พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินต้องมีหลักฐานการกระทำความผิดและมีการฟ้องร้องลงโทษฐานความผิดนั้น
ศาลจะสั่งริบทรัพย์สินที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดได้ ก็ต่อเมื่อมีการกระทำความผิดนั้นและโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดนั้นด้วย เมื่อไม่ปรากฏว่ามีความผิดฐานเสพ กัญชาเกิดขึ้น และโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐาน เสพกัญชา โจทก์จะขอให้ศาลสั่งริบบ้องกัญชาและมีดสำหรับหั่นกัญชา ที่จำเลยมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดฐานเสพกัญชาหาได้ไม่ แม้จำเลยจะรับสารภาพว่ามีทรัพย์ดังกล่าวไว้เพื่อใช้ในการกระทำ ความผิดฐานเสพกัญชา ศาลก็ไม่มีอำนาจสั่งริบ ศาลสั่งคืนให้แก่เจ้าของ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1589/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจอดรถกีดขวางการจราจรและอำนาจของเจ้าพนักงานในการเคลื่อนย้ายรถ เจ้าของรถต้องแสดงหลักฐานความเป็นเจ้าของ
โจทก์จอดรถในที่มีเครื่องหมายห้ามจอดรถ โดยไม่แสดงเครื่องหมายว่ารถเสียเจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจเคลื่อนย้ายรถของโจทก์ไปมอบให้จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวน แต่โจทก์เพิ่งนำหลักฐานการเป็นเจ้าของรถมาแสดงต่อจำเลยที่ 2 เมื่อเวลาล่วงเลยไปเกือบ 3 เดือน จำเลยที่ 2 ก็คืนรถให้โจทก์ไปดังนี้ จำเลยที่ 2 มิได้มีเจตนากลั่นแกล้งให้โจทก์ได้รับความเสียหาย การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นละเมิดต่อโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1577/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แม้สัญญากู้ไม่ขีดฆ่าแสตมป์ แต่การรับสภาพหนี้โดยจำเลย ยังคงใช้เป็นหลักฐานได้
ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 นอกจากให้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบจำนวนแล้ว จะต้องขีดฆ่าแสตมป์แล้วด้วย จึงจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ แม้สัญญากู้ที่โจทก์นำมาฟ้องไม่ได้ขีดฆ่าแสตมป์อันจะใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งไม่ได้ก็ตาม แต่เมื่อจำเลยให้การรับว่าจำเลย ได้เขียนสัญญากู้มอบให้โจทก์ไว้ ก็ย่อมฟังได้ว่าจำเลยกู้เงิน โจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยไม่ต้องอาศัยฟังจากเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรับสภาพหนี้ใช้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ แม้ไม่ใช่สัญญา
เอกสารที่จำเลยทำให้โจทก์มีข้อความว่าจำเลยจะนำเงินจำนวน 50,000 บาทมาใช้ให้แก่โจทก์ภายในเดือนพฤษภาคม 2526 แสดงว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์ตามจำนวนที่ระบุไว้ ใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารรับสภาพหนี้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ แม้ไม่ได้ระบุคำว่า 'กู้ยืม'
เอกสารที่จำเลยทำให้โจทก์มีข้อความว่าจำเลยจะนำเงินจำนวน 50,000 บาทมาใช้แก่โจทก์ภายในเดือนพฤษภาคม 2526 แสดงว่าจำเลย เป็นหนี้โจทก์ตามจำนวนที่ระบุไว้ ใช้เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: การประมูลที่ชอบด้วยกฎหมายและหลักฐานการกดราคา
เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยไม่ได้ทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา และมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาโดยชอบ เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้สู้ราคาสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ก็รายงานต่อศาลเพื่อพิจารณาว่าสมควรตกลงขายให้ผู้สู้ราคาสูงสุดหรือไม่ เมื่อไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อ ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุด ต้องถือว่าการขายทอดตลาดสมบูรณ์แล้ว จำเลยจะขอให้งดการขายหรือยกเลิกการขายหรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ โดยแสดงราคาประเมินทรัพย์ที่ขายทอดตลาดของทางราชการว่ามีราคาสูงกว่าราคาที่ขายทอดตลาด หรือแสดงบันทึกคำมั่นของผู้มีชื่อว่าจะซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาที่ขายทอดตลาดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1309/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: การคัดค้านราคาต่ำต้องแสดงหลักฐานราคาที่แท้จริงและผู้เสนอซื้อจริง
เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยไม่ได้ทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษา และมีบุคคลภายนอกเข้าสู้ราคาโดยชอบ เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นว่ามีผู้สู้ราคาสูงกว่าราคาที่ประเมินไว้ก็รายงานต่อศาลเพื่อพิจารณาว่าสมควรตกลงขายให้ผู้สู้ราคาสูงสุดหรือไม่เมื่อไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าการประมูลซื้อทรัพย์เป็นการสมรู้กันกดราคาซื้อ ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้ขายแก่ผู้สู้ราคาสูงสุด ต้องถือว่าการขายทอดตลาดสมบูรณ์แล้วจำเลยจะขอให้งดการขายหรือยกเลิกการขายหรือรื้อฟื้นให้ศาลสั่งขายทอดตลาดใหม่ โดยแสดงราคาประเมินทรัพย์ที่ขายทอดตลาดของทางราชการว่ามีราคาสูงกว่าราคาที่ขายทอดตลาด หรือแสดงบันทึกคำมั่นของผู้มีชื่อว่าจะซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาที่ขายทอดตลาดไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานโจทก์มีพิรุธ คำเบิกความมีน้ำหนักน้อย ขาดหลักฐานยืนยันความผิดจำเลยที่ 2
พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ใช้จ้างวานให้จำเลยที่ 1 กับพวกไปฆ่าผู้ตาย นับว่ามีพฤติการณ์เป็นผู้ที่ร่วมกระทำผิดด้วย จึงถือได้ว่าเป็นคำซัดทอดของผู้ที่กระทำผิดเพื่อให้ตนเองพ้นจากการเป็นผู้ต้องหาเพราะพนักงานสอบสวนย่อมจะกันไว้เป็นพยานเพื่อให้เบิกความปรักปรำจำเลยที่ 2 ทำให้มีข้อระแวงสงสัยว่าพยานอาจกระทำตามลำพังเอง หรืออาจได้รับการติดต่อจากบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่จำเลยที่ 2 ทั้งนี้เพื่อให้ตนและผู้ที่ใช้จ้างวานตนพ้นผิด ดังนี้ คำเบิกความของพยานปากดังกล่าวจึงมีน้ำหนักน้อย จะนำมาใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งให้การปฏิเสธตลอดมาหาได้ไม่
การที่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนว่าพยานปากนี้บอกว่าได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าจ้างให้ฆ่าผู้ตายนั้นเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่จำเลยที่1 ได้รับทราบจากปากคำของพยานเท่านั้น จึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
การที่จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนว่าพยานปากนี้บอกว่าได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าจ้างให้ฆ่าผู้ตายนั้นเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่จำเลยที่1 ได้รับทราบจากปากคำของพยานเท่านั้น จึงไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานและการรับฟังคำเบิกความเดิมในคดีอื่นเป็นหลักฐานยืนยันสิทธิภารจำยอม
คำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 หากโจทก์เห็นว่าการงดสืบพยานไม่ถูกต้อง โจทก์จะต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้เมื่อโต้แย้งแล้วจึงจะอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้ภายในหนึ่งเดือนนับแต่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี ตามที่บัญญัติไว้ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) เมื่อนับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวจนถึงวันนัดฟังคำพิพากษานานประมาณ 45 วันเวลาที่โจทก์จะโต้แย้งได้ ก็หาโต้แย้งไม่ และที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ไว้ซึ่งมีประเด็นที่ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์รวมอยู่ด้วยก็ไม่ทำให้ประเด็นที่ไม่มีสิทธิอุทธรณ์กลับเป็นสิทธิอุทธรณ์ขึ้นได้ โจทก์จึงฎีกาปัญหาข้อนี้ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242(1) และมาตรา 247 โจทก์เคยเบิกความเกี่ยวกับเรื่องทางพิพาทในคดีอื่น ยอมรับว่าถ้าจะใช้ทางพิพาทจะต้องขออนุญาตจาก ส.เจ้าของที่ดินเดิมก่อนเป็นการยอมรับในสิทธิของทางพิพาทว่าเป็นของ ส.และในวันชี้สองสถานโจทก์ยอมรับว่าโจทก์ได้เบิกความไว้จริงโจทก์ ก็มิได้กล่าวอ้างว่าคำเบิกความของตนไม่ถูกต้อง ทั้งมิได้คัดค้านการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานเพื่อขอนำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่น คำเบิกความของโจทก์ในคดีดังกล่าวจึงนำมารับฟังในคดี นี้ได้ว่า โจทก์ต้องขออนุญาตใช้ทางพิพาทจากบุคคลอื่นเมื่อทางพิพาท เปลี่ยนกรรมสิทธิ์มาเป็นของจำเลย จำเลยย่อมได้รับประโยชน์นั้นด้วยแม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทนานเท่าใด ก็อ้างสิทธิเป็นทางภาระจำยอมหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4508/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักฐานการกู้ยืมได้ แม้ไม่ได้ระบุชัดเจน
ทำหนังสือรับสภาพหนี้ระบุว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์เป็นจำนวนแน่นอนข้อความด้าน หลังก็ระบุว่าเป็นอันลบล้างหนังสือสัญญากู้ทุกฉบับที่จำเลยทำไว้ต่อโจทก์ ดังนี้ หมายถึงหนี้เงินกู้ยืมหนังสือรับสภาพหนี้จึงเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมตาม ป.พ.พ.มาตรา 653.