตนผู้เป็นสมาชิกสภาเทศบาลและราษฎรในเขตเทศบาล กรณีต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ย่อมไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ผู้ออกเช็คในการตรวจสอบการปฏิเสธการจ่ายเงิน - มาตรา 5 พ.ร.บ. เช็ค
มาตรา 5 มีความมุ่งหมายเพียงว่า ความผิดเกี่ยวกับเช็คที่เกิดขึ้นแล้วตามมาตรา 3 นั้น ให้ถือว่าเป็นอันเลิกกันในเมื่อผู้ออกเช็คได้นำเงินตามจำนวนในเช็คไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คหรือธนาคารภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน ฉะนั้น ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินเมื่อไร จึงเป็นหน้าที่ของผู้ออกเช็คที่จะต้องติดต่อสอบถามเองไม่ใช่หมายความว่าธนาคารจะต้องบอกกล่าวให้ผู้ ออกเช็คทราบถึงการปฏิเสธไม่จ่ายเงินเสียก่อน ความผิดตามมาตรา 3 จึงจะเกิดขึ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ทนายความหลังตัวความเสียชีวิต: ฎีกายังชอบด้วยกฎหมาย
แม้ตัวความจะถึงแก่กรรมไปแล้ว ทนายความก็ยังมีหน้าที่ต้องจัดการดำเนินคดี เพื่อจะปกปักรักษาประโยชน์ของตัวความต่อไปตามที่จำเป็นตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 828 ฉะนั้น การที่ทนายความฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว ยื่นฎีกาภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันฟังคำพิพากษา แม้จะปรากฏว่าในระหว่างนั้นตัวความถึงแก่กรรมเสียแล้ว ฎีกาที่ทนายยื่นไว้ต่อศาล ก็ย่อมชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1098/2505

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่ส่งสำเนาฎีกาและการทิ้งฟ้อง: ศาลสั่งซ้ำความในกฎหมายไม่ได้ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง
ตามปกติในคดีแพ่ง เมื่อศาลสั่งรับอุทธรณ์หรือฎีกาแล้ว ก็สั่งไว้ด้วยว่าให้คู่ความที่ยื่นอุทธรณ์หรือฎีกานั้นนำส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งแก้ภายในกี่วันก็ตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนด หมายความว่า คู่ความฝ่ายนั้นจะต้องมานำส่งสำเนาภายในกำหนดเวลานั้นนับแต่วันทราบคำสั่งศาล ถ้าไม่ปฏิบัติตามและไม่สามารถชี้แจงเหตุขัดข้อง ศาลก็อาจวินิจฉัยสั่งว่าเป็นการทิ้งฟ้องได้
เมื่อศาลสั่งว่า "ให้รับฎีกาและนำส่งสำเนาให้จำเลยแก้ภายใน 15 วันนับแต่วันรับสำเนาฎีกา" เป็นการสั่งซ้ำความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 237, 247 และมิได้สั่งกำหนดวันให้โจทก์นำส่งสำเนาฎีกา ครบกำหนด 15 วันแล้ว โจทก์ยังไม่ติดต่อนำส่งสำเนาฎีกา ศาลก็จะสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องฎีกาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหน้าที่ทุจริตหน้าที่ & แจ้งเท็จเพื่อประโยชน์ผู้อื่น
จำเลยเป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จดบัญชีสัตว์พาหนะ ทำบัญชีลูกคอกสัตว์พาหนะเท็จตามคำขอร้องของลูกบ้าน แม้จะไม่ได้รับสินจ้างรางวัล แต่ทำให้ลูกบ้านได้รับประโยชน์นำไปใช้อ้างต่อตำรวจที่ยึดโคนั้น นับว่าเป็นการแสวงหาประโยชน์สำหรับผู้อื่นแล้ว จึงถือได้ว่าจำเลยปฏิบัติหน้าที่ทุจริต มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162
ลูกบ้านต้องการหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านจดข้อความอันเป็นเท็จลงไปในบัญชีสัตว์พาหนะนั้น ย่อมมีความผิดฐานแจ้งเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 แต่ไม่ผิดฐานสนับสนุนในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ เพราะการทุจริตต่อหน้าที่เป็นผิดเฉพาะของเจ้าพนักงาน การแจ้งเท็จหาได้เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการทุจริตต่อหน้าที่อีกชั้นหนึ่งไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่โจทก์ในการพิสูจน์การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย เพื่อให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนและมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และจำเลยใช้อาวุธปืนนั้น จำเลยปฏิเสธตลอดข้อหา ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยใช้ปืนยิงขู่ ไม่มีเจตนาจะฆ่า เช่นนี้ เกี่ยวกับอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบว่าปืนนั้นไม่มีทะเบียน และจำเลยไม่มีใบอนุญาต มิฉะนั้น ก็ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตไม่ได้(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 15/2504)
of 71