พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,022 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2400/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความพยายามฆ่าที่ไม่บรรลุผลจากอาวุธปืนทำเองความเร็วต่ำ ไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายในระยะห่าง1-2เมตรกระสุนปืนถูกผู้เสียหายที่ราวนมซ้ายบาดแผลขนาด1X1เซนติเมตรรอบๆบาดแผลมีรอยถลอกเล็กๆหลายแผลรักษาหายภายใน14วันผลการเอกซเรย์ไม่พบโลหะในร่างกายของผู้เสียหายแพทย์ผู้ทำการตรวจชันสูตรบาดแผลของผู้เสียหายสันนิษฐานว่ากระสุนปืนทำขึ้นเองความเร็วต่ำไม่อาจทำอันตรายถึงแก่ความตายได้ทั้งไม่ได้ความว่าถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงแก่ความตายได้แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้เสียหายถึงตายได้ถือว่าการกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้เพราะปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา81.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย: เหตุบรรเทาโทษจากคุณความดีและความร่วมมือกับราชการ
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม 16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย รับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานี โดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต ลดโทษจากคุณความดีและประโยชน์ต่อสังคม
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่นส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลยรับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานีโดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1811/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างที่ประพฤติชั่วร้ายแรง: การพกพาอาวุธปืนและประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
ตามระเบียบข้อบังคับของนายจ้าง นายจ้างไล่ลูกจ้างออกจากงานได้หากลูกจ้างประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง การที่ลูกจ้างพกพาอาวุธปืนและนำไปจ่อหน้าอกเด็กชาย ต. ในขณะที่ลูกจ้างมึนเมาสุรา กระสุนปืนลั่นโดยประมาทเป็นเหตุให้เด็กชาย ต.ถึงแก่ความตาย ศาลได้พิพากษาลงโทษจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้ และลูกจ้างยังถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ อีกกระทงหนึ่งซึ่งศาลได้พิพากษาจำคุกแต่ให้รอการลงโทษไว้อีกเช่นเดียวกันกรณีดังกล่าวถือได้ว่าลูกจ้างได้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงอันเป็นเหตุที่นายจ้างจะไล่ออกจากงานได้ตามระเบียบดังกล่าวแล้ว การเลิกจ้างจึงเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม และนายจ้างเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครอง, พาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมือง แม้ไม่มีของกลาง ก็ลงโทษได้
คดีความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ และความผิดลหุโทษเกี่ยวกับอาวุธปืน แม้ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลาง แต่ฟังได้ว่าจำเลยชักอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ก็ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามฆ่า พิจารณาจากอาวุธปืนที่ใช้และบาดแผลของผู้ถูกยิง
จำเลยใช้ปืนยิง ร. ในระยะใกล้เพียง 1 วา กระสุนปืนถูก ร.ลึกฝังใต้ผิวหนังรักษา 10 วันหาย และกระสุนปืนพลาดไปถูก ช.บาดแผลผิวหนังฉีกขาดตื้นรักษา 5 วันหาย ไม่ได้ความจากแพทย์ว่า ถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงแก่ความตายได้แสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้ ถือว่าจำเลยมุ่งประสงค์จะฆ่า แต่ปืนอันเป็นปัจจัยในการที่จำเลยใช้ยิงไม่บรรลุผลอย่างแน่แท้ ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพและการพิจารณาโทษในความผิดอาวุธปืน: เกณฑ์อัตราโทษต่ำสุดและดุลพินิจรอการลงโทษ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 วรรคแรก มิได้ถือเอาอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นข้อสำคัญ แต่ถือเอาอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปเป็นเกณฑ์ กล่าวคือ ในความผิดฐานใดที่มีอัตราโทษอย่างต่ำจำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือความผิดที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษประหารชีวิตสถานเดียว แม้จำเลยให้การรับสารภาพ กฎหมายก็บังคับให้ศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยได้ คดีนี้เมื่อข้อหาความผิดตามที่โจทก์ฟ้องมีอัตราโทษอย่างสูงจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 2 ปีถึง 20 ปี โทษจำคุกตลอดชีวิตนี้ถึงแม้จะเป็นโทษที่หนักกว่าโทษจำคุก 5 ปี แต่ก็เป็นอัตราโทษอย่างสูง ส่วนอัตราโทษอย่างต่ำในความผิดฐานนี้ให้จำคุกตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป ซึ่งศาลอาจลงโทษจำคุกจำเลยต่ำกว่าโทษจำคุกตลอดชีวิตลงมาจนถึงจำคุก 2 ปีได้ ดังนั้นเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่จำต้องสืบพยานประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยอีก
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน และเครื่องกระสุนปืนอันเป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดฐานนี้ก็มีเพียง 3 นัด นอกจากนี้ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีกกระทงหนึ่งนั้น ศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษารอการลงโทษให้จำเลยและคดีเป็นอันยุติไปแล้ว ตามพฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีเห็นสมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยในความผิดฐานนี้ด้วย
ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยรับโทษจำคุกมาก่อน และเครื่องกระสุนปืนอันเป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดฐานนี้ก็มีเพียง 3 นัด นอกจากนี้ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนอีกกระทงหนึ่งนั้น ศาลชั้นต้นก็ได้พิพากษารอการลงโทษให้จำเลยและคดีเป็นอันยุติไปแล้ว ตามพฤติการณ์และเหตุผลแห่งรูปคดีเห็นสมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลยในความผิดฐานนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ เนื่องจากฎีกาเป็นการโต้แย้งข้อเท็จจริง
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่ 3 ชักปืนออกจากหน้าท้องส่งให้จำเลยที่ 1 จึงเชื่อได้ว่าจำเลยที่ 3 มีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตซึ่งอาวุธปืนของกลางและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร จำเลยที่ 3 ฎีกาว่าจำเลยที่ 3 ถือปืนไว้ชั่วคราวมิได้มีเจตนายึดถือเพื่อตน จึงไม่ถือว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯนั้นข้อเท็จจริงที่จำเลยที่ 3 ยกขึ้นมาเป็นข้อฎีกาเพื่อปรับบทความผิดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมา เป็นฎีกาที่ให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงต่างกับที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 3 ในความผิดกระทงแรกจำคุก 2 ปี กระทงหลังจำคุก 1 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ฎีกาของจำเลยที่ 3 จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
จำเลยที่ 3 มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองแล้วพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะนั้น เห็นได้ว่ามีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลเป็นความผิดหลายอย่างต่างกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
จำเลยที่ 3 มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองแล้วพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะนั้น เห็นได้ว่ามีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลเป็นความผิดหลายอย่างต่างกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1057/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: ปัญหาข้อเท็จจริงและกรรมต่างกัน
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยที่3ชักปืนออกจากหน้าท้องส่งให้จำเลยที่1จึงเชื่อได้ว่าจำเลยที่3มีไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตซึ่งอาวุธปืนของกลางและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรจำเลยที่3ฎีกาว่าจำเลยที่3ถือปืนไว้ชั่วคราวมิได้มีเจตนายึดถือเพื่อตนจึงไม่ถือว่าจำเลยที่3เป็นผู้ครอบครองอาวุธปืนไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯนั้นข้อเท็จจริงที่จำเลยที่3ยกขึ้นมาเป็นข้อฎีกาเพื่อปรับบทความผิดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่แตกต่างจากข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นฎีกาที่ให้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงต่างกับที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่3ในความผิดกระทงแรกจำคุก2ปีกระทงหลังจำคุก1ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืนฎีกาของจำเลยที่3จึงเป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้. จำเลยที่3มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองแล้วพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะนั้นเห็นได้ว่ามีเจตนาที่จะทำให้เกิดผลเป็นความผิดหลายอย่างต่างกันการกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและความจำเป็นตามสถานการณ์: การพิจารณาความผิดและเหตุบรรเทาโทษ
จำเลยพาอาวุธปืนไปที่หน้าโรงงานของบริษัทที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานให้มีอาวุธปืนติดตัว เนื่องจาก นาง ก. พานางสาว น. ไปพบบิดามารดาของจำเลยที่บ้านจำเลยเพื่อเจรจาในการที่จะสู่ขอนางสาว น. เป็นภรรยาจำเลย นาง ก. และนางสาว น. จะกลับบ้าน เป็นเวลาดึกมากแล้ว จำเลยจึงนั่งรถไปส่งบุคคลทั้งสองที่บริษัท การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปดังกล่าว ถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ เพราะไม่แน่ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแต่เป็นกรณีที่สมควรรอการลงโทษจำเลย